นักท่องเที่ยว

เที่ยวสยอง! รวม 5 คดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวทั่วโลก

หัวข้อน่าสนใจ

ใกล้ถึงสิ้นปีแล้ว ใครหลายคนก็เริ่มที่จะวางแผนการเดินทางเพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อน ให้รางวัลชีวิตกับการใช้ชีวิตมาตลอดทั้งปี แต่รู้หรือไม่ว่า? การที่คุณเป็นนักท่องเที่ยว ต้องเจอกันอะไรที่ไม่คาดคิดบ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนมาเปิดแฟ้มคดีฆาตกรรมทั้ง 5 คดี ที่เหยื่อทุกรายเป็นนักท่องเที่ยวกันค่ะ

ฆาตกรในผ้าเหลือง ฆ่า-หมกถ้ำเมืองกาญฯ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่านักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษ โจแอน มาเชเตอร์ (Joan Macheter) ก่อนพบเธอถูกฆาตกรรม ด้วยฝีมือของพระในวัดแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี อำพรางศพทิ้งภายในถ้ำ เบาะแสสำคัญคือ มีรองเท้าเดินป่า 1 คู่หายจากกระเป๋าเดินทางผู้ตาย

ฆาตกรในผ้าเหลือง ฆ่า-หมกถ้ำเมืองกาญฯ
โจแอน มาเชเตอร์

ในปี 1995 บัณฑิตสาวชาวอังกฤษ “โจแอน มาเชเตอร์” เดินทางมาพักผ่อนในไทย โดยขอทางครอบครัวว่าอยากมาชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เป็นของขวัญหลังจบการศึกษา แต่การเดินทางไกลครั้งนี้ ไม่มีใครรู้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายของเธอ 1 ปีต่อมา ทางครอบครัวเริ่มวิตกกังวลกับการหายตัวไปของเธอในไทย เพราะหลังการติดต่อครั้งสุดท้าย ว่าเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลแห่งหนึ่ง เธอก็หายไป ไม่มีการติดต่อกลับ

หลักฐานในคดี
หลักฐานในคดี

เบาะแสสำคัญกลับอยู่ในกระเป๋าเดินทางของเธอ ภายในพบฟิล์มภาพถ่าย ในการเดินทางเที่ยวป่าเขา เชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน แต่…รองเท้าในกระเป๋าที่เธอนำมา 3 คู่ กลับมีคู่หนึ่งที่เป็นรองเท้าเดินป่าหายไป มีการตั้งข้อสันนิฐานว่าเธดอาจใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนกลับบ้านเกิด เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีลักษณะพื้นที่ที่ต้องใช้รองเท้าเดินป่าและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จากความสงสัยนี้ทำให้พบเบาะแสเพิ่มเติม คือ ในวันที่เธอหายไปนั้นได้เช่าจักรยานปั่นไปท่องเที่ยวในพื้นที่ ตำรวจดำเนินการค้นหาจนไปพบจักรยานของเธอจอดไว้บริเวณปากถ้ำ วัดถ้ำเขาปูน เบื้องต้นได้ค้นหาภายในถ้ำ แต่ไม่พบเธอ จึงทำการสอบพยานในพื้นที่

ฆาตกรในผ้าเหลือง ฆ่า-หมกถ้ำเมืองกาญฯ
ฆาตกรในผ้าเหลือง ฆ่า-หมกถ้ำเมืองกาญฯ

โดยถ้ำดังกล่าวตั้งอยู่ไม่ไกลจากกุฏิของ พระยอดชัด ขณะนั้นวัย 21 ปี เคยมีประวัติกระทำผิดพยายามข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจนติดคุกมาแล้ว สุดท้ายก็ได้มีการค้นพบร่างของเธอบริเวณเหวลึก 50 เมตร ซึ่งชาวบ้านเรียกจุดนี้ว่าถ้ำทิ้งหมา เพราะเวลาสัตว์เลี้ยงเสียชีวิตจะนำมาโยนทิ้งในเหวนี้ หลังทำการสึก อดีตพระยอดชัด ได้ถูกสอบสวน จนรับสารภาพ

2 นักท่องเที่ยวหญิง ดับสยอง ขณะตั้งแคมป์ในโมร็อกโก

วันที่ 19 ธ.ค. 2018 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักท่องเที่ยวหญิง 2 คน คนหนึ่งเป็นชาวเดนมาร์ก อีกคนเป็นชาวนอร์เวย์ ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมที่บริเวณทางเดินขึ้นภูเขาตูบคาล (Toubkal) ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในทวีปแอฟริกาทางตอนเหนือ ของเทือกเขาแอตลาