ส่อง! 10 เกาะผีสิง ดินแดนแห่งอาถรรพ์ ที่จะทำให้คุณแทบคลานออกมา

เกาะผีสิง หลาย ๆ คนคงน่าจะรู้ว่าโลกของเรานั้นเต็มไปด้วยหมู่เกาะ หรือพื้นที่ดินใจกลางน่านน้ำ ซึ่งเชื่อว่าส่วนมากหากเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ต้องมีคนอาศัยอยู่ แต่ในเวลาต่อมากลับกลายเป็นที่รกร้างเพราะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ทำให้ผู้อยู่อาศัยที่ตั้งถิ่นฐาน ณ ที่นั้น ทยอยอพยพหรือหายไปจนทำให้เป็นพื้นที่ว่างเปล่าหรือในอีกมุมก็อาจจะเป็นพื้นที่สิงสถิตของเหล่าวิญญาณร้าย ทั้งน่ากลัว อาฆาตและพยายาท

วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปส่อง เกาะผีสิงทั้ง 10 แห่งทั่วโลก ขึ้นชื่อทั้งความดุ ความเฮี้ยน จนใครที่ได้เข้าไปสัมผัสอาจจะอยากคลานเข่าหนีออกมาเลยก็เป็นได้

1. เกาะผีสิง : Deadman’s Island, Canada

เกาะเดดแมน เป็นเกาะที่ตั้งอยู่กลางอ่าวบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา อย่างโดดเดี่ยว ถูกค้นพบในปี 1862 โดย ‘จอห์น มาร์ตัน’ ในตอนแรกเขาสังเกตเห็นว่าต้นไม้บนเกาะนั้นมีกล่องไม้ถูกห้อยผูกติดอยู่มากมาย แต่ไม่ทราบว่าคืออะไร จนกระทั่งมีกล่องหนึ่งร่วงลงมา และแตกออกเผยให้เห็นซากโครงกระดูกอยู่ข้างใน

โดยประวัติของเกาะนี้ เคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างชนเผ่า มีนักรบ ผู้หญิง เด็ก และคนชราเสียชีวิตกว่า 200 ศพ และก็เดาว่าศพในกล่องไม้น่าจะมาจากสงครามช่วงนี้ ต่อมาในช่วงปี 1888 – 1892 พื้นที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานกักกันโรคและสถานที่ฝังศพ จนกระทั่งในปี 1942 สิทธิ์ของเกาะแห่งนี้ก็ตกเป็นของกองทัพเรือ แต่ความน่ากลัวและความหลอนสุดเฮี้ยนนั้นไม่ได้หายไปตามกาลเวลาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ยังคงได้ยินเสียงโครงกระดูกกระทบกันอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็อาจจะเป็นเสียงลากเท้าเดิน บางทีก็รู้สึกว่ามีมือคนมาแตะที่ไหล่ เรื่องราวที่วนขนหัวลุกนี้เลยทำให้เกาะเดดแมนเป็นเกาะผีสิง

2. เกาะผีสิง : Isola La Gaiola, Italy

ลาไกโอลา เกาะร้างในอ่าวเนเปิลส์ที่ขึ้ชื่อว่าเป็นเกาะผีสิง ที่แห่งนี้เคยเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง แต่เกิดเหตุการณ์ลึกลับที่โชคร้ายหลายอย่าง ทำให้เปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ 1920 พบศพ ‘ฮันส์เบราน์’ เจ้าของเกาะในพรมม้วนหนึ่ง ทำให้ ‘ออตโต้ กันแบ็ค ’ ได้เป็นเจ้าของคนต่อไป

แต่ไม่นานนัก เขามีอาการหัวใจวายหลังจากซื้อที่ดินตรงนั้นได้ไม่นาน และได้ส่งต่อกรรมสิทธิ์ ขายให้กับนักธุรกิจเภสัชกรรมจากสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ฆ่าตัวตาย ต่อมาหลายชายของ ‘จานนี อักเนลลี่’ ได้เข้ามาเป็นเจ้าของที่ดินและต้องเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งชนิดที่หายากมาก ส่วนเจ้าของคนสุดท้ายถูกลักพาตัวหลังจากซื้อที่ดินพื้นนี้ได้ไม่นาน ทำให้เกาะลาไกโอลา ถูกขายทอดตลาดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และได้กลายเป็นเกาะต้องคำสาปไปในที่สุด

3. เกาะผีสิง : Isla de Las Munecas, Xochimilco, Mexico

อิสลา ดิ ลาส มูเนเคส หรือ เกาะตุ๊กตาผีแห่งเม็กซิโก เกาะผีสิงนี้เต็มไปด้วยพลังงานที่เหมือนมีชีวิต ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่เลย มีแค่เพียงตุ๊กตาหน้าตาแปลกประหลาดห้อยอยู่ตามต้นไม้เท่านั้น ตามตำนานได้มีเรื่องเล่าว่ามีนักพรตคนหนึ่ง พยายามที่จะหาศพเด็กผู้หญิงที่จมน้ำตายที่นี่ขึ้นมาทำพิธี แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมาถึงช่วงฤดูน้ำแล้ง คลองแห่งนั้นก็แห้งสนิทไม่เหลือน้ำเขาจึงกลับไปหาศพของเธออีกครั้ง แต่กลับพบเพียงตุ๊กตาน่ากลัว 1 ตัวอยู่ที่ก้นบ่อ ?

เขาจึงนำตุ๊กตาตัวนั้นกลับมาที่บ้านและนำไปแขวนไว้บนต้นไม้ และเริ่มนำตุ๊กตามาไว้บนเกาะ โดยแขวนมันไว้ตามต้นไม้ทุกต้นเพราะเชื่อว่ามันคงจะทำให้วิญญาณของหนูน้อยไม่เหงา กระทั่งต่อมาก็เสียชีวิตลงอย่างปริศนาซึ่งวันที่มีคนพบศพเขานอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำในคลองเดียวกันนั้นเอง ชาวบ้านที่มาหาปลาใกล้ ๆ บริเวณเกาะก็มักจะได้ยินเสียงร้องโหยหวน เหมือนกับว่ามีผีนับร้อยสิงสู่อยู่ในตุ๊กตาบนเกาะแห่งนี้

4. เกาะผีสิง : Hart Island, New York, USA

เกาะฮาร์ท หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เกาะแห่งความตาย “The Island of The Dead” ในบริเวณนี้ ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่มีเหตุนองเลือดมากที่สุดในประเทศอเมริกา โดยในปี 1865 ใช้เป็นจุดฝังศพผู้ที่เสียชีวิตจากช่วงสงครามกลางเมืองอเมริกา และในช่วงปี 1870 เป็นสถานกักกันผู้ป่วยจากโรคไข้เหลืองระบาด ต่อมาในช่วงปี 1885 ก็ได้เป็นสถานบำบัดอาการผู้ป่วยทางจิต จนกระทั่งเป็นค่ายทหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และปัจจุบันยังถูกใช้เป็นสุสานฝังรวม สำหรับร่างของผู้เสียชีวิตด้วยเหตุเชื้อไวรัส COVID-19 อีกด้วย

จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ มีผู้เสียชีวิตที่ถูกฝังร่างอยู่ที่นี่กว่า 850,000 ศพ ทั้งทหาร คนป่วย คนไร้บ้าน เด็กกำพร้า ศพไร้ญาติ ฯลฯ ถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมของเหล่าวิญญาณ ภายหลังทางการก็ได้ปิดเกาะนี้อย่างถาวร อนุญาตให้เฉพาะญาติของทหารได้ขึ้นไปทำพิธีในช่วงวันสำคัญเท่านั้น ใครที่ลักลอบขึ้นไปจะมีความผิดฐานบุกรุก

5. เกาะผีสิง : Poveglia, Italy

มาถึงกันที่เกาะผีสิงที่ขึ้นชื่อที่สุดของอิตาลี โพเวเกลีย ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเวนิส (Venice) และเมืองลิโด้ (Lido) หากมองไกล ๆ จากบนฝั่งจะเห็นว่ามีตึกรูปทรงสวยงามกับธรรมชาติร่มรื่น แต่เบื้องหลังนั้นมีเรื่องหลอนซ่อนอยู่ แต่เดิมเกาะนี้ถูกใช้เป็นโรงพยาบาลและศูนย์กักกันผู้ต้องสงสัยว่ามีเชื้อกาฬโรค ทำให้ในช่วงนั้นมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 160,000 คน

หลังจากนั้นก็ถูกเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสำหรับบำบัดผู้ป่วยทางจิต และมีเรื่องเล่าว่าที่นี่ใช้วิธีการรักษาและทดลองที่โหดร้ายกับผู้ป่วย เช่น เจาะกะโหลกทางเบ้าตาหรือจับผู้ป่วยกดน้ำ สุดท้ายก็ต้องปิดตัวลงในปี 1968 ปัจจุบันทางรัฐบาลก็ได้นำออกมาประมูลขายเพื่อหารายได้เข้ารัฐไปเป็นที่เรียบร้อย ลือว่าจะถูกเปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ท และศูนย์รวมความบันเทิงต่าง ๆ ต่อไป

6. เกาะผีสิง : Corregidor Island, Manila Bay, Philippines

คอร์เรจิดอร์ เกาะผีสิงแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งตั้งอยู่หน้าอ่าวมะนิลา เป็นสมบัติของกองทัพสเปนตั้งแต่ปี 1570-1898 เพื่อใช้เป็นคุกและป้อมปราการ จนกองทัพอเมริกันได้เข้ามาปรับปรุงให้เป็นแนวป้องกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่นช่วงปี 1941 สุดท้ายกองทัพอเมริกันก็ต้องพ่ายแพ้ให้แก่ทัพญี่ปุ่นที่เข้าตีป้อมแห่งนี้ ฝ่ายอเมริกัน และฟิลิปปินส์สูญเสียทหารไป 800 นาย ส่วนญี่ปุ่นเสียไป 900 นาย

ต่อมาเกิดศึก ‘Battle for the Recapture of Corregidor’ ระหว่างฝ่ายอเมริกันและคนที่อยู่ในท้องที่ เพื่อยึดพื้นที่คืน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 7,000 คน ยังไม่รวมทหารญี่ปุ่นที่ตัดสินใจกระทำเซปปุกุ (切腹) หรือคว้านท้องตนเองอีกประมาณ 3,000 นาย ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่มีคนฆ่าตัวตายมากที่สุด

7. เกาะผีสิง : Hashima Island, Japan

ในอดีตนั้นเกาะฮาชิมะหรือว่าเกาะผีสิงแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่ที่โด่งดัง และมีความเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1887 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1890 โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างมิตซูบิชิ เนื่องจากเกาะฮาชิมะเต็มไปด้วยถ่านหิน ทำให้มีการพัฒนาเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ เพื่อรองรับกับความต้องการถ่านหินในการพัฒนาอุตสาหกรรมในญี่ปุ่นยุคนั้น จนทำให้มีการอพยพแรงงาน และครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานอยู่บนเกาะแห่งนี้จนเต็มพื้นที่ มีผู้คนอยู่อาศัยหนาแน่น

แต่ต่อมาทางมิตซูบิชิก็ได้ประกาศปิดเหมืองบนเกาะฮาชิมะ เนื่องจากพลังงานจากถ่านหินไม่ได้เป็นที่ต้องการของญี่ปุ่นอีกต่อไป และอพยพผู้คนออกจากพื้นที่

ก่อนหน้านี้หากย้อนกลับไปที่แห่งนี้เหมือนจะเป็น ‘สถานที่คุมขังนักโทษ’ มากกว่า โดยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์แรงงานชาวจีนและเกาหลีใต้ที่เป็นจำเลยช่วงสงครามมาทำงานในเหมืองถ่านหิน ทำให้ในสายตาของชาวจีน และเกาหลีใต้มองเกาะฮาชิมะเป็นเหมือนกับสถานที่ที่ทำให้พวกเขาฝันร้ายมาจนถึงปัจจุบัน

8. เกาะผีสิง : Norfolk Island, Australia

เกาะนอร์ฟอล์ก ตั้งอยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ถึง 877 ไมล์ ซึ่งใช้เป็นที่คุมขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ในช่วงปี 1800 ด้วยความที่มีพื้นที่คับแคบและมีแต่นักโทษคดีร้ายแรง จึงทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามให้เป็น “Hell on Earth” เพราะบนนี้มีแต่การฆาตกรรม ทรมาน ข่มขืน เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเรื่องปกติของที่นี่โดยที่ผู้คุมก็มีส่วนรู้เห็นด้วย

โดยในช่วงปี 90s เคยมีรายการขึ้นไปถ่ายและขอสัมภาษณ์ผู้คนที่อยู่อาศัยบนเกาะนั้น ผู้คนกว่าครึ่งล้วนเคยสัมผัสประสบการณ์หลอนกันมาแล้วทั้งนั้น ภายในบ้านของตัวเอง ส่วนมากจะเป็นในลักษณะของ “โพลเตอร์ไกสท์” (Poltergeist) ตั้งแต่ข้าวของในบ้านเคลื่อนที่ ไปจนรุนแรงถึงขั้นเกิดเป็นรอยกัด รอยช้ำเหมือนโดนทำร้ายบนร่างกายคนเลยทีเดียว

9. เกาะผีสิง : Daksa, Croatia

เกาะดักซาขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะผีสิง เหตุเกิดการสังหารหมู่ในช่วงปี 1944 ซึ่งผู้ต้องสงสัยที่ร่วมมือกับพวกนาซีทั้ง 53 คนถูกประหารชีวิต และทิ้งร่างของพวกเขาให้เน่าเปื่อยในที่โล่งแจ้ง นับตั้งแต่นั้นมาก็มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับความเฮี้ยน

ซึ่งในปี 2009 มีชาวบ้านได้ค้นพบหลุมศพจำนวนมากบนเกาะ หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีการตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด ซึ่งได้นำพาไปสู่การพบจดหมายที่มีเนื้อหารุนแรงเป็นอีกจำนวนมากทั่วทั้งเกาะ ตัวตนของเหยื่อส่วนใหญ่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด และคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เลี่ยงที่ใกล้เกาะแห่งนี้ จึงทำให้ดักซากลายเป็นเกาะผีสิง ที่มีผีสิงมากที่สุดในโลก

10. เกาะผีสิง : Vorozhdeniya (Rebirth Island)

เกาะวอรอซเดนิยา เป็นหนึ่งในสถานที่เกาะผีสิง ในอดีตเป็นแหล่งทดสอบทางชีววิทยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกในยุคโซเวียต เช่น การพันธุวิศวกรรมของกาฬโรค แอนแทรกซ์ และไข้ทรพิษ ซึ่งนั่นทำให้คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังได้ปล่อยสารเหล่านี้ไปปะปนในอากาศและบันทึกผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่อาศัย ในปี 1988 เจ้าหน้าที่พยายามที่จะทำลายหลักฐานโครงการนี้ ด้วยการนำเชื้อแบคทีเรีย (Bacillus anthracis) ทั้งหมด แช่ลงในสารฟอกขาว เพื่อปิดผนึกไว้ในถังสแตนเลส ซึ่งมันเกิดเหตุการณืที่เลวร้ายขึ้นเมื่อเชื้อเริ่มซึมสู่ดิน สิ่งนี้ไม่เพียงเป็นมลพิษบนเกาะเท่านั้น แต่ยังเป็นพิษต่อน้ำใต้ดินด้วย เลยได้มีการตั้งชื่อให้เกาะนี้ว่า ระเบิดเวลา (Ticking time-bomb in the heart of Asia)

และนี่ก็คือ 10 อันดับ เกาะผีสิงที่เฮี้ยนจนขึ้นชื่อ ต่างก็มีเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว ล้วนแล้วมีเรื่องเล่ากันทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม เกาะเหล่านี้ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้หายไป เพียงแค่ถูกลืมและกลายเป็นตำนานเรื่องผีแทน สามารถติดตามคอนเทนต์ที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ghostsfolder.com