บนโลกใบนี้ มักมีเรื่องราวแปลก ๆ และไม่สามารถอธิบายได้อยู่หลายอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงเป็นเรื่องของ ‘วัตถุ’ ที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ของยิ่งเก่า ยิ่งมีประวัติ ยิ่งมีมูลค่า แต่จะเป็นอย่างไรเมื่อของเหล่ามาพร้อมกับเรื่องเหนือธรรมชาติ เราเลยจะมาพาทุกคนมารู้จักกับ 10 สิ่งของต้องสาป ที่สุดในโลก มาดูกันว่าจะมีของประเภทไหนที่ว่ากันว่ามีผีสิง
สิ่งของต้องสาป : เก้าอี้แห่งความตายของโทมัส
เก้าอี้ผีสิง เป็นเก้าอี้ในผับแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Busby Stoop เป็นเก้าอี้ของ โทมัส บัสบี้ (Thomas Busby) ที่ถูกตัดสินโทษประหารโดยการแขวนคอ ซึ่งคำขอสุดท้ายของเขาคือ การได้กินอาหารมื้อสุดท้ายในผับที่เขาชอบไปเป็นประจำและหลังจากที่เขากินเสร็จ เขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘ขอให้ความตายอันเฉียบพลัน เข้าสิงสู่ใครก็ตาม ที่อาจหาญมานั่งเก้าอี้ของข้า’ นั่นทำให้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะนั่งเก้าอี้ตัวดังกล่าวเลย
จนกระทั่งมีผู้กล้าหลาย ๆ คนได้มาทดลองนั่งเก้าอี้ตัวนี้ และแน่นอนว่าคำพูดที่โทมัสเคยพูดออกไปก็เป็นจริงขึ้นมา เพราะพวกเขาได้เสียชีวิตลงทั้งหมด โดยเริ่มต้นความเฮี้ยนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อมีทหารหลายนายจากฐานทัพใกล้ ๆ กับแห่งนี้ ลองของกับเก้าอี้ตัวดังกล่าวก่อนออกไปรบ และชาวบ้านก็สังเกตได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้กลับบ้านอีกเลย
สิ่งของต้องสาป : ชุดแต่งงานผีสิง
ในปี 1849 แอนนา เบรกเกอร์ (Anna Baker) หญิงสาวจากครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยได้ตกหลุมรักกับคนงานหนุ่ม แต่ทางพ่อของฝ่ายหญิงปฏิเสธที่จะให้เธอแต่งงานกับคนรักพร้อมกับขับไล่ชายคนนี้ออกไปให้พ้นจากลูกสาวของเขาด้วยเหตุนี้ จึงทำให้แอนนารู้สึกเสียใจและโกรธพ่อของเธอเป็นอย่างมาก จนในที่สุด ปี 1914 เธอก็ได้เสียชีวิตลง แต่ก่อนหน้าที่เธอกำลังจะแต่งงานกับชายผู้เป็นที่รัก เธอได้เลือกชุดเจ้าสาวที่เธอตั้งใจจะสวมใส่ในวันแต่งงานของเธอ แต่สุดท้ายงานแต่งก็ไม่ได้เกิดขึ้น ส่วนชุดที่เลือกไว้แต่งกับคนรักนั้นก็ถูกเก็บไว้ในตู้
จนกระทั่งชุดแต่งงานนั้นนำมาจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของ Blair County ในคฤหาสน์เดิมที่แอนนาเคยอยู่ โดยที่บางครั้งผู้ที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมก็มักจะเห็นชุดแต่งงานสั่นโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนก็เห็นเจ้าสาวกำลังยืนจองมองชุดแต่งงานของตัวเองหน้ากระจก และนั่นก็ทำให้หลาย ๆ คนเชื่อว่า มันอาจจะเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติอย่างแน่นอน
กล่องขังวิญญาณ Dybbuk Box
Dybbuk Box เป็นกล่องใส่ไวน์ที่มีหน้าตาธรรมดา แต่มันกลับมีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับตำนานความหลอนซ่อนอยู่ เพราะมันเป็นกล่องอาถรรพ์ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่ากันว่ามีดวงวิญญาณชั่วร้ายถูกกักขังเอาไว้ในนั้น แต่ภายหลังเจ้ากล่องดังกล่าว ถูกนำมาขายปะปนกับสิ่งของทั่วไปบนโลกออนไลน์ จากนั้นความสยดสยองก็ได้เกิดขึ้นกับผู้ที่ซื้อไปในรูปแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เควิน แมนนิส (Kevin Mannis) นักสะสมของโบราณ คือผู้สนใจซื้อไปครอบครองต่อ และเก็บไว้ในห้องชั้นใต้ดิน อยู่ ๆ ก็มีเหตุการณ์ไฟตกไฟดับ ประตูแต่ละบานถูกล็อคอย่างปริศนา และเริ่มมีเสียงแปลกประหลาดมาจากชั้นใต้ดินที่เก็บกล่องไม้เอาไว้ แม้ว่าจะทำการมอบให้กับใครไปก็ตาม เขาก็จะได้รับกล่องไวน์ไม้อาถรรพ์นี้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว และไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุผลใดก็ตาม เขาเริ่มมีอาการฝันร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ และค้นพบว่าคนในครอบครัว ที่เข้าใกล้กล่องนี้ก็มีอาการฝันร้ายเช่นเดียวกัน
กระจกผีสิง ณ The Myrtles Plantation
The Myrtles Plantation เป็นหนึ่งในสถานที่สุดหลอนที่ถูกกล่าวขานว่ามีผีสิงมากที่สุดในโลก โดยมันถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ฝังศพของชนพื้นเมืองอเมริกัน และมันยังเป็นสถานที่ที่มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง อีกด้วย
ที่สำคัญ “กระจก” ยังเป็นสิ่งที่มีผีเข้ามาสิงมากที่สุด โดยในปี 1980 ผู้ที่ได้มาเยือนได้ออกมาเผยว่า เห็นภาพใครบางคนอยู่ในกระจกบานหนึ่งปรากฏพร้อมกับรอยมือของเด็ก โดยในกระจกบานนี้มีตำนานที่ลึกลับซ่อนอยู่ เพราะมันมีมีวิญญาณของ ซาร่า วูดรัฟ (Sara Woodruff) และลูก ๆ ของเธอที่ถูกฆาตกรรมยกครอบครัว ทำให้ถูกขังเอาไว้ในกระจกบานนี้มาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งของต้องสาป : รูปปั้นมรณะ (Women From Lemb)
รูปปั้นที่เห็นอยู่นี้ มีชื่อว่า “เทพธิดาแห่งความตาย” (Women From Lemb) เป็นรูปปั้นทำจากหินปูนบริสุทธิ์ ถูกค้นพบในปี 1878 คาดว่ามีอายุมากถึง 3,500 ปีก่อนคริสตกาล
สำหรับรูปปั้นแกะสลักจากหินปูนดังกล่าวเป็นของ ลอร์ด เอลฟอน (Lord Elphont) ซึ่งภายหลังจากที่เขาได้รับรูปปั้นนี้มาก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น เพราะเขาและสมาชิกครอบครัว 7 คน เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ภายในเวลา 6 ปีต่อมา ผู้ที่ได้ครอบครองรูปปั้นดังกล่าวคือ ครอบครัวของ ไอเวอร์ มานุชชี (Ivor Manucci) และ ทอมป์สัน โนเอล (Thompson-Noel) ซึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี สมาชิกครอบครัวทั้งหมดของพวกเขาก็เสียชีวิตไปตาม ๆ กัน
ส่วนเจ้าของคนที่ 4 คือ อลัน บีเวอร์บรู๊ค (Alan Biverbrook) ก็ได้เสียชีวิตลงพร้อมกับภรรยาและลูกสาวอีก 2 คนโดยไม่ทราบสาเหตุ ในขณะเดียวกันลูกชายอีก 2 คนของพวกเขาสามารถรอดชีวิตมาได้เพราะได้นำรูปปั้นไปบริจาคให้แก่พิพิธภัณฑ์ Royal Scottish ในเมือง Edinburgh ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งในปัจจุบันรูปปั้นนี้ก็ยังคงอยู่ในสถานที่แห่งนั้น
สิ่งของต้องสาป : กะโหลกกรีดร้องแห่งหอประชุม Burton Agnes
Burton Agnes ใน East Yorkshire เป็นหอประชุมนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงของราชินีอลิซาเบ็ธที่ 1 โดย เซอร์ เฮนรี่ กริฟฟิทส์ (Sir Henry Griffiths) และเหล่าน้องสาวของเขา ในระหว่างการก่อสร้าง แอนน์ น้องสาวคนหนึ่งของเขาก็ถูกแทงเสียชีวิตโดยบุคคลนิรนาม ก่อนที่เธอจะสิ้นใจเธอได้ให้พี่น้องของเธอสัญญาว่าจะตัดศีรษะของเธอออกแล้วให้เก็บไว้ในหอประชุมนี้
แต่พี่น้องของเธอก็ไม่ได้ทำตามคำขอ แต่พวกเขาฝังร่างเธอทั้งหมดเอาไว้แทน หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงครางเหมือนคนที่กำลังถูกฝังทั้งเป็นดังไปทั่วทั้งหอประชุม พี่น้องของเธอจึงรีบไปที่หลุมฝังศพของเธอและพบว่า ร่างกายที่เหลือแต่กระดูกนั้นส่วนศีรษะได้ถูกตัดแยกออกจากร่างกาย พวกเขานำเอาหัวกะโหลกไปวางไว้ในหอประชุม แล้วเสียงครางต่าง ๆ ก็หายไป
หลังจากนั้น ลูกหลานของท่านเซอร์เฮนรี่ที่รับสืบทอดหอประชุมต่อก็ย้ายหัวกะโหลกออก แต่ทุกครั้งที่หัวกะโหลกถูกย้ายออกไป ตึกก็จะเกิดการสั่นและเหล่ารูปภาพที่แขวนไว้ก็จะตกลงมา ในที่สุดลูกหลานของเขาก็ตกลงกันว่าจะเก็บกะโหลกเอาไว้ในตึกโดยซ่อนเอาไว้ในกำแพง และมันก็ยังคงอยู่มาจนถึงวันนี้
The Hands Resist Him ภาพวาดผีสิง
ในปี 2000 ภาพวาด The Hands Resist Him ผลงานของศิลปิน บิลล์ สโตนแฮม (Bill Stoneham) ถูกนำไปประกาศขายบนเว็บไซต์ eBay ซึ่งมีสามีภรรยาคู่หนึ่งสามารถประมูลซื้อไปได้ และพวกเขาก็ได้นำรูปนี้ไปติดไว้ในห้องนอนของลูกสาว
แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็มักจะเจอเรื่องราวแปลก ๆ เกิดขึ้นภายในบ้าน ในบางครั้งลูก ๆ ก็มักจะมาบ่นให้ฟังว่าเด็กและตุ๊กตาที่อยู่ในภาพมักจะชอบออกมาเล่นในตอนกลางคืน บางครั้งก็ชอบออกมาทะเลาะกันและนั่นทำให้ลูกของพวกเขาที่มองไปยังภาพ ๆ นั้น ก็ได้กรีดร้องเสียงดังด้วยความหวาดกลัว ซึ่งในตอนแรกผู้เป็นพ่อแม่ยังไม่เชื่อเรื่องราวที่ลูกน้อยมาเล่าให้ฟัง
จนกระทั่งพวกเขาได้เจอของดีกับตัวเมื่อตอนที่ได้ติดอุปกรณ์ตรวจจับความร้อนในบ้าน และในที่สุดพวกเขาก็ได้พบภาพสุดหลอนที่เหมือนตุ๊กตาเด็กหญิงกำลังใช้ปืนจี้ไปทางเด็กชายเพื่อบังคับให้เขาออกมาจากภาพ และเมื่อได้เจอความหลอนกับตัว ในที่สุดก็ทำให้พวกเขาต้องนำภาพดังกล่าวออกมาขายทิ้งไปในที่สุด
สิ่งของต้องสาป : The Anguished Man ภาพวาดปีศาจ
ภาพวาดที่น่ากลัวนี้ถูกเก็บไว้ในห้องใต้หลังคาบ้านคุณยายของ ชอว์น โรบินสัน (Sean Robinson) ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งภาพวาด The Anguished Man ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกที่เขาได้รับตกทอดมาอีกทีหนึ่ง ซึ่งทางคุณยายก็ได้เล่าว่าภาพนี้เป็นภาพวาดปีศาจชั่วร้าย เพราะศิลปินที่เป็นคนวาดได้ใช้เลือดตัวเองผสมลงไปกับสี และพอเมื่อวาดเสร็จ เขาก็ฆ่าตัวตาย นอกจากนี้คุณยายของเขายังอ้างว่า เธอมักจะได้ยินเสียงคนร้องไห้คร่ำครวญออกมาจากภาพอีกด้วย
เมื่อเธอได้นำภาพนี้มาติดภายในบ้าน เขาและครอบครัวก็เริ่มประสบเหตุการณ์ที่น่าขนลุก ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ลูกชายมองไปยังรูปภาพก็ทำให้เขาตกบันใดลงมา ส่วนภรรยาก็รู้สึกมาเหมือนมีใครมาลูบผม รวมไปถึงเห็นเงาของชายปริศนาพร้อมกับเสียงร้องไห้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้เขาก็ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นถึงความเฮี้ยนของภาพนี้ ด้วยการตั้งกล้องจับภาพไว้ตลอดทั้งคืน โดยแต่ละสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่อาจหาสาเหตุมาอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ถึงแม้เจ้าตัวจะรู้สึกกลัวมากแค่ไหน เขาก็ไม่ได้ตัดสินใจที่จะขายมันออกไปจากชีวิต
เตียงสองชั้นผีสิง
เรื่องราวของเตียงสองชั้นผีสิงนี่โด่งดังมากเสียจนกลายเป็นเรื่องสุดฮิตในโทรทัศน์ที่ฉายเกี่ยวกับปริศนาที่ยังไม่มีใครไขได้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1987 ใน Horicon รัฐวิสคอนซิน โดย อลัน ทอลแมน (Alan Tallman) และ เด็บบี้ ทอลแมน (Debby Tallman) ซื้อเตียงสองชั้นมาจากร้านของมือสองและเอาเก็บไว้ในห้องใต้ดิน หลังจากนั้นในเดือนพฤษภาคมพวกทั้งคู่ก็ย้ายเตียงขึ้นมาไว้บนบ้าน และประมาณ 9 เดือนหลังจากนั้นตั้งแต่คืนแรกที่เตียงถูกย้ายขึ้นไป เรื่องสยองก็เกิดขึ้น
เริ่มจากเด็ก ๆ ในบ้านเกิดป่วยขึ้นมา วิทยุในบ้านก็จะเปลี่ยนคลื่นไปมาเองทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครไปแตะ เด็กสองคนแรกที่นอนบนเตียงบอกว่าเห็นแม่มด ซึ่งครอบครัวทอลแมนได้เชิญพระมาไล่ผีนั่นทำให้ทุกอย่างปกติสุขอยู่สักพัก แต่หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากวันคริสมาตในปี ค.ศ.1988 อลันได้ยินเสียงเรียกเขาว่า “มานี่” เขาตามเสียงนั่นไปยังโรงรถและพบว่าไฟกำลังไหม้ เขารีบวิ่งไปหยิบถังดับเพลิง แต่เมื่อกลับมายังโรงรถอีกครั้งก็พบว่าไฟได้หายไปแล้ว หลังจากเรื่องราวสยองขวัญที่หลายครั้งต่อมา ครอบครัวทอลแมนก็คิดได้ว่า “พอกันที” แล้วจัดการเผาเตียงนั่นเสีย หลังจากเผาเตียงนั่นเสร็จสิ้น ก็ไม่เกิดเหตุการณ์แปลก ๆ ขึ้นอีกเลย
และนี่ก็คือ 10 สิ่งของต้องสาป สุดยอดความเฮี้ยนที่สุดในโลก ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ชาว Ghostsfolder บอกได้เลยว่า ของแต่ละชิ้นมีประวัติที่น่ากลัวและชวนหลอนมาก ๆ และเชื่อว่าสิ่งของเหล่านี้จะมีราคาสูงเฉียดฟ้าแน่นอนหากใครต้องการมัน แต่ก็คงต้องแลกมากับประสบการณ์ขนหัวลุกอย่างแน่นอน
- “ความเชื่อ” ของการขอ “หวย” ทำไมต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์? - January 13, 2025
- คดีสยองขวัญ เมียฆ่าผัวตัดคอ ถลกหนัง ตัดหัวผัวต้ม ทำอาหารให้ลูกกิน - January 11, 2025
- เปิดแฟ้ม! รวมคดีฆาตกรรมหั่นศพแช่ตู้เย็นสยอง - January 9, 2025