9 ตำนานเมืองวันฮาโลวีน ความน่ากลัวของเทศกาลแห่งความสุข

วันฮาโลวีน เทศกาลที่ชาวคริสต์และคนทั่วโลกให้ความสำคัญ รวมถึงในประเทศไทยเราเองก็ได้เล็งเห็นถึงความสนุกและการเฉลิมฉลองที่น่าตื่นเต้น แต่ถึงแม้ว่าวันฮาโลวีนจะเป็นเทศกาลหรือกิจกรรมที่มีแต่ความสนุกสนาน กลับกลายมีตำนานเรื่องเล่าซ่อนอยู่ในรูปแบบที่คุณคาดไม่ถึง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับตำนานเมืองเปลี่ยนการเทศกาลแห่งความสุข เป็นเทศกาลแห่งความหลอนแบบเต็มรูปแบบ

มีใบมีดโกนซ่อนไว้ในแอปเปิ้ล

“ระวังสิ่งที่คุณกินในวันฮาโลวีน เพราะมันอาจทำให้ปากของคุณฉีก!” โชคดีที่มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้มากนัก แต่ก็มีบางกรณีที่พบเจอวัตถุมีคมในผลไม้ ในช่วงฮาโลวีนเพราะเป็นเทศกาลที่หลาย ๆ คนต่างก็ร่วมกันเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะมีการหลอกหรือเลี้ยง รวมไปถึงการให้ของขวัญในวันสำคัญอย่างเช่นการมอบกระเช้าผลไม้หรือการชวนทานอาหารมื้อค่ำ อย่างไรก็ตาม การที่พบวัตถุมีคมซ่อนอยู่ในแอปเปิ้ลถือเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงและเสี่ยงอย่างมากที่จะหาตัวคนร้ายที่ลงมือทำ อีกทั้งกรณีที่เคยเจอก็เป็นเพียงการล้อกันเล่นมากกว่า

ฆาตกรตัวจริงอยู่เบื้องหลังหน้ากาก Scream

ตามรายงานได้มีการฆาตกรรมวันฮาโลวีนเกิดขึ้นจำนวนหนึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์เรื่อง Scream ออกฉาย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเหล่าฆาตกรอาจจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ที่มีฆาตกรสวมหน้ากาก Ghostface ใช้มีดทำครัวแทงเหยื่ออย่างไร้ความปราณี แต่ประเด็นสำคัญคือเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าใครอยู่เบื้องหลังหน้ากาก เข้าใจได้ว่าเทศกาลฮาโลวีนกลายเป็นช่วงเวลาสำคัญที่บรรดาผู้เฉลิมฉลองต่างก็ใส่เสื้อผ้าและสวมหน้ากาก ซึ่งนั่นคือความกังวลที่หลายคนกลัวว่าฆาตกรอาจจะซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก

อมยิ้มของลูกของคุณอาจถูกเจือด้วยยาหรือยาพิษ

ตำนานนี้เกิดขึ้นจริงในช่วงทศวรรษปี 1980 เมื่อมีคนในสหรัฐอเมริกาใส่ไซยาไนด์ในพาราเซตามอลบนชั้นวางของในร้าน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ก็ได้ตั้งทฤษฎีต่อความกลัวต่อขนมวันฮาโลวีนขึ้นเพื่อให้ผู้ปกครองสอนเด็ก ๆ ให้ตระหนักถึงอันตรายจากคนแปลกหน้า และให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวมากขึ้น โดยมีการสัมภาษณ์นักวิชาการเรื่อง ‘Halloween sadism’ เกี่ยวกับตำนานยาเสพติดในลูกกวาดและพบว่าในบางกรณีอาจเกิดขึ้นจริง เพราะเพื่อนบ้านแปลก ๆ มักจะไม่รับผิดชอบ ในกรณีที่มีเด็กคนหนึ่งเสียชีวิต อีกทั้งยังกรณีที่พ่อวางยาลูกชายของตัวเองเพื่อเก็บกรมธรรม์ประกันชีวิต อย่างไรก็ตามทฤษฎีนี้ก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างดี ที่จะส่งผลให้แน่ใจว่าลูก ๆ ของคุณกินเฉพาะอมยิ้มหรือลูกกวาดที่บรรจุในห่อที่ปิดสนิทและยังไม่เปิดเท่านั้น

รอยสักชั่วคราว ก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน

ตามตำนานเมืองนี้ที่มีมาตั้งแต่ปี 1970 เหตุเกิดขึ้นจากพ่อค้าขายยาได้ใส่ LSD ผสมไว้ในหมึกเพ้นท์ตัวหรือรอยสักแบบชั่วคราว เหตุผลที่ฟังขึ้นคือพวกเขากำลังพยายามหาลูกค้าใหม่ โดยหลอกเด็กให้ลองใช้ยา ซึ่งตัวยา LSD นั้น มีส่วนผสมของสตริกนีน (Strychnine) ที่มีพิษร้ายแรง ถึงแม้ว่าจะไม่เคยได้รับการยืนยันว่าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง แต่ก็ยังคงเป็นข่าวลือที่ควรระวัง

เล่นเกมงับผลแอปเปิ้ลใน วันฮาโลวีน อาจถึงตายได้

เกม Apple bobbing เป็นประเพณีวันฮาโลวีนในสมัยก่อน วิธีการเล่นง่าย ๆ โดยเติมน้ำลงในอ่างหรืออ่างขนาดใหญ่แล้วใส่แอปเปิ้ลลงไปในน้ำ เนื่องจากแอปเปิ้ลมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ พวกมันจึงลอยอยู่ที่ผิวน้ำ ผู้เล่นจะพยายามหยิบมันด้วยฟัน ไม่อนุญาตให้ใช้อาวุธ และมักผูกมือไว้ด้านหลังเพื่อป้องกันการโกง แต่ตำนานเรื่องยาพิษในลูกกวาดและมีดโกนในแอปเปิ้ล มันทำให้เกิดความหวาดกลัวว่าแอบเปิ้ลในอ่างน้ำนี้จะมีลูกไหนที่อาบยาพิษรึไม่ ?

คุณจะเรียก Bloody Mary โดยพูดชื่อของเธอสามครั้ง

“เพียงพูดชื่อของเธอสามครั้ง เมื่อคุณจ้องมองเข้าไปในกระจกโดยตรงแล้วเธอก็จะปรากฏขึ้น” คุณอาจเคยลองทำพิธีกรรมอย่างนี้ในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นในวันฮาโลวีนหรือในคืนไหนก็ตาม คุณรอให้ร่างของ Bloody Mary ปรากฏตัวขึ้นมา แต่จากข้อมูลที่รายงานว่า เด็กอายุระหว่าง 9 ถึง 12 ปี มีความหลงใหลในตำนานนี้เป็นพิเศษ เพราะมันทั้งน่าตื่นเต้นแทนและยังคลายความสงสัยอีกด้วย

ตัวตลกนักฆ่า ? ใน วันฮาโลวีน

ตัวตลกเป็นสัญลักษณ์ที่มองทั้งความสนุกสนานและความหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน เนื่องด้วยเหตุมีฆาตกรต่อเนื่องของสหรัฐฯ ‘จอห์น เวย์น กาซี่’ ผู้ซึ่งถูกขนานนามว่า ‘ตัวตลกนักฆ่า’ (Killer clowns) เพราะเขาจะแต่งตัวเป็นตัวตลกในงานอีเว้นท์ต่าง ๆ ของเทศกาลเมือง และได้กลายเป็นว่าได้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น จนทำให้หลายคนอาจจะกลัวและไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เหล่า โจ๊กเกอร์ หรือแม้แต่หนุ่มนักกลที่เป่าลูกโป่งเป็นรูปร่าง ๆ ให้กับคุณ เพราะไม่อาจรู้ได้ว่า คนที่ทำให้เรามีความสุขตรงหน้าจะเป็นฆาตกรแบบจอห์นรึไม่

แก๊งลักพาตัวจะออกปฏิบัติการเต็มกำลังใน วันฮาโลวีน

ในความจริงแล้วเด็ก ๆ ไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะถูกลักพาตัวในเทศกาลฮาโลวีนมากไปกว่าวันอื่น ๆ ของปี แต่มันเกิดขึ้นจริงไปแล้ว และกรณีนี้มักจะได้รับความสนใจจากสื่อเป็นจำนวนมาก เพราะผู้ปกครองต่างก็กลัวว่าเด็ก ๆ ในความดูแลจะถูกลักพาตัวไปในช่วงที่กำลังเล่น ‘หลอกหรือเลี้ยง’ เพราะเราไม่รู้บ้านหลังหนึ่งที่เด็ก ๆ ได้ทำการเคาะประตูเพื่อแลกกับลูกอมเป็นใคร และอาศัยช่วงงานเทศกาลที่มีเหยื่อมาให้เลือกมากมายทำการเลือกเด็กสักคนเพื่อไปฆ่าหรือล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งต่อมาก็ก็มีการรณรงค์และจัดการเกี่ยวกับประเพณีนี้ให้ปลอดภัยมากขึ้นด้วยการเล่นในสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมแบบเปิด และผู้ปกครองก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้กับเด็ก ๆ ได้

ของตกแต่ง วันฮาโลวีน นั้นเป็นศพจริงๆ

ตำนานของตกแต่งวันฮาโลวีนนั้นเป็นศพจริง ๆ นั้นยังคงมีอยู่ ในช่วงเทศกาลแบบนี้ ตามบ้านเรือนของผู้คนจะเต็มไปด้วยการตกแต่งที่ดูสมจริง อลังการ และความน่ากลัวนั้นก็เคยมีเรื่องเล่าว่า ของตกแต่งที่เรียกว่าศพปลอมนั้นคือศพจริง เป็นเหยื่อที่แท้จริงของการฆาตกรรม การฆ่าตัวตาย หรือการเสียชีวิตโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ โดยถึงแม้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะดูเลวร้ายและน่าเศร้า แต่ก็หาได้ยากว่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วการตกแต่งที่เหมือนจริงเหล่านั้นเป็นเพียงการตกแต่งเท่านั้น และทำให้เรื่องเล่ามีคนเอาศพมาตกแต่งบ้านนั้นเป็นแค่เรื่องเล่าต่อ ๆ กันมา

อย่างไรก็ตาม เทศกาลฮาโลวีนเป็นอีกเทศกาลที่เหล่าผู้คนได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศสุดหลอนเพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญของชาวคริสต์และทั่วโลก แต่ในความรื่นเริงนั้นก็อาจจะมีเรื่องราวที่น่ากลัวยิ่งกว่า และนี่คือทั้งตำนานเรื่องเล่าที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในวันฮาโลวีน สามารถติดตามบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ Ghostsfolder