5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง

5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง คดีฆาตกรรมจริง (Part 2)

หัวข้อน่าสนใจ

หนังฆาตกรรม ล้วนแล้วเป็นเรื่องราวที่มี Base on True Story เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง หรือถูกหยิบยกมาเพื่อสร้างเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ รวมไปถึงเป็นสารคดี (Documentary) ในหลาย ๆ เรื่องที่เราเคยเห็นผ่าน ๆ ตา เพื่อส่งต่อเรื่องราวสะเทือนขวัญต่ให้กับคนดู วันนี้เราก็ได้นำ อีก 5 หนังแนวคดีฆาตกรรมที่สร้างจากเรื่องจริงต่อเป็นพาร์ทที่สอง จะมีเรื่องไหนบ้างที่คุณเกิดทัน ?

หนังฆาตกรรม : ฆ่าโบกปูน – อุ้ม ฆ่า โบกปูน ถ่วงน้ำ

ฆ่าโบกปูน
ครูคิม หรือ เกียรติศักดิ์ พูลสวัสดิ์

หนังฆาตกรรม เรื่องแรก คือฆ่าโบกปูน เป็นหนังที่เล่าเรื่องของ ‘ครูคิม’ อาจารย์ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ลักพาตัว ‘น้องแมว’ อายุ 12 ปี พร้อมทิ้งจดหมายเรียกค่าไถ่เป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท แถมแนบจดหมายไว้ให้ที่หน้ารถของพ่อแม่ของน้องแมว และขู่ด้วยว่าห้ามแจ้งความ เพื่อแลกกับชีวิตของลูกสาวพร้อมระบุสถานที่นัดพบ

ครูคิม แกล้งทำเป็นอาสาไปต่อรองกับโจร พ่อเลยได้ฝากข้อความไปให้โจรว่า ขอพลัดไปก่อนและขอลดเงินลงเหลือ 2 แสน  นั้นพ่อกับแม่ของน้องแมวเข้าแจ้งความกับตำรวจ ตำรวจเลยได้ตั้งข้อสงสัยว่าโจรต้องรู้จักกับครอบครัวของน้องแมวเป็นอย่างดี และหลายวันต่อมามีจดหมายปริศนามาวางไว้ที่หน้าร้านข้าวต้ม ข้อความในจดหมายบอกว่าผลัดวันออกไปก่อนได้ แต่ไม่ลดยอดเงิน แถมยังกำชับอีกว่า ให้ครูคนเดิมเอาเงินไปให้เท่านั้น ห้ามตำรวจนอกเครื่องแบบพกปืนมาอีก

ฆ่าโบกปูน
ฆ่าโบกปูน

ตำรวจเลยวางแผนซ้อนแผน โดยให้ครูคิมเอาเงิน 2 แสนไปให้โจรที่จุดนัดพบ โดยตำรวจเตรียมกำลังเสริมยาวทั้งถนนสายพนมสารคาม แต่ครูและพ่อไม่รู้ว่ามีตำรวจจับตามองอยู่  ครูทำตามแผนของตำรวจที่วางไว้ ระหว่างทางมีรถตู้หยุดคุยกับครูคิม พอตำรวจตามที่รถตู้ไปกลับพบว่า คนที่อยู่ในรถตู้คือพ่อของเด็ก ตำรวจจึงสอบสวนกับทั้งสอง แต่พ่อรอดพ้นจากข้อสงสัยเนื่องการให้การสมเหตุสมผล ส่วนครูคิมนั้นให้การวกไปวนมา บอกแต่ว่าเงินหายไปแล้วเพราะระหว่างทางโจรเข้ามาชิงไป ตำรวจจึงขอเข้าตรวจค้นบ้านของครูคิมทันที

ภายในมีสมุดหนังสือระเกะระกะไปหมด พอค้นดูพบสมุดเล่มหนึ่งที่ตรงกลางสมุดมีรอยดึงกระดาษออก จึงใช้ไฟฉายส่องดู เจอรอยกดจากการเขียน ทุกคำตรงกับจดหมายเรียกค่าไถ่ อีกทั้งยังพบเงินจำนวน 197,000 แสนบาท และกระเป๋านักเรียนของน้องแมวใต้ฝ้าภายในบ้าน หลัง 16 วันก็เจอศพน้องแมว โดนฆ่าโบกปูนและถ่วงน้ำเอาไว้

ฆ่ายัดกล่อง – ส่งศพขึ้นรถไฟ เป็นของขวัญวันปีใหม่

ฆาตกรชื่อ ‘จรินทร์ สิทธิธรรม’ และเหยื่อ ชื่อ ‘เด็กชายกิมบั๊ก แซ่อึ้ง’ อายุ 15 ปี
ฆาตกรชื่อ ‘จรินทร์ สิทธิธรรม’ และเหยื่อ ชื่อ ‘เด็กชายกิมบั๊ก แซ่อึ้ง’ อายุ 15 ปี

หนังเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมต่อไป คือ ฆ่ายัดกล่อง ที่อ้างอิงมาจากคดีที่เกิดขึ้นจริงของ ฆาตกรที่ชื่อว่า ‘จรินทร์ สิทธิธรรม’ และเหยื่อ ที่ชื่อว่า ‘เด็กชายกิมบั๊ก แซ่อึ้ง’ อายุ 15 ปี ถูกฆ่ายัดใส่กล่องกระดาษขนาดใหญ่ ส่งมาทางรถไฟลงที่สถานีรถไฟเชียงใหม่

ฆ่ายัดกล่อง
ฆ่ายัดกล่อง

สามารถอ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่ : รวมเรื่องสยองขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วย 5 คดี “ปีใหม่สยอง”

หนังฆาตกรรม : ศยามล

ศยามล
ศยามล ลาภก่อเกียรติ

มาต่อกันที่ ศยามล หนึ่งในคดีจ้างวานฆ่า เป็นคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2536 ที่คล้ายคลึง กับคดีฆาตกรรม นวลฉวี เป็นเรื่องราวของ ‘ศยามล ลาภก่อเกียรติ’ ถูกแทงเสียชีวิตในรถพร้อมกับลูกสาววัย 2 ขวบ ที่ยังคงนอนกอดร่างไร้ลมหายใจของแม่ โดยมีอดีตสามีอย่าง ‘นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์’ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตาย

นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์
นายแพทย์บัณฑิต โฆษิตชัยวัฒน์

เรื่องมันเริ่มจากการหย่ากันของสองสามีภรรยา ทำให้หมอบัณฑิตถูกตัดออกจากกองมรดกของศยามล นั่นทำให้คุณหมอได้พบรักกับนางพยาบาลสาวคนใหม่ที่ทำงานที่เดียวกัน และแต่งงานกัน ก่อนจะไล่ศยามลและลูกสาวออกจากบ้าน แต่ศยามลไม่ยอม ทำให้หมอบัณฑิตเลือกที่จะจ้างวานฆ่าอดีตภรรยาตัวเอง พร้อมสั่งให้กลุ่มชายฉกรรจ์ข่มขืนก่อนฆ่าเพื่ออำพรางคดี และชิงทรัพย์

ศยามล
ศยามล

หลังจากถูกจับได้ หมอบัณฑิตถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ก่อนจะถูกลดโทษและได้กลับออกมาใช้ชีวิตนอกคุก ในปี พ.ศ. 2552

หนังฆาตกรรม : เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม

เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม
เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม

ภาพยนตร์เรื่อง เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นจากเรื่องจริง! ที่เป็นคดีดังในประวัติศาสตร์ของไทย เล่าเรื่องราวของ นางสาวเตือนใจ พวงนาค ที่ถูกจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งฉุดไปข่มขืนแล้วฆ่าชิงทรัพย์อย่างทารุณ โดยคนร้ายได้ทิ้งร่องรอยเป็นรอยกัดเอาไว้ที่ร่างกายของเธอ

‘เตือนใจ พวงนาค’ เป็นเด็กสาววิทยาลัยครูสวนสุนันทา หรือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาในปัจจุบัน พ่อและแม่ของเธอเปิดร้านขายของอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 101 ซึ่งเป็นซอยที่ลึกและเปลี่ยวมากในขณะนั้น วันหนึ่งขณะที่นั่งรถเมล์กำลังกลับบ้าน เตือนใจได้เหยียบเท้านักเรียนนายร้อยคนหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ ทำให้ได้รู้จักและสนิทสนมกันมานับแต่นั้น นายร้อยคนนั้นท่าทางหน้าตาดีมีชื่อว่า ‘นตท.วีระเดช สุบรรณรักษณ์’

เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม
เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม

เธอเตือนใจมีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยกัน 4 คน เนื่องจากบ้านของพวกเธออยู่ในซอยเดียวกัน หลังจากที่เตือนใจได้รู้จักกับวรระเดช ทั้งคู่ก็ติดต่อพูดคุยกันเรื่อยมา และได้แนะนำให้เพื่อนสนิททั้ง 4 คนได้รู้จัก และเมื่อวีระเดช ได้เจอเพื่อน ๆ ทั้ง 4 คน ของเตือนใจ ก็นำไปเล่าให้เพื่อนที่เรียนนายร้อยตำรวจด้วยกันฟังว่า เพื่อน ๆ ของเตือนใจทั้ง 4 คนสวยมาก ทำให้เพื่อน ๆ ของวีระเดช ทั้ง 4 คนสนใจอยากทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ของเตือนใจ ทั้งหมดจึงตกลงนัดเจอกันและพากันไปเที่ยวพัทยา ซึ่งขากลับจากพัทยา กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้ไปส่งเตือนใจและเพื่อน ๆ จนถึงบ้านทุกคน แต่ระหว่างทางที่ไปส่งนั้น กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้เกิดมีเรื่องกับกลุ่มจิ๋กโก๋ภายในซอยจนเกือบมีเรื่องชกต่อยกันแต่ก็ไม่ได้มีเรื่องกันบานปลายเพราะกลุ่มสาว ๆ ได้ช่วยกันห้ามไว้ก่อน

จนวันหนึ่ง ทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจได้จัดงานการแข่งขันกีฬาประจำปีขึ้น เตือนใจและเพื่อน ๆ ทั้ง 4 ได้เดินทางไปร่วมงานด้วย แต่วันนั้นบังเอิญแม่ของวรระเดชเกิดป่วยกะทันหัน วีระเดชจึงไม่ได้ไปร่วมงานกีฬาโรงเรียนนายร้อย ทำให้เพื่อน ๆ ของเธอทั้ง 4 อยู่กันครบคู่กับแฟนหนุ่มนายร้อย มีแค่ตัวเธอเอวเท่านั้นที่ต้องอยู่คนเดียว เธอไม่อยากรบกวนเพื่อน ๆ จึงขอตัวกลับบ้านก่อน เนื่องจากไม่ได้บอกที่บ้านไว้ว่าจะมา

เตือนใจ
เตือนใจ

และแล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่เธอกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลาค่ำ ผู้คนบางตาจนแทบจะไม่มีคนเดินผ่าน รถราในสมัยนั้นก็ไม่มีเข้าซอย บวกกับซอยที่พักอาศัยเป็นซอยที่เปลี่ยวมาก เธอที่เดินเข้าซอยเพียงลำพังจึงได้ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมข่มขืนด้วยความทารุณ โดยพ่อแม่ของเธอเป็นผู้พบศพลูกสาวอยู่ที่ข้างทางในคืนที่เกิดเหตุ เนื่องจากพ่อแม่ของเธอเห็นว่าเธอกลับบ้านผิดเวลาจึงได้ออกตามหา

เพชฌฆาต คนสุดท้าย (The Last Executioner)

เชาวเรศน์ จารุบุณย์
เชาวเรศน์ จารุบุณย์

เป็น หนังฆาตกรรม กึ่งสารคดี ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของเพชฌฆาตคนสุดท้ายแห่งเรือนจำบางขวาง เป็นเรื่องราวของ ‘เชาวเรศน์ จารุบุณย์’ ผู้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรี Rock and Roll แต่ชีวิตพลิกผันให้ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาตผู้ลั่นไกปืนคนสุดท้ายของประเทศไทย เขาต้องเลือกเส้นทางชีวิตนี้เพื่อความมั่นคงของครอบครัวที่เขารัก ตลอดระยะเวลากว่า 19 ปี ในการทำหน้าที่เพชฌฆาตกับเบื้องลึกความจริงที่น่ากลัวของการประหารชีวิตนักโทษคนแล้วคนเล่ามากถึง 55 คน เชาวเรศน์เปรียบเสมือนคนสองคนในร่างเดียวกัน หนึ่งคนเป็นนักฆ่าอีกคนเป็นเพียงคนที่รักครอบครัว

เพชฌฆาต คนสุดท้าย
เพชฌฆาต คนสุดท้าย

หลังจากที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทีมเพชฌฆาตใหม่ เชาวเรศน์ได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้าเรือนจำ ต่อมาเขาตัดสินใจบวชเพื่ออุทิศบุญให้กับเหล่านักโทษที่ตัวเองได้เป็นคนลงมือสังหาร แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยลบเลือนความทรงจำ และยังคงมีภาพในอดีตอันน่ากลัวคอยตามหลอกหลอนเขาอยู่เสมอ

ขอขอบคุณเนื้อหาจาก สัมภเวศิลป์ และนี่ก็คือ 5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง คดีฆาตกรรมจริง (Part 2) ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ชาว Ghostsfolder บอกได้เลยว่าเราดูทันแค่ไม่กี่เรื่อง และแต่ละเรื่องก็เป็นหนังไทยยุคเก่าที่เก่ามาก ๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถหาเนื้อหาดูได้แล้ว