ย้อนรอยโศกนาฏกรรมในไทย

ย้อนรอยโศกนาฏกรรมในไทย เหตุการณ์สะเทือนใจที่คนไทยไม่มีวันลืม

หัวข้อน่าสนใจ

โศกนาฏกรรมในไทย เป็นเหตุการณ์ที่หลายคนอาจจะอยากลืม แต่ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ว่า มันไม่สามารถลบเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์ได้จริง โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ได้กลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในการสร้างรากฐานและมาตรฐานด้านความปลอดภัย ทั้งในแง่อุตสาหกรรม การคมนาคม และสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตรซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต

บทความนี้ Ghostsfolder จะพาทุกคนย้อนรอยตำนานเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่สะเทือนใจคนไทย หากใครอยู่ในยุคนั้น เชื่อว่าคงจำกันได้ดี แต่สำหรับน้อง ๆ เจนใหม่ที่เกิดไม่ทัน เราจะพาย้อนไปดูว่ามีเหตุการณ์ไหนบ้างที่สร้างความสูญเสียและน่ากลัวจนลืมไม่ลง

เหตุการณ์เพลิงไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ (2536)

ย้อนเวลาไปเมื่อ 32 ปีที่แล้ว ประเทศไทยต้องเจอกับข่าวร้ายขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ทุกสำนัก เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานผลิตตุ๊กตาเคเดอร์ ในจังหวัดนครปฐม นับเป็น โศกนาฏกรรมในไทย ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 188 ราย ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการ และผู้สูญหายอีกนับไม่ถ้วน

โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ตั้งอยู่บนถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.กระทุ้งล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างนักธุรกิจชาวไทย ไต้หวัน และฮ่องกง ผลิตของเล่นเด็กที่ทำจากผ้าและพลาสติก เพื่อส่งออกสู่ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ เป็นโรงงานขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 4 อาคาร อาคารหลังที่ 1 และ 2 เป็นของบริษัทเคเดอร์ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด หลังที่ 3 เป็นของบริษัท ไทยจิวฟู อินเตอร์เนชันแนล จำกัด และหลังที่ 4 เป็นของ บริษัท เคซีพี จำกัด มีพนักงานมาประมาณ 2,000 กว่าราย

ไฟไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ นครปฐม 2536
ไฟไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ นครปฐม 2536

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2536 เวลาประมาณ 16:00 น. เป็นเวลาที่พนักงานทุกคนเตรียมกลับบ้านเฉกเช่นทุกวัน แต่วันนี้กลับกลายเป็นวันแห่งความโหดร้ายที่พวกเขาจดจำได้ไม่ลืม เสียงเครื่องจักรเย็บผ้าดังสนั่นโรงงาน พนักงานอาคาร 1 ชั้น 1 ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องว่า “ไฟไหม้ ไฟไหม้” หลังจากนั้นไม่กี่นาที พนักงานทุกคนต่างวิ่งโกลาหลหาทางออกกันให้ขวักไขว่ เมื่อกลิ่นไหม้และควันไฟสีดำเริ่มพวยพุ่งทั่วอาคาร

เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไฟเริ่มลามจากชั้น 1 สู่ชั้นที่ 2 3 และ 4 อย่างรวดเร็วผ่านบันไดและลิฟต์ส่งของราวกับปล่องไฟขึ้นด้านบน ประตูทางออกเพียงไปกี่ทาง ไม่เพียงพอต่อจำนวนพนักงานหลายพันคน ซ้ำร้ายประตูทางเชื่อมไปยังอาคาร 2 3 และ 4 กลับถูกล็อคกลอนแน่นหนา

ไฟลามอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 30 นาที อาคาร 1 ถล่มลงมาทับร่างแรงงาน และไม่นาน อาคาร 2 3 และ 4 ก็ถล่มลงมาเป็นโดมิโน คนงานต่างกระโดดหน้าต่างหนีตายกันจ้าละหวั่น

โศกนาฏกรรมในไทยเมื่อปี 2536
ซากปลักหักพังของโรงงานตุ๊กตาที่ถล่มลงมา

เหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นหนึ่งใน โศกนาฏกรรมในไทย ที่ใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ มีผู้เสียชีวิตกว่า 188 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวอีสานที่มาทำงานและเด็กฝึกงานอีก 5 ราย ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บ ผู้พิการ และบุคคลหายสาบสูญที่ว่ากันว่ามีมากกว่าหลักพัน

