รวม 7 คดีฆาตกรรม สะเทือนขวัญ คดีดังช็อกโลก!

คดีฆาตกรรม 7 คดี ฆ่าโหด สะเทือนขวัญ คดีดังช็อกโลก!

หัวข้อน่าสนใจ

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า คดีฆาตกรรม นั้นเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน และจะมีอยู่ในทุกประเทศทั่วโลกซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ถึงเหตุจงใจในการลงมือของพวกใจเหี้ยมเหล่านั้นได้ เมื่อฆาตกรฉวยโอกาสก่ออาชญากรรมจนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ทำให้เป็นวันแห่งความตายของเหยื่อผู้บริสุทธิ์เหล่านี้ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีก วันนี้เราเลยมี 7 คคดีฆาตกรรม สะเทือนขวัญ คดีดังช็อกโลก! ที่ไม่คิดว่าจะลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนี้

1. คดีฆาตกรรม : เด็กชายผู้น่าสงสารกับขนมหวานอาบยาพิษ

เด็กชายผู้น่าสงสารกับขนมหวานอาบยาพิษ
ทิโมธี โอไบรอัน วัย 11 ขวบ ที่ให้ขนมหวานอาบยาพิษ เพราะต้องการฆ่าลูกชายเพื่อเอาเงินประกันมาชดใช้หนี้

ในปี ค.ศ. 1974 ทิโมธี โอไบรอัน วัย 11 ขวบ ก็เหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ไปเคาะประตูบ้าน เพื่อ Trick or Treat และรับขนมหวานตามบ้านคนแปลกหน้าในคืนวันฮาโลวีน แต่ใครจะรู้ว่าขนมชิ้นสุดท้ายที่เขาได้รับนั้นกลับทำให้เขาเสียชีวิต ซึ่งเมื่อทำการสืบสวนก็พบว่าโรนัลด์พ่อของเขาเองนั่นและ ที่ให้ขนมหวานอาบยาพิษ เพราะต้องการฆ่าลูกชายเพื่อเอาเงินประกันมาชดใช้หนี้ บทสรุปของเรื่องนี้จบลงด้วยการประหารชีวิตผู้เป็นพ่อ และทำให้พ่อแม่ชาวอเมริกันพากันตรวจเช็กขนมหวานที่เด็กๆ รับมาอย่างระมัดระวังตั้งแต่นั้นมา

2. คดีฆาตกรรม : อยากได้ขนมหวานแต่กลับได้กระสุนปืน

เมื่อมีคนมาเคาะประตูบ้านในคืนฮาโลวีนปี 2008 เควนติน แพตทริก ไม่ได้หยิบขนมหวาน แต่กลับหยิบปืนกล AK-47 กระหน่ำยิงเด็กชายผู้เคราะห์ร้ายจนร่างพรุนไปถึง 29 นัด พร้อมกับทำให้พี่ชายและพ่อของเขาได้รับบาดเจ็บ นั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่ผู้ใหญ่ใจดี หากแต่เป็นเจ้าพ่อค้ายาในรัฐเซาธ์แคโรไลน่า ซึ่งกำลังหัวเสียกับสงครามระหว่างแก๊ง ส่งผลให้เขาถูกจับและรับโทษจำคุก 30 ปี เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้ คงสรุปได้อย่างเดียวว่า อย่าเคาะประตูผิดบ้านเป็นอันขาด

3. ฆาตกรรมยกบ้านของลูกชายสุดเหี้ยม

ฆาตกรรมยกบ้านของลูกชายสุดเหี้ยม
ลิสค์ จูเนียร์ เมื่อเขาได้ทำการฆาตกรรมยกบ้านในรัฐมิชิแกนอย่างเหี้ยมโหดในปี 2010 ด้วยการยิงพ่อแท้ๆ ถึง 5 นัด ทำร้ายร่างกายและยิงแม่เลี้ยง 1 นัด และทุบลูกชายของแม่เลี้ยงด้วยค้อนจนตาย

วันปล่อยผีอาจทำให้ผีห่าซาตานเข้าสิงร่างของวิลเลียม ลิสค์ จูเนียร์ เมื่อเขาได้ทำการฆาตกรรมยกบ้านในรัฐมิชิแกนอย่างเหี้ยมโหดในปี 2010 ด้วยการยิงพ่อแท้ๆ ถึง 5 นัด ทำร้ายร่างกายและยิงแม่เลี้ยง 1 นัด และทุบลูกชายของแม่เลี้ยงด้วยค้อนจนตาย ศพของทั้งสามถูกพบในตอนกลางดึกโดยเดวอน ลูกชายอีกคนหนึ่งของแม่เลี้ยงที่เพิ่งกลับบ้าน แรงจูงใจอาจเกิดจากโรคจิตเภทที่กำเริบขึ้นในคืนนั้น เขารับสารภาพเพื่อหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิต อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 เขาฆ่าตัวตายและกลายเป็นศพอยู่ในคุก

4. คดีฆาตกรรม : The Tool Box Killers

คู่หูฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง
คู่หูฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง ผู้เก็บอาวุธที่ใช้ฆาตกรรมในกล่องเครื่องมือจนได้รับฉายาว่า The Tool Box Killers

คู่หูฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง ผู้เก็บอาวุธที่ใช้ฆาตกรรมในกล่องเครื่องมือจนได้รับฉายาว่า The Tool Box Killers ก็ร่วมก่อคดีสะเทือนขวัญในคืนวันฮาโลวีน ปี 1979 เมื่อพวกเขาลักพาตัวเชอรีย์ เลดฟอร์ด หลังเธอกลับจากปาร์ตี้วันฮาโลวีน พวกเขาทำร้ายร่างกายและข่มขืน ก่อนจะรัดคอเธอด้วยลวดไม้แขวนเสื้อจนตาย อย่างไรก็ตาม เธอเป็นเหยื่อคนที่ 5 และคนสุดท้ายของคู่หูฆาตรกรต่อเนื่องคู่นี้ ทั้งคู่ถูกจับ 1 เดือนหลังจากนั้น และถูกลงโทษให้จำคุกสูงสุดตลอดชีวิต

5. น็อก น็อก, นั่นใคร?

น็อก น็อก, นั่นใคร?
ผู้ก่อเหตุ เอริก แมตธิว คอปเปอร์

มุกตลก “น็อก น็อก” เป็นที่นิยมของชาวตะวันตก แต่หากได้ยินเสียงนี้ที่ประตูบ้านในยามกลางดึก คงไม่ได้หมายถึงใครจะมาเล่นมุกตลกใส่เราแน่ เช่นเดียวกับบ้านของเอเดรียน เลสลี และลอเรน ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ปี 2004 เมื่อถึงบ้านหลังจากฉลองปาร์ตี้คืนฮาโลวีน พวกเธอก็เข้านอนด้วยความเหน็ดเหนื่อย ในช่วงห้าทุ่มจู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูและเสียงกรีดร้องดังขึ้น ด้วยความหวาดกลัว ลอเรนวิ่งหนีออกจากบ้านทันที ในขณะที่เอเดรียนและเลสลีถูกแทงจนเสียชีวิต ทราบในภายหลังว่าผู้ก่อเหตุก็คือเอริก แมตธิว คอปเปอร์ เพื่อนชายของพวกเธอนั่นเอง ซึ่งถึงแม้เขาจะยอมมอบตัว แต่ก็ไม่ได้บอกถึงเหตุผลที่ฆ่าหญิงสาวทั้งสองแต่อย่างใด ทิ้งไว้เพียงปริศนาการฆ่าและเรื่องราวฆาตกรรมสุดโหดครั้งหนึ่งไว้

6. คดีฆาตกรรม : เมื่อมีคนเลียนแบบหวีดสุดขีด

เมื่อมีคนเลียนแบบหวีดสุดขีด
ฆาตกรโรคจิตในหนังหวีดสุดขีด

ฆาตกรในภาพยนตร์เรื่อง Scream ออกมาอาละวาดทะลุจอในปี 2013 เมื่อมีผู้พบเห็นมือปืนแต่งตัวเลียนแบบและนำหน้ากากผีแสนน่ากลัวมาใช้ในการก่อเหตุยิงผู้บริสุทธิ์อย่างอุกอาจ ในคืนวันฮาโลวีนที่มหานครนิวยอร์ก ปี 2013 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนในย่านบรูกลิน และอีก 2 คน ในควีนส์ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแม้จะมีพยานรู้เห็นจำนวนมาก แต่ด้วยเบาะแสไม่ชัดเจน ทำให้การตามหาตัวฆาตกรหน้ากากผีรายนี้ยังคงเป็นปริศนา และกลายเป็นการเลียนแบบหนังสยองขวัญที่สร้างความพรั่นพรึงให้กับชาวนิวยอร์กมาจนถึงปัจจุบัน

7. ปาร์ตี้ที่ไม่มีวันกลับ

ปาร์ตี้ที่ไม่มีวันกลับ
อดัมสกีถูกพบเป็นศพระหว่างกำลังเดินทางกลับบ้านในอีกราว 2 เดือนต่อมา

เมื่อเจมส์ อดัมสกี วัย 18 ปี ไปปาร์ตี้วันฮาโลวีนในปี 1982 ทั้งตัวเขาและคนในครอบครัว คงไม่มีใครนึกว่าค่ำคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายของชีวิตเขา เมื่ออดัมสกีถูกพบเป็นศพระหว่างกำลังเดินทางกลับบ้านในอีกราว 2 เดือนต่อมา ในสภาพยังคงสวมใส่เสื้อคอสตูมฮาโลวีน และมีบาดแผลจากการถูกทุบด้วยของแข็งที่หน้าผากหลายครั้ง จากการสันนิษฐานคาดว่าเขาอาจถูกคนร้ายชักชวนขึ้นรถระหว่างเดินกลับบ้าน ก่อนจะถูกทำร้ายและทุบตีจนตาย ซึ่งแม้ว่าจะยังหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ได้ ทว่าครอบครัวของเขาก็ยังคงตามหาความยุติธรรมให้กับลูกชายอยู่จนถึงทุกวันนี้

สามารถติดตามเรื่องราวของความสยองขวัญทุกรูปแบบได้ที่ ghostsfolder.com