Final Destination ภาพยนตร์แฟรนไชส์สัญชาติอเมริกันสุดโด่งดังที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในอเมริกา เอเชีย และยุโรป เรื่องราวในแต่ละภาคจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องประสบเหตุการณ์ตายหมู่ แต่ด้วยตัวละครเอกที่มีนิมิตมองเห็นความตายล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาหรือเธอจึงออกมาเตือนผู้คน คนที่ไม่เชื่อมักจะตายในเหตุการณ์นั้นทันที ส่วนคนที่รอดชีวิตจากโศกนาฏกรรมกลับต้องเผชิญกับเรื่องราวน่าสยดสยองตามมา เนื่องจากพวกเขา “โกงความตาย” ทำให้การตายพยายามไล่ล่าพวกเขา
ย้อนรอยปฐมบทไฟนอล เดสติเนชั่นก่อนส่งไม้ต่อภาค Bloodlines
ภาพยนตร์ชุดแรกของแฟรนไชส์ ไฟนอล เดสติเนชั่น (โกงความตาย) ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี 2000 และถูกสร้างเป็นภาคต่อมาจนถึงภาค 5 ก่อนเว้นช่วงไปกว่า 14 ปี กลับในชื่อตอน Bloodlines ที่เข้าฉายในปี 2025 การกลับมาครั้งนี้ยังคงจัดเต็มความโหด ดิบ เลือดสาดไม่แพ้ภาคก่อน ๆ
บทความนี้ Ghostsfolder จะพาแฟนหนังไปย้อนรอยเรื่องราวก่อนหน้าภาค Bloodlines หนังน่าดู 2025 ภาคใหม่ล่าสุดของแฟรนไชส์ที่ได้รับกระแสตอบรับดีทั้งฝั่งตะวันตกและเอเชีย
ย้อนเรื่องราวในภาค 1 : เปิดปฐมบทการโกงความตาย
ไฟนอล เดสติเนชั่น ภาคแรกเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนมัธยมปลายที่กำลังจะไปทัศนศึกษาที่ปารีส “อเล็กซ์ บราวนนิ่ง” นักเรียนชายที่เกิดนิมิตเห็นภาพเครื่องบินที่เขาและเพื่อน ๆ นั่งอยู่เกิดอุบัติเหตุตายยกลำ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่ามีเหตุการณ์ที่คล้ายกับความฝัน เขาจึงเตือนคนอื่นอย่างตื่นตระหนก
ในเหตุการณ์นั้นมีนักเรียนเพียง 6 คนเท่านั้นที่ยอมลงจากเครื่องบิน ทำให้พวกเขาทั้ง 7 คน (รวมอเล็กซ์) รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ในขณะที่เครื่องบินลำนั้น5rzก็ตกต่อหน้าพวกเขาตามที่อเล็กซ์พูดจริง พวกเขาโล่งใจที่รอดตายอย่างหวุดหวิด แต่หารู้ไม่ว่าความตายกำลังคืบคลานมาหาพวกเขาทีละคน
เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้พวกเขาทั้ง 7 คนต้องพบกับความตายน่าสยดสยองที่พวกเขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะพวกเขาได้ชื่อว่า “โกงความตาย” ตามที่สัปเหร่อ “วิลเลี่ยม” ได้บอก โดยลำดับการตายของแต่ละคนจะเรียงตามตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบิน โอกาสรอดจากความตายคือพวกเขาจะต้องหาทางรู้รูปแบบการตายของแต่ละคนล่วงหน้า แต่หากใครโกงความตายอีก คนถัดไปจะต้องตายแทน
เรื่องราวโกงความตายภาค 2
เรื่องราวต่อจากภาคแรกประมาณ 1 ปี ดำเนินเรื่องผ่าน “คิมเบอร์ลี” นักศึกษาสาวที่มีลางสังหรณ์มองเห็นภาพรถบรรทุกท่อนซุงขนาดใหญ่หล่นกลางถนน ทำให้รถของผู้คนบนท้องถนนและรถของเธอกับเพื่อน ๆ ต้องประสบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้อง เธอจึงขับรถมาขวางเพื่อห้ามไม่ให้รถที่จอดอยู่ขับไปบนเส้นทางนั้น
เนื้อเรื่องภาคนี้เชื่อมต่อกับภาคแรก ในขณะที่ตัวละครหลักของภาค 1 ตายหมด เหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ “เคลียร์ รีเวิร์ส” นักเรียนสาวที่หลบตัวเองในโรงพยาบาลจิตเวชเพื่อหลีกหนีเหตุการณ์ที่เธอประสบพบเจอมาในภาคแรก คิมเบอร์ลี่จึงร่วมมือกับเคลียร์ และโทมัส ตำรวจหนุ่มที่เป็นหนึ่งในบุคคลโกงความตาย เงื่อนไขของการมีชีวิตรอดในภาคนี้คือ “การเกิดใหม่หรือการมีชีวิตใหม่” เรื่องราวในภาคนี้ก็จบลงด้วยการตายของตัวละครที่ขึ้นชื่อว่าโกงความตาย รวมถึงการตายของเคลียร์ ในขณะที่คิมเบอร์ลี่และตำรวจหนุ่มรอดชีวิตเพราะพวกเขาทำตามเงื่อนไขเรื่อง “การกำเนิดใหม่” รอดตายจากการเกือบจมน้ำ
สานต่อเนื้อเรื่องสู่ภาค 3
ความสยองของเหล่าผู้โกงความตายในไฟนอล เดสติเนชั่นภาค 3 เริ่มต้นขึ้นเมื่อ “เวนดี้” ที่กำลังไปเล่นรถไฟเหาะที่สวนสนุกกับเพื่อน ๆ และน้องสาวของเธอ เธอกลับมองเห็นภาพการเกิดอุบัติเหตุบนรถไฟเหาะที่เธอและเพื่อน ๆ นั่งอยู่ และมันกำลังออกตัวในไม่ช้า เธอจึงร้องโวยวายและตะโกนร้องบอกทุกคนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
Hint ของภาคนี้อยู่ที่รูปถ่ายของแต่ละคนที่ถ่ายตอนอยู่สวนสนุก เหตุการณ์ แสง สี หรือองค์ประกอบในภาพจะบ่งบอกถึงการตายของแต่ละคน เมื่อล่วงรู้ล่วงหน้าก็จะรอด
เหตุการณ์ในภาคนี้ดูเหมือนว่าจะจบลงจากการรอดจากความตายของ 3 ตัวละคร เวนดี้ จูลี่ และเควิน แต่ความตายก็พาพวกเขากลับมาเจอกันโดยบังเอิญอีกครั้งหลังจากผ่านไป 5 เดือน ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะกลับมาปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ท้ายสุดหนังก็จบลงด้วยความตายของเหล่า 3 ตัวละครที่ต้องประสบอุบัติเหตุการณ์พร้อมกันที่รถไฟใต้ดิน ในภาคนี้จึงไม่มีใครรอดชีวิตเหมือนภาค 1 และ 2
เนื้อเรื่องในภาค 4
จุดเริ่มต้นของการโกงความตายเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่เข้าไปดูการแข่งรถ NASCAR – McKinley Speedway เมื่อตัวละครเอก “นิค” มองเห็นภาพการตายของผู้ชมในสนามที่ต้องหนีตายจากอุบัติเหตุรถแข่งในสนาม เขาและผู้โกงความตายอีก 9 คนหนีออกมาจากสนามได้ พวกเขาต้องเผชิญกับความตายหลากหลายรูปแบบ ในภาคนี้นิคและเพื่อน ๆ สืบเรื่องราวจนได้ความว่า หากพวกเขาช่วยชีวิตคนที่จะตายก่อนหน้าได้ คนถัดไปก็จะรอด แต่ท้ายสุดในภาคนี้กลับจบด้วยการตายของทุกตัวละคร รวมถึง 3 ตัวละครหลักอย่าง นิค เจเน็ท และโลริที่ถูกรถพุ่งชนพร้อมกันขณะนั่งอยู่ในร้านอาหาร
สรุปภาค 5 : กลับสู่จุดเริ่มต้น
ในภาค 5 เล่าเรื่องราวของกลุ่มผู้โกงความตาย แซม มอลลี่ นาธาน ไอแซก โอลิเวีย แคนดิส ปีเตอร์ และเดนนิส แซมมองเห็นนิมิตว่าสะพาน North Bay ที่เขาและเพื่อนกำลังนั่งรถข้ามไปกำลังจะถล่มลง ในนิมิตแซมเห็นผู้คนที่อยู่บนสะพานแห่งนั้นเสียชีวิต เขาและแฟนสาวจึงพากันออกจากสะพาน รวมถึงผู้โกงความตายอีก 6 คน
แซมสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์น่าประหลาดหลังเหตุการณ์สะพานถล่ม หลังจากนั้นเหล่าผู้รอดชีวิตต่างก็ทยอยตายกันทีละคน โดยเรียงลำดับจากผู้ตายที่เขาเห็นในนิมิต แซมรับรู้จาก “วิลเลี่ยม” ว่าการที่จะรอดจากความตายคือพวกเขาจะต้องหาคนมาตายแทน แต่ท้ายสุดตอนจบของภาค 5 กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโกงความตายทั้งหมด
โดยตอนจบของภาค 5 โยงเนื้อเรื่องไปยังตอนต้นเรื่องของภาค 1 ที่อเล็กซ์เห็นนิมิตการตายบนเที่ยวบิน 180 และจบลงด้วยการตายของตัวละครทั้งหมดในภาค 5 ก่อนจะเริ่มเรื่องราวน่าสยดสยองในภาค 1
เข้าสู่ภาค Bloodlines ทายาทโกงตาย (ไม่สปอย)
หลังจากทิ้งช่วงไปนานกว่า 14 ปี หนังดังระดับตำนานอย่าง “ไฟนอล ดิสทิเนชัน” ก็กลับมาอีกครั้งในชื่อตอน Bloodlines โดยใช้ชื่อภาษาไทยว่า “ทายาทโกงตาย” ในภาคนี้ต่างจากภาคก่อน ๆ ที่ตัวละครหลักจะต้องเผชิญกับความตายร่วมกับเหล่าคนแปลกหน้าหรือเป็นเพื่อนและแฟนกัน แต่สำหรับภาค Bloodlines จะเล่าเส้นเรื่องการเผชิญกับหายนะร่วมกับคนในครอบครัวเดียวกัน
เรื่องราวเกี่ยวข้องกับ “สเตฟานี” นักศึกษาสาวที่ฝันถึงเหตุการณ์แปลก ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอจึงตัดสินใจไปพบกับคุณย่าของเธอที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์หอชมวิวถล่มเมื่อปี 1968 และนั่นทำให้เธอต้องรับรู้ถึงเรื่องราวการโกงความตายที่ตามมาด้วยเหตุการณ์สุดระทึก
Final Destination หนังน่าดู ตลอดกาล ที่ได้รับกระแสตอบรับดีทั่วโลก ล่าสุดภาค Bloodlines ก็สามารถโกยรายได้ไปถึง $102 ล้านเหรียญทั่วโลก ด้วยทุนสร้างเพียง $50 ล้านเหรียญ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 16 พฤษภาคม 2025 นับว่าเป็น หนังน่าดู 2025 ที่มีกระแสแรงสุดในกลางปี 2025 และแฟน ๆ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันส์โคตร ๆ
อ่านเรื่องราวสุดหลอนและเรื่องราวลี้ลับรอบโลกเพิ่มเติมได้ที่ https://ghostsfolder.com