จากการสอบสวนพบว่า สาเหตุที่แท้จริงมาจากคนงานคนนึ่งแอบยืนสูบบุหรี่บริเวณคลังเก็บตุ๊กตาบริเวณชั้น 1 อาคาร 1 จนเป็นชนวนเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ บวกกับการตรวจสอบสภาพโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคาร อีกทั้ง ตัวโรงงานเองก็ไม่เตรียมแผนซ้อมรับมืออัคคีภัยเลย

รถแก๊สพลิกคว่ำบนถนนเพชรบุรี (2533)

วันที่ 24 กันยายน พ.ศ.2533 เวลาประมาณ 22:00 น. เกิดเหตุรถบรรทุกแก๊ส LPG พลิกคว่ำบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สี่แยกมักกะสัน รถยนต์บรรทุกแก๊สขับลงทางด่วนบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่มาด้วยความเร็วสูง เพื่อให้ทันไฟแดง แต่ด้วยความเร็ว รถได้เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ ตัวรถไถลไปกับพื้นถนนเป็นทางยาว ถังบรรจุแก๊สรูปแคปซูล 2 ถัง ถังละ 20,000 ลิตร หลุดออกจากตัวรถ เกิดความร้อน ทำให้แรงอัดในถังแก๊สเกิดปริแตก และระเบิดออกอย่างรุนแรง

ภายในชั่วพริบตา ถนนที่เคยมีชีวิตชีวากลับกลายเป็นทะเลเพลิง เกิดระเบิดดังสนั่น เพลิงไหม้ทั่วทั้งถนน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้คนที่อาศัยในชุมชนแถวนั้นถูกไฟคลอกเสียชีวิตคารถ พวกเขาไม่ทันตั้งตัว ไม่สามารถหนีออกจากรถได้ทัน หรือบางรายหนีทัน แต่ก็มีอาการสำลักควันไฟ บางรายถูกไฟครอกทั้งตัว เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า วิ่งออกไปขอความช่วยเหลือดูน่าอนาถ

รถแก๊สพลิกคว่ำบนถนนเพชรบุรี ปี 2533
รถแก๊สพลิกคว่ำเหตุการณ์สะเทือนขวัญเมื่อ 35 ปีที่แล้ว

ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงจะเสียชีวิตมากสุด รวมถึงผู้คนที่อาศัยบริเวณนั้น เปลวไฟลูกเล็กใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ลามไปโดนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และหม้อแปลง ทำให้เกิดระเบิด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถระงับเหตุได้ในทันที เนื่องจากมีปริมาณแก๊สที่ลอยอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก กว่าจะดับไฟหมดก็ปาไปอีกวัน รวมแล้วเกือบ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตกว่า 88 รายการ ไม่รวมผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโดนไฟคลอก ร่างกายถูกเผาไหม้ ใบหน้าเสียโฉม ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่จอดติดไฟแดงบริเวณนั้น และผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักหญิงก็ถูกแรงอัดระเบิด จนเสียชีวิตคาห้องพักหลายราย

ข่าวแก๊สระเบิดกลางกรุง
ข่าวแก๊สระเบิดกลางกรุงขึ้นหน้า 1 ทุกสำนักพิมพ์

เหตุการณ์แก๊สระเบิดบนถนนเพชรบุรี ถือได้ว่าเป็น โศกนาฏกรรมในไทย ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี และถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 เหตุอุบัติภัยที่ร้ายแรงสุดในโลกของช่วงเวลานั้นอีกด้วย

เหตุการณ์ไฟไหม้ซานติก้าผับ (2552)

คืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับใหม่ ควรเป็นค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองถูกไหม แต่นั่นไม่ใช่ที่ซานติก้าผับ สถานที่ที่เหมือนดั่งสวรรค์ใจกลางเอกมัย กลับกลายเป็นขุมนรกเพียงชั่วข้ามคืน

อีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ยังฝังใจคนไทยจนยากจะลืมเลือน คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองก่อนวันขึ้นปีใหม่ นักท่องราตรีนับพันคนต่างหลั่งไหลไปเที่ยวผับดังหรูหราในกลางเอกมัย ชื่อว่า “ซานติก้า” ซึ่งในคืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายที่ทางร้านจะเปิดให้บริการ ก่อนจะปิดตัวลงวันที่ 1 มกราคม 2552 เนื่องจากหมดสัญญา

ไฟไหม้ซานติก้าผับ โศกนาฏกรรมในไทย
ค่ำคืนอำลาซานติก้าผับ 31 ธันวา 2551

ทางร้านปิดโปสเตอร์เชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ร่วมฉลองก่อนจะอำลาเป็นครั้งสุดท้าย มีการจัดเคาท์ดาวน์ช่วงเที่ยงคืน และมีการศิลปินดัง เช่น โจอี้ บอย และวงเบิร์น มาร่วมแสดงในคืนนั้น ความสนุกเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ และช่วงเวลาพิเศษตอน 00:00 น. ทุกคนในร้านได้รับพลุเย็นคนละ 1 อัน ร่วมกันนับเวลาถอยหลังไปพร้อมกัน ความสนุกยังคงดำเนินต่อไปเพียง 15 นาทีหลังเคาท์ดาวน์ แต่หลังจากนั้น พวกเขาต่างต้องเจอกับนรกทั้งเป็น

ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ นักท่องเที่ยวต่างเพลิดเพลินกับการเฉลิมฉลอง เป็นช่วงเวลาเดียวกับวงเบิร์นขึ้นแสดง พวกเขาต่างเริ่มรู้สึกถึงอากาศร้อนระอุ ก่อนที่นักท่องเที่ยวคนนึงจะเงยหน้ามองเพดาน เห็นเปลวไฟลุกไหม้บนเพดาน เวลาช่วงไม่กี่วินาที เปลวไฟลุกลามเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ ลุกลามไปทั่วร้านภายในไม่ถึง 1 นาที ผู้คนต่างแตกตื่นวิ่งหนีกรูกันไปกองบริเวณประตูทางออก ซึ่งมีเพียงทางออกเดียวตามความเข้าใจของนักท่องเที่ยว เปลวไฟลุกลามไปทั่วทั้งร้านด้วยความรวดเร็ว ไฟในร้านดับ ควันดำปกคลุมไปทั่วร้าน

คลิปเหตุการณ์จริงวันเกิดเหตุ
ไฟไหม้คร่าชีวิตนักท่องเที่ยวไปกว่า 67 ราย บาดเจ็บหลายร้อย

เหตุการณ์สุดสลดในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 67 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 222 ราย กู้ภัยบอกว่า ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตมากองรวมกันที่ประตูทางเข้าออกที่มีเพียงทางเดียว ส่วนใหญ่จะสำลักควันและถูกเหยียบตาย ในตอนแรกมีการคาดเดาว่า สาเหตุของเพลิงไหม้มาจากไฟเย็นที่แจกให้นักท่องเที่ยวหรือไม่ ซ้ำร้ายกลับมีพยานให้การว่า เห็นนักร้องนำวงเบิร์นเป็นคนจุดพลุขึ้นเพดาน ทำให้เกิดไฟไหม้

แต่ท้ายสุด ทางตำรวจได้พบคลิปหลักฐานจากกล้องวิดีโอพบว่า ช่วงที่วงเบิร์นกำลังเล่นเพลงอยู่นั้น มีการใช้เอฟเฟ็กต์หน้าเวทีเพื่อความสวยงามของทางร้าน ประกายไฟจากเอฟเฟ็กต์ไปติดบนวัสดุของเพดานร้าน ซึ่งคาดว่าเป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย เพียงไม่นาน เปลวไฟลุกลามทั่วร้านเพียงแค่ 30 วินาทีเท่านั้น

สรุป

จากทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เรานำมาพูดถึงกันในวันนี้ ล้วนเป็น โศกนาฏกรรมในไทย ที่ทั้งสะเทือนใจ น่าหวาดกลัว สงสารผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ และครอบครัวผู้สูญเสีย นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่คนไทยไม่มีวันลืม แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหนก็ตาม