ในปี 2025 นี้ จะเห็นว่ากระแสหนังไทยเริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากกระแสและความสำเร็จของ 2 ภาพยนตร์ดังอย่าง “สัปเหร่อ” และ “ธี่หยด ภาค 1” ที่กวาดทั้งรายได้และกระแสตอบรับล้นหลาม ซึ่งทั้ง 2 เรื่องต่างก็เป็น หนังผีไทย ทั้งคู่ ต่างกันแค่มูดแอนด์โทนเรื่องคนละฟีล
จากความสำเร็จของ 2 เรื่องดันั้น ทำให้ในปี 2025 นี้ มีผู้จัดหนังไทยหลายคนพยายามแข่งกันผลิตหนังออกมาเป็นดอกเห็ด แต่จากที่เห็นกว่า 90% คือหนังผีแทบทั้งนั้น จะผีตลก ผีโรแมนติก หรือจะผีสยองขวัญจ๋า ๆ เรียกได้ว่ามีหมด แต่จากที่ดู ๆ มารู้สึกว่าไม่ค่อยเวิร์คสักเรื่อง ทำให้ผู้เขียนนึกถึง หนังผีไทย สมัยก่อนที่ให้ความรู้สึกน่ากลัวกว่า บรรยากาศการดูในโรงหนังที่ต้องหลับตาข้างนึงไปดูไป กลับบ้านก็ต้องถึงขั้นเปิดไฟนอน ซึ่งหาได้ยากในหนังผียุคนี้
วันนี้ฤกษ์งามยามดี ghostsfolder จะพาเพื่อน ๆ ย้อนตำนานความหลอนกับสุดยอดหนังผีในตำนานที่บทก็ดีสุด โทนเรื่องก็หลอนสมกับคำว่าหนังผี กลับมาดูกี่ทีก็การันตีความน่ากลัว 10/10 ไม่มีหัก
5. ทองสุก 13
ผลงานชิ้นโบว์แดงของผู้กำกับธี่หยดที่เคยสร้างตำนานความหลอนที่ทุกคนจำจดกันได้ดีกับตำนาน “ผีรำท่าสะพานโค้ง” และวลีที่ว่า “นี่แหละที่เรียกว่า ผีหลอก” เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนในมหาวิทยาลัยที่ไปทำโปรเจกต์ร่วมกัน พวกเขาเลือกไปยังเกาะร้างที่เคยเป็นสถานที่บูชายัน
“ทองสุก” เด็กหนุ่มออทิสติกที่พยายามอยากจะเข้ากลุ่ม และต้องการอยู่ใกล้ชิดกับ “น้ำ” เขาแอบตามไปบนเกาะ ด้วยความที่บุคลิกเขาเป็นแบบนี้ ทำให้เขามักโดนเพื่อนแกล้งเป็นประจำ ยิ่งเขาแอบตามมาบนเกาะแห่งนี้ ยิ่งโดนแกล้งด้วยการถูกขังไว้ในแท่นบูชายัน ตัวของทองสุขเป็นเด็กที่มีเซ้นท์ วิญญาณสามารถเข้าสิงร่างได้ แม่เขาจึงให้ทองสุกสวมตะกรุดอยู่ตลอดเวลา แต่ครั้งนี้ ตะกรุดหลุด ทำให้ตัวเขาถูกขังในแท่นฆ่าสัตว์บูชายัน จึงเป็นที่มาของเรื่องราวน่าสะพรึงต่อจากนี้
ถามว่าเรื่องทองสุกเป็น หนังผีไทย บทดีที่สุดไหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้น เรามองว่าบทกลาง ๆ แต่ความน่ากลัวมันคือบรรยากาศบนเกาะ และเรื่องราวการเอาตัวรอดของกลุ่มเพื่อนที่ต้องเผชิญกับการหลอกผี ที่ไม่ใช่แค่หลอกตัวละครในเรื่องเท่านั้น แต่ยังต้มคนดูจนเชื่อตามจริง ๆ โดยเฉพาะตอนจบนี่เรียกว่า พีคในพีคสุด ๆ หากใครยังไม่เคยดู แนะนำว่าลองไปดูสักครั้ง ดูจบแล้วจะร้องว่า “ห๊ะ ๆๆๆ แบบนี้ก็ได้หรอ…”
4. Shutter
Shutter ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004) ภาพยนตร์แนวสยองขวัญขึ้นหิ้งในตำนานอีกเรื่องนึงของไทยที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนเคยถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นเวอร์ชันตะวันตกเมื่อปี 2551
เรื่องราวของ “ธรรม์ (อนันดา เอเวอริงแฮม)” ช่างภาพหนุ่มและ “เจน (จ๋า-ณัฐฐาวีรนุช ทองมี)” แฟนสาวที่ต้องพบเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดหลังจากคืนที่พวกเขาขับรถชนหญิงสาวปริศนา พวกเขาพบความผิดปกติของภาพถ่ายที่ล้างมา หลายภาพผิดธรรมชาติ บางภาพมีแสง เส้น คล้ายใบหน้าคนติดมา ราวกับพยายามบอกเล่าเรื่องราวบางอย่าง
Shutter ถูกยกย่องว่าเป็นอีกหนึ่งหนังผีไทยขึ้นหิ้งที่บทดีอันดับต้น ๆ การถ่ายทอดอารมณ์ และความรู้สึกของตัวละครที่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย พร้อมกับปริศนาในภาพถ่าย จนถึงตอนสรุปเรื่องราวทั้งหมดที่ทำเอาคนดูอึ้งไปตาม ๆ กัน โดยเฉพาะฉากผีขี่คอในตำนาน ยังคงเป็นฉากที่ถูกหยิบนำมาล้อเลียนจนถึงทุกวันนี้
3. บอดี้ ศพ 19
ถ้าให้แนะนำ หนังผีไทย บทดีมีชั้นเชิง ไม่ได้มีแต่ฉากตุ้งแช่ หรือ Jump Scare พร่ำเพรื่อ “บอดี้ ศพ 19” เป็นหนังที่เราแนะนำว่าควรค่าแก่การไปหาดูอย่างยิ่ง
บอดี้ ศพ 19 ภาพยนตร์สยองขวัญที่แหกขนบหนังผีในยุคนั้น ที่ส่วนใหญ่จะเน้นผีจ๋า ๆ แนวผีหลอกวิญญาณหลอน หรือไม่ก็ไปทางหนังผีตลกโป๊กฮาไปเลย แต่สำหรับเรื่องนี้ออกแนวจิตวิทยาสยองขวัญ (Psychological Horror) ว่าด้วยเรื่องราวของ “ชลสิทธิ์ (อารักษ์ อมรศุภศิริ)” ที่อยู่ ๆ ก็เห็นภาพหลอนในหัว และฝันร้ายหลังจากคืนที่ไปรับชมการแสดงละครเวที
ภาพในความฝันเป็นเรื่องราวของผู้หญิงที่ชื่อ “ดาราราย” คล้ายกับว่า เธอต้องการให้เขาช่วยเหลือหรือไขปริศนาอะไรสักอย่าง จนท้ายสุด เขากลับต้องพบกับความจริงที่ตัวเขาเองไม่สามารถหลีกหนีได้ ความสัมพันธ์อันน่าสับสนระหว่าง ชลสิทธิ์ เอ๋ หมออุษา หมอสุธี และหญิงสาวในความฝันที่ชื่อ “ดาราราย” ยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ตลอดเวลา
2. โปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต
เมื่อพูดถึง หนังผีไทย ที่ความหลอนติดตา ถึงขนาดที่ว่าต้องปิดไฟนอนเป็นอาทิตย์ ต้องยกให้เรื่องนี้เลย “โปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต” หรือที่พวกเราคุ้นกันในชื่อ “ผีชบา” นั่นแหละ
ย้อนไปกว่า 20 ปีที่แล้ว ที่สุดของตำนานหนังผีที่เขย่าประสาทคนชอบไปดูหนังในโรงสุด ๆ ด้วยเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายหนัง และโรงภาพยนตร์ตรง ๆ หากใครยังจำกันได้ดีว่าผีที่เราพูดถึงคือ ผีชบา หญิงสาวแสดงสมทบ ที่ต้องมาแสดงบทบาทผีชบาที่กำลังถูกชาวบ้านจับแขวนคอจนตาย แต่กลับเกิดอุบัติเหตุกลางกองถ่ายทำให้เธอเสียชีวิตจริง
การเสียชีวิตของเธอกลับถูกปกปิดเป็นความลับ แต่หนังที่เธอแสดง บทบาทที่เธอเสียชีวิตจริงกลับถูกฉายออกสู่สายตาผู้ชม ราวกับว่ามันคือเรื่องบันเทิง ความแค้นก่อตัวขึ้น กลายเป็นความอาฆาตกลุ่มคนที่ทำกับเธอ จนนำพาไปสู่การตายสุดสยองของผู้คนที่เกี่ยวข้อง และใครก็ตามที่ได้ดูม้วนฟิล์มนั้น ก็จะตายไปด้วย
เรื่องราวจะแอบคล้ายกับ The Ring ของญี่ปุ่น หากใครดูม้วนฟิล์ม ก็เหมือนกับว่าคนนั้นถูกคำสาป และจะต้องตาย โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต ถือว่าเป็นหนังผีที่คนดูรู้สึก Related กับมันโดยตรง ลองคิดดู ขณะที่เรากำลังนั่งดูหนังเรื่องนี้ในโรง ในขณะที่ในหนังคนที่โดนต้องคำสาป ก็คือคนดูหนังในโรงเหมือนกัน ลองคิดดูว่ามันสยองหัวแค่ไหน บรึ๋ย!!
1. ลัดดาแลนด์
มาถึงอันดับ 1 ของเราในวันนี้จะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “ลัดดาแลนด์” สุดยอด หนังผีไทย อีกเรื่องที่บทก็ดีมาก ความน่ากลัวก็สุดติ่งกระดิ่งแมว เรียกได้ว่า ขึ้นสุดของจริง!
ย้อนตำนานหมู่บ้านลัดดาแลนด์ หมู่บ้านที่ภายนอกดูสวยงาม ดึงดูดผู้คนให้หลงรักทันทีตั้งแต่แรกเห็น ไม่ต่างจากครอบครัวของ “ธีร์ (สหรัฐ สังคปรีชา)” ชายหนุ่มที่ต้องเผชิญกับปัญหาการงานและการเงิน เขาได้ตัดสินใจซื้อบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านลัดดาแลนด์ (ก็เพราะเห็นแก่ความสวยงามภายนอกนี่แหละ) เขาพาครอบครัวย้ายจากกรุงเทพฯ มาอยู่ที่นี่ แต่กลับต้องมารู้ว่า สาวใช้ชาวเมียนมาข้างบ้านเพิ่งถูกฆ่ายัดศพไว้ในตู้เย็น นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวขวัญผวาที่คนในครอบครัวต้องเผชิญกับวิญญาณในหมู่บ้านแห่งนี้
สำหรับลัดดาแลนด์ เรามองว่าเป็น หนังผีไทย ที่ครบรสมาก จะว่าเป็นหนังผีก็ใช่ แต่นี่มองว่ามันออกแนวหนังดราม่าครอบครัวที่มีผีเป็นตัวแปรของเรื่องมากกว่า เรียกได้ว่า ดูจบแล้วมันทั้งหดหู่ และสยองจนต้องนอนเปิดไฟได้เลย ทุกอย่างลงตัวครบรสไปหมด ทั้งบท การแสดง แล้วก็บรรยากาศที่ทำเอาหลอนหมู่บ้านจัดสรรไปหลายปีเลย
สรุป
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 หนังผีไทย ที่เราเอามาพูดถึงกันในวันนี้ ใครเคยดูเรื่องไหนมาแล้วบ้างยกมือขึ้น หากใครเคยดูเรื่องเหล่านี้มาแล้วในอดีต แล้วโหยหาหนังผีที่กลมกล่อม แถมน่ากลัวแบบที่หนังผีควรจะเป็นจริง ๆ ลองหาเวลาว่างกลับไปย้อนดูอีกครั้ง รับรองว่าความหลอนยังเต็มร้อย แต่หากใครยังไม่เคยดู ลองไปหาดูกันได้เลยจ้า