คดีฆาตกรรม

5 คดีฆาตกรรม ปริศนาใครเป็นคนฆ่า ยังคงปิดไม่ลงจนเป็น Cold Case มาจนถึงทุกวันนี้

หัวข้อน่าสนใจ

คดีฆาตกรรม ปริศนาใครเป็นคนฆ่า ถือเป็น Cold Case ที่น่าสนใจ เพราะแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังคงหาคำตอบเพื่อจับผู้ร้ายมาลงโทษได้ ทำให้คดดีหลายคดีถูกแช่แข็งเอาไว้อย่างเป็นปริศนา วันนี้เราจะพาไปส่งอว่ามีคดีปริศนาอะไรบ้างในอดีตที่ยังคงเป็นปริศนามาถึงทุกวันนี้

คดีฆาตกรรม ไทลินอล

เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 1982 เหยื่อรายแรกคือ ‘แมรี่ เคลเลอร์แมน’ เด็กหญิงวัย 12 ปี หลังจากรับประทานยาไทลินอลแบบแรงพิเศษไป ทำให้เธอเสียชีวิตลงทันที และในวันเดียวกันเองนั้น ‘อดัม เจนัส’ ที่อยู่ในละแวกเดียวกันกับน้องแมรี่ ก็เกิดอาการชักหลังจากรับประทานยาชนิดเดียวกันเข้าไป เขาถูกส่งไปยังโรงพยาบาลท้องถิ่น แต่สุดท้ายก็เสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

คดีฆาตกรรมไทลินอล
คดีฆาตกรรมไทลินอล

ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนด้วยการชันสูตรศพ ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ‘สแตนลีย์ เจนัส’ น้องชายของอดัม และ ‘เธเรซา เจนัส’ ภรรยาของสแตนลีย์ ก็เสียชีวิตตามกันหลังจากรับประทานไทลินอลเข้าไปเพียงไม่กี่วันหลังจากอดัมเสียชีวิต ตำรวจเริ่มปะติดปะต่อเหตุที่คิดว่าเป็น คดีฆาตกรรม และเชื่อมโยงการเสียชีวิตที่แปลกประหลาด จนได้พบว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมด ได้รับประทานแคปซูลไทลินอลที่ถูกเจือด้วยโพแทสเซียมไซยาไนด์

คดีฆาตกรรมไทลินอล
คดีฆาตกรรมไทลินอล

‘เจมส์ ลิวอิส’ ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวข้อง โดยเขาเคยส่งจดหมายไปถึงผู้ผลิตยาในเดือนตุลาคม ค.ศ.1982 ระบุว่าเขาจะ “หยุดการฆ่า” แต่ต้องแลกกับเงินหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ  จากการสืบสวนพบว่าในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เจมส์ยังคงอาศัยกับภรรยาที่นิวยอร์ก จึงไม่ได้เป็นฆาตกรที่แท้จริง ซึ่งต้องบอกเลยว่า เจมส์ไม่ได้เป็นชายคนเดียวที่ถูกสืบสวนในคดีวางยานี้ มีผู้ต้องสงสัยอีกหลายคนที่ถูกจับและนำตัวมาสอบสวน แต่สุดท้ายแล้วแม้แต่เอฟบีไอก็ยังไม่สามารถหาตัวคนร้ายที่แท้จริงได้ กลายเป็น Cold Case จนปัจจุบันนี้

ปริศนา คดีฆาตกรรม สังหารโหดนางงามเด็ก

กระดาษ 3 แผ่น พร้อมเรียกค่าไถ่เป็นวงเงินถึง 118,000 ยูเอสดอลลาร์ กับการตามหาเบาะแสของคนร้ายที่ลักพาตัวลูกสาวคนเล็ก วัย 6 ขวบ ‘จอนเบอร์เน่ต์ แรมซีย์’ นางงามเด็กที่คว้ามงกุฎมาหลายเวที สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้จอห์นผู้เป็นพ่อตรวจสอบทั่วทั้งบ้าน ก่อนที่จะพบกับลูกสาวที่นอนนิ่งอยู่ชั้นใต้ดิน แต่ไม่หายใจแล้ว

จอนเบอร์เน่ต์ถูกรัดคอด้วยเชือก และยังมีบางส่วนรัดเอวเธอด้วย ปลายเชือกถูกมัดไว้ด้วยพู่กันที่หัก ซึ่งเป็นของแพทซีย์ ผู้เป็นแม่ใช้วาดรูปอยู่เป็นประจำ จากการชันสูตรศพพบว่ามีร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ และกะโหลกศีรษะของเด็กหญิงนั้นแตก ทำให้ตำรวจสันนิฐานว่าเป็นคดีที่ยาวนานถึง 24 ปี และยังคงเป็นปริศนาเมื่อหาตัวคนร้ายไม่เจอ หลักฐานที่ได้ก็ไม่ช่วยให้จับคนร้ายตัวจริงได้เช่นกัน ส่งผลให้ครอบครัวแรมซีย์เป็นแพะที่กลายเป็นจำเลยทางสังคมด้วยการพาดข่าวพิพากษาว่าเป็นฆาตกร

ปริศนาคดีฆาตกรรม สังหารโหดนางงามเด็ก
ปริศนาคดีสังหารโหดนางงามเด็ก

ด้วยหลักฐานที่มีถูกได้รับมาไม่สมบูรณ์เนื่องจากตอนที่จอหน์พบศพของน้องจอนเบอร์เน็ต ได้ทำการดึงเทปพันสายไฟที่รัดปากเธอออก นั่นเป็นการทำลายหลักฐานที่อ้างไม่ขึ้น นอกจากนี้ผลตรวจดีเอ็นเอที่มีการเก็บมา ก็พบว่าฆาตกรน่าจะเป็นผู้ชาย แต่ไม่ใช่พ่อแน่นอน

ยังมีเรื่องราวที่โหดร้ายกว่านั้นเมื่อที่นักเขียนหลายคนเริ่มเขียนบล็อคสันนิฐานว่าแท้จริงแล้ว เบิร์ก วัย 9 ขวบ พี่ชายแท้ ๆ ของจอนเบอร์เน็ตเป็นฆาตกร ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ต้องช่วยกันอำพรางศพ ทางครอบครัวแรมซีย์จึงได้ออกมาฟ้องร้องค่าเสียหาย และประเด็นนี้ก็โดนปัดตกไปอีกครั้ง เวลาลวงเลยมาจนถึงแพทซีย์ได้เสียชีวิตลงในโรคมะเร็งทำให้จอห์นผู้เป็นพ่อแต่งง่านย้ายออกจากเมืองไป โดยยังคงระลึกถึงเสมอเพื่อตามหาคนที่ฆ่าลูกสาว แต่จนถึงทุกวันนี้คดีนางงามเด็กก็ยังคงแก้ไม่ได้เหมือนเดิม

The Black Dahlia

ในวันที่ 15 มกราคม ค.ศ. 1947 ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีการพบศพมนุษย์ที่ข้างทางจากสองแม่ลูกที่กำลังเดินทางไปยังร้านรองเท้าละแวกใกล้กับสวนสาธารณะไลเมิร์ทที่ลอสแองเจลิส (L.A) ถนนนอร์ตันใต้ที่อยู่ระหว่างถนนโคลีเซียม หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการตรวจสอบพบว่า เป็นร่างของหญิงสาวที่ถูกหั่นครึ่งท่อน นอนเปลือยกายอยู่ ไม่มีเศษเนื้อห้อยรุ่งริ่งแต่อย่างใด เหมือนฆาตกรเป็นคนที่มีฝีมือและชำนาญอย่างมากในการชำแหละ ผิวของเธอซีดเป็นสีขาวเพราะไม่มีเลือดในร่างกายของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ที่ต้นขาพบรอยแหว่งคล้ายถูกตัดด้วยของมีคมออกไป ชิ้นเนื้อส่วนที่หายไปนั้นพบว่าอยู่ในบริเวณอวัยวะเพศของตัวศพ รวมทั้งยังมีพวกเศษใบไม้ถูกอุดอยู่ด้วย และสิ่งที่น่าตกใจคือ ช่องคลอดของเธอตัน

คดีฆาตกรรม The Black Dahlia
คดีฆาตกรรม The Black Dahlia

หลังจากมีการชันสูตรศพด้วยการตรวจรอยนิ้วมือ ทำให้พบว่าเจ้าของร่างนี้คือ ‘อลิซาเบธ ชอร์ท’ และความน่าสงสัยคือช่องคลอดของเธอพิการตั้งแต่กำเนิด ผิดกับรูปร่างหน้าตาของเธอที่สะสวย นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในกระเพาะอาหารของเธอเต็มไปด้วยอุจจาระ  เลยได้มีการสันนิษฐานว่าก่อนที่เธอจะเสียชีวิต ฆาตกรได้บังคับให้เธอกินอุจจาระเข้าไปจนเต็มกระเพาะ ก่อนที่จะฆ่าเธอทิ้ง

คนร้ายเป็นหนึ่งในลิสต์จากเบอร์โทรศัทพ์ของเธอ เจ้าหน้าที่ตำรวจเลยทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยถึง 100 คน แต่ก็ไม่พบข้อมูลหรือเบาะแสที่เป็นไปได้สักคน ต่อมาที่สถานีตำรวจได้รับพัสดุหนึ่งที่มีกลิ่นฉุนของน้ำมันหึ่งไปหมด แนบมาพร้อมจดหมายที่เขียนว่า “นี่คือของส่วนตัวของดาห์เลีย และเบาะแสสำคัญ”  ในวันเดียวกันนั้นเองมีเบาะแสรายงานว่า พบถุงมือหนังสีดำ รองเท้าหนังสีดำและถุงเท้า อยู่บนกองขยะห่างจากที่พบศพประมาณ 2 ไมล์ และพบว่าถุงมือหนัง รองเท้า และถุงเท้าที่พบ ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซินเช่นเดียวกับตัวศพของอลิซาเบธและพัสดุลึกลับนั่น แต่ต่อให้มีหลักฐานอื่น ๆ และสมุดโทรศัพท์ที่ตำรวจสามารถดึงข้อมูลของผู้ต้องสงสัยได้ถึง 25 ราย ก็กลับคว้าน้ำเหกลวอีกครั้ง เพราะหลักฐานมีไม่เพียงพอ

คดีฆาตกรรม The Black Dahlia
คดีฆาตกรรม The Black Dahlia

สุดท้ายตำรวจก็ต้องปิดคดีนี้ลงและไม่สามารถจับคนร้ายที่ก่อคดีนี้ บวกกับผู้ต้องสงสัยบางคนเป็นลูกนักการเมืองท้องถิ่น บางคนเป็นคนเด่นคนดัง ในคดีนี้จึงมีตำรวจโดนเด้งอยู่หลายคน จึงจำเป็นที่จะต้องปิดคดีนี้ลงอย่างน่าเสียดาย เป็นคดีที่ไม่ใช่ Cold Case แต่เป็นคดีที่ปริศนายากที่จะหาคำตอบ

คดีฆาตกรจักรราศี ( Zodiac Killer)

ฆาตกรจักรราศี เป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือเป็นผู้ก่อเหตุในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษที่ 1960 ในแถบพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงเขตรัฐเนวาดา แต่ทางการเองก็ไม่สามารถระบุถึงตัวตนและแรงจูงใจในการก่อเหตุได้มาจนถึงปัจจุบัน มีเหยื่อที่ต้องเสียชีวิตลงทั้งหมด ชาย 4 คน หญิง 3 คน อยู่ในช่วงอายุ 16-29 ปี ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเหยื่อของโซดิแอกจริง และเหยื่ออีก 37 ราย ที่โซดิแอกกล่าวว่าเป็นฝีมือของเขาเอง

คดีฆาตกรรมจากฆาตกรจักรราศี ( Zodiac Killer)
คดีจากฆาตกรจักรราศี ( Zodiac Killer)

ทุกครั้งที่ก่อคดี เขาจะส่งจดหมายให้กับกรมตำรวจซานฟรานซิสโกและถูกนำออกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ทำให้ประชาชนทั่วไปรู้จักเขาในนามดังกล่าว ห้อยท้ายด้วยนามของโซดิแอก ซึ่งในจดหมายประกอบด้วยรหัสลับ 4 ชุด ล่าสุดมีการถอดรหัสลับนั้นได้แล้วโดยฝีมือของทีมผู้เชี่ยวชาญจากสามประเทศ อย่าง ‘เดวิด โอแรนแชค’ นักออกแบบเว็บไซต์ ชาวเวอร์จิเนีย , ‘ซัม เบลก’ นักคณิตศาสตร์ประยุกต์ ชาวออสเตรเลีย และ ‘จาร์ล แวน อัยค์’ วิศวกรซอฟต์แวร์ถอดรหัส ชาวเบลเยียม ซึ่งรหัสดังกล่าวมีข้อความประมาณว่า

คดีฆาตกรรมจากฆาตกรจักรราศี ( Zodiac Killer)
คดีฆาตกรรมจากฆาตกรจักรราศี ( Zodiac Killer)

ฉันหวังว่าพวกแกจะรู้สึกสนุกในการพยายามไล่จับฉัน คนที่ไปพูดในทีวีตอนนั้น ไม่ใช่ฉันหรอก ฉันไม่กลัวการถูกรมแก๊ส เพราะมันจะส่งฉันไปสู่สวรรค์ ที่นั่นมีทาสที่พร้อมจะรับใช้ฉันมากพอ ในขณะที่คนอื่นไม่มี เพราะพวกนั้นหวาดกลัวความตายไงล่ะ แต่ฉันไม่กลัว เพราะฉันรู้ว่าชีวิตหลังความตายของฉันมันจะสุขสบายแค่ไหน”

ซึ่งในการถอดรหัสนี้ ใช้เวลานานมากถึง 51 ปี กับรหัสเพียง 340 ตัว ซึ่งอีกหนึ่งปริศนาอีกฉบับได้ถูกไขสำเร็จในปี ค.ศ. 2512 โดยครูโรงเรียนในแคลิฟอร์เนียและภรรยาของเขาอ่านได้ว่า “ฉันชอบฆ่าเพราะมันสนุกมาก” แต่ตอนนี้ยังเหลืออีก 2 ฉบับที่ยังถอดรหัสไม่ได้ และทุกวันนี้คดีจากฆาตกรจักรราศีก็ยังคงแก้ปริศนาไม่ได้ เหยื่อที่เสียชีวิตไปก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม  ทำให้คดีนี้เป็นคดีที่ปิดตัวไม่ได้และเป็น Cold Case ที่รอเวลาเปิดมันอีกครั้ง

คดีแห่งคลีฟแลนด์ “คิงส์เบอร์รี่ รัน”

ณ เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 1935 – 1940 ได้เกิดคดีสยองขวัญขึ้น โดยพบศพมนุษย์ชายและหญิงจำนวนมากในเขตลำน้ำคิงส์เบอรี รัน ลำน้ำสายยาวไหลตัดผ่านด้านตะวันออกของเมือง อีกทั้งเหยื่อทุกรายถูกฆ่าฆาตกรรมโดยฝีมือของฆาตกรคนเดียวกัน เป็นคดีดังแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงปริศนาว่าใครคือฆาตกร และเขาฆ่าคนไปตั้งมากมายเพื่ออะไร ?

คดีฆาตกรรมแห่งคลีฟแลนด์ “คิงส์เบอร์รี่ รัน”
คดีฆาตกรรมแห่งคลีฟแลนด์ “คิงส์เบอร์รี่ รัน”

คดีฆาตกรรมแห่งคลีฟแลนด์ ได้เปิดฉากในปี ค.ศ.1935 และจบลงในปี 1940 มีเหยื่อของฆาตกรทั้งหมด12 ราย แยกเป็นชาย 7 ราย หญิง 5 รายระบุชื่อศพได้เพียง 2 คน คือชายหนุ่มชื่อ ‘เอ็ดเวิร์ด เอ. แอนดราสซี’ และ ‘ฟลอเรนซ์ ซอดี โพลิลโล’ โสเภณีขี้เมา ศพทั้งหมดที่พบมีสภาพถูกตัดศีรษะและแขนขา ลำตัวถูกตัดเป็นท่อน โดยศีรษะและมือค้นหาไม่พบ ศพที่ 1-4 เป็นเพศชายทั้งหมด โดนตัดหัวออกทั้งหมดและเรื่องน่าแปลกคือศพไม่มีเลือด

คดีฆาตกรรมแห่งคลีฟแลนด์ “คิงส์เบอร์รี่ รัน”
คดีฆาตกรรมแห่งคลีฟแลนด์ “คิงส์เบอร์รี่ รัน”

‘ด.ร.แฟรงค์ อี.สวีนีย์‘ ถูกตั้งข้อสงสัยจากหลักฐานว่าคนที่จะสามารถลงมือได้ต้องมีความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ทำให้เขาตกเป็นหนึ่งผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 แต่แล้วก็ได้มีแพะรับบาปคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘แฟรงค์ โดเลซา’ แต่ในท้ายที่สุด เดือนสิงหาคม 1939 มีคนพบศพเขาคอตายในห้องขัง ! โดยไม่มีหลักฐาณว่าฆ่าตัวตายหรือโดนฆาตกรรม หลังจากนั้นคดีฆาตกรรมนี้ก็ได้รับความสนใจน้อยลง จนต้องทิ้งคดีฆาตกรรมนี้ในแฟ้มประวัติอาชญากรรมที่ไขไม่ออกมาถึงทุกวันนี้

casinovega เสือมังกรออนไลน์ ไพ่เสือมังกรออนไลน์ เสือมังกร ออนไลน์ เสือ มังกร ออนไลน์ บาคาร่าเว็บตรง sa casino online casino sa sa1688 บาคาร่า sa casino เข้าสู่ระบบ ป๊อกเด้งออนไลน์ ได้เงินจริง ป๊อกเด้งได้เงินจริง เล่น ป๊อก เด้ง ได้ เงิน จริง แบล็คแจ็คออนไลน์ juth88 โปรโมชั่นเครดิตฟรี สมัคร-juth88

สามารถติดตามบทความน่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ Ghostsfolder