โยไคญี่ปุ่น ตำนานความเชื่อที่อยู่คู่ประเทศญี่ปุ่นมาสมัยโบราณกาล ตั้งแต่สมัยที่ชาวญี่ปุ่นยังคงนับถือภูตผี เทพเจ้า และการเคารพธรรมชาติ “โยไค” สามารถตีความได้ทั้งวิญญาณอาฆาต ปีศาจ สิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดหรือสิ่งเหนือธรรมชาติที่ได้กลายเป็นตำนานเรื่องเล่ามาจนถึงทุกวันนี้
บทความนี้จะพาชาว ghostsfolder ไปรู้จักกับ 7 โยไคที่โด่งดังของประเทศญี่ปุ่น ที่พอเราอ่านแล้วอาจคิดว่า มีแบบนี้ด้วยหรอ?
7. กาชาโดคุโระ (がしゃどくろ)
ย้อนกลับไปราว 1,000 ปีก่อน สมัยที่ญี่ปุ่นอยู่ในยุคแห่งการแย่งชิงอำนาจของเหล่าขุนนาง ซามูไรชื่อไทระ โนะ มาซาคาโดะ ที่ก่อกบฏนองเลือกเพื่อต่อต้านรัฐบาลกลางถูกสังหาร ทาคิยะฉะ ฮิเมะ ลูกสาวของเขาผู้เป็นแม่มดได้ใช้มนต์ดำปลุกวิญญาณทหารผู้กล้าก่อตัวเป็นร่างเดียวกันในลักษณะโครงกระดูกขนาดใหญ่
นี่คือเรื่องเล่าจากนิทานปรับปราของเจ้าโยไคชื่อว่า “กาชาโดคุโระ” หรืออีกชื่อนึงคือ “โอโดะคุโระ” ปีศาจโครงกระดูกขนาดใหญ่สูง 90 ฟุต ปีศาจผู้กระหายเลือดและความเคียดแค้นยามค่ำคืน ที่มาพร้อมกับเสียง “กาจิ กาจิ” ว่ากันว่า มันเกิดจากวิญญาณของเหล่าทหารที่ตายจากสนามรบ และผู้คนตามชนบทที่ต้องล้มตายจากความอดอยาก พวกมันก่อตัวรวมร่างกันเป็นโครงกระดูกขนาดใหญ่ที่เฝ้ามองผู้คนที่เดินผ่านไปมายามค่ำคืน แล้วรอจังหวะกระโดดเข้าใส่ บีบมือ กัดหัวเหยื่อ แล้วดูดเลือดจนแห้งหมดตัว
6. กัปปะ (かっぱ)
Kappa โยไคญี่ปุ่น ที่ดูไม่ได้ร้ายกาจเหมือนโยไคตัวอื่นของญี่ปุ่น ออกจะคล้ายเด็กซุกซนซะมากกว่า “กัปปะ” เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ มีรูปร่างหน้าตาคล้ายลิงหรือบางครั้งก็เหมือนสัตว์ตระกูลนาก แต่มองผ่าน ๆ ก็ดูเหมือนกบ มีจะงอยปากสั้น หลังเหมือนเต่า ขาเป็นพังผืด และมีทวารหนัก 3 รู บนหัวของมันมีจาน ซึ่งเป็นพลังชีวิตของพวกมัน พวกมันจะต้องทำให้จานบนหัวเปียกอยู่ตลอดเวลา เพื่อรักษาระดับพลังชีวิต
พวกมันอาศัยตามแหล่งน้ำ ห้วย หนอง คลองบึง และทะเล มีนิสัยรักสันโดษ มีสติปัญญาเฉียบแหลม สามารถเรียนรู้ภาษามนุษย์ได้ ชำนาญในเรื่องของยาและศิลปะการจัดกระดูก
ความเชื่อเกี่ยวกับกัปปะพบได้ทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละภาค บางท้องที่ก็เชื่อว่ามันปีศาจตัวร้ายที่คอยดึงขาคนให้จมน้ำตาย หรือ ฆ่าโดยการดึงลูกทวารออกแล้วกิน แต่ความเชื่อในบางท้องที่ก็ว่า มันคือวิญญาณเทพเจ้าที่คอยช่วยเหลือคนไม่ให้จมน้ำก็มี
5. คุจิซะเกะ ออนนะ (口裂け女)
คุจิซะเกะ ออนนะ ตำนานสาวปากอ้าผู้โด่งดังของประเทศญี่ปุ่นที่เราคงเคยได้เห็นในมังงะหลายเรื่อง หรือแม้กระทั่งเกมออนไลน์ของญี่ปุ่น ก็มักหยิบตัวละครในตำนานนี้มาเล่น
ตำนานสาวปากอ้าง “คุจิซะเกะ ออนนะ” ตามคำบอกเล่าของคนโบราณได้เปรยถึงหญิงสาวชุดขาวผู้มีใบหน้าสวยงาม แต่มือกลับถือพัดญี่ปุ่นโบราณปกปิดใบหน้าช่วงล่างเอาไว้ หญิงสาวมักดักรอนักท่องราตรีที่หลงเดินผ่านทางตอนกลางคืน เมื่อเธอเข้าไปหาเขาเหล่านั้น เธอจะถามว่า “วะตะชิวะ คิเรอิ” แปลว่า “ฉันสวยมั้ย” หากตอบว่าสวย เธอจะเอาพัดลง เผยให้เห็นริมฝีปากที่ฉีกยาวตั้งแต่หูถึงหูอีกข้าง ดูน่าขนลุก
พอเปิดใบหน้าออก เธอจะถามย้ำอีกครั้งว่า “คิเรอิ เดะโมะ?” แปลว่า “แล้วนี่ล่ะ ฉันยังสวยอยู่มั้ย” พร้อมแสยะยิ้มชวนขนลุก หากเหยื่อตอบว่า “ไม่” หรือกรี๊ดร้องด้วยความกลัว เธอจะฆ่าเหยื่อให้ปากฉีกถึงใบหูเหมือนกับเธอ แต่หากเหยื่อตอบว่า “สวย” เธอจะปล่อยตัวไป แต่เธอจะตามไปฆ่าเหยื่อถึงบ้านในค่ำคืนนั้นเอง
4. อาคะ มังโตะ (赤マント)
Aka Manto ชายรูปร่างสง่าในชุดคลุมสีแดง สวมหน้ากากสีขาวปกปิดใบหน้า โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นในฐานะ โยไคญี่ปุ่น แห่งห้องน้ำสาธารณะ เขามักปรากฏตัวในห้องน้ำสาธารณะ โดยเฉพาะห้องน้ำหญิง และห้องน้ำหญิงของโรงเรียนประถมที่ไม่ค่อยมีคนเข้า เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาใช้ห้องน้ำห้องสุดท้าย ก็จะเจอกับ Aka Manto
เขามักจะถามคำถามที่บังคับให้เหยื่อต้องเลือก เช่น ‘คุณต้องการกระดาษชำระสีแดงหรือสีน้ำเงิน’ หรือ ‘คุณชอบเสื้อคลุมสีไหนมากกว่ากัน ระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน’ หากเหยื่อเลือกสีแดง มันจะใช้มีดที่มือปาดคอเหยื่อเพื่อให้เลือดไหลท่วมตัวเหมือนถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีแดง แต่หากเลือกเสื้อสีน้ำเงิน มันจะยื่นมือมาจากชักโครก แล้วบีบคอเหยื่อจนหน้าซีดเขียวคล้ายสีน้ำเงิน แต่หากเหยื่อเลือกตอบสีอื่น เช่น สีเหลือง มันจะกดหัวเหยื่อลงชักโครก คล้ายกับสีของน้ำปัสสาวะ วิธีที่จะรอดจาก Aka Manto ได้ มีคนคาดเดาว่า น่าจะไม่ตอบเลือกสีอะไรเลย
3. อาเมะ อนนะ (雨女)
Ame Onna ตำนานหญิงสาวผู้สูญเสียลูกจนตายกลายเป็นวิญญาณอาฆาตผู้คอยลักพาตัวเด็กทารกแรกเกิด หญิงสาวร่างเปียกโชกไปด้วยน้ำ เธอมักเดินเตร็ดเตร่ไปตามหมู่บ้านและตรอกซอกซอยยามค่ำคืน พร้อมกับถือกระสอบในมือ ทุกการเดินทางของเธอมักมาพร้อมกับสายฝน ร่างกายที่เปียกชุ่มถูกเลียแขนและมือราวกับสัตว์ป่า
ชาวบ้านเล่ากันว่า เธอจะมาลักพาตัวเด็ก โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กแรกเกิดเพศหญิงที่เล่าขานกันว่าเธอจะเอาไปทดแทนลูกที่ตายไป ดังนั้น ถ้าอยู่ ๆ มีฝนตกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ดูเหมือนจะมีประโยชน์กับชนบทที่แห้งแล้ง แต่การมาของเธอกลับมีจุดประสงค์ชั่วร้าย ชาวบ้านจะรีบปิดประตูหน้าต่างให้หมด เพราะเชื่อว่า Ame Onna จะมาขโมยลูกไป
2. คุบิคาจิริ (首かじり)
คุบิคาจิริ ตำนานผีกินหัวคนที่ปรากฏในภาพวาดของ “อิปปิตสึโซ บุนโจ” ที่ว่ากันว่าคือต้นกำเนิดเรื่องราวผีกินหัวคนนี้ คุบิคาจิริ วิญญาณผมยาวรุงรัง ผิวสีแทน ดวงตาโหล ไม่มีขา สวมชุดคลุมศพสีขาว มักอาศัยอยู่ตามสุสานหรือหลุมศพ และจะปรากฏตัวในวันวิษุวัตฤดูใบไม้ร่วง ว่ากันว่า เขาคือวิญญาณคนตายที่ถูกฝังโดยไม่มีหัว หลังจากที่ตายไปแล้วจะกลายเป็น โยไคญี่ปุ่น ผู้ออกตามหาหัวใหม่
มันมักจะเฝ้ารอคนตายที่เพิ่งถูกฝังใหม่ แล้วรอออกมากินหัวช่วงค่ำคืน ในขณะที่บางความเชื่อเล่าว่า เขาคือวิญญาณของผู้สูงอายุที่ถูกทอดทิ้งให้อดตายช่วงภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ร่างกายที่สลายพร้อมความแค้นในใจ รอเวลาที่คนปล่อยเขาตาม เขาจะตื่นมากินหัวคนนั้น
1. โทอิเร โนะ ฮานาโกะซัง (ツイレの花子さんと)
“โทอิเร โนะ ฮานาโกะซัง” เรื่องเล่าเกี่ยวกับวิญญาณเด็กหญิงอาฆาตที่เล่าต่อกันมาในเกือบทุกโรงเรียนประถมของญี่ปุ่น วิญญาณเด็กหญิงผมบ็อบสั้น สวมชุดนักเรียนประถมและเอี๊ยมสีแดง เธอมักซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำชั้น 3 ห้องที่ 3 ของโรงเรียน ว่ากันว่า หากมีเด็กเข้าไปยังห้องน้ำชั้น 3 ห้องที่ 3 แล้วเคาะประตูถามว่า “ฮานาโกะอยู่มั้ย” ถ้าได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงตอบกลับว่า “ใช่” ประตูห้องน้ำจะถูกเปิดออก แล้วโดนเธอฆ่าทันที
ที่มาที่ไปของ โทอิเร โนะ ฮานาโกะซัง มีคำบอกเล่าแตกต่างกันไปแล้วแต่โรงเรียน บ้างก็ว่าเธอเป็นเด็กนักเรียนที่โดนคนบ้าไล่ฆ่า แล้วเธอวิ่งหนีไปแอบยังห้องน้ำชั้น 3 ห้องที่ 3 แล้วโดนฆ่าตาย บ้างก็ว่า เธอเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนและครอบครัว ทำให้เธอฆ่าตัวตายที่ห้องน้ำแห่งนี้
สรุป โยไคญี่ปุ่น ตำนานลึกลับจากแดนอาทิตย์อุไร
เป็นยังไงกันบ้างหลังจากได้รู้จักกับ 7 ตำนาน โยไคญี่ปุ่น ที่เรานำข้อมูลมาแชร์กันในวันนี้ ไม่รู้ว่ามีจริงไหม แต่ตำนานก็ยังคงเป็นตำนานที่เกิดจากคำบอกเล่าของคนโบราณที่ยังคงถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ บางตัวก็เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างตัวละครใน เกมออนไลน์ มังงะ อนิเมะมากมาย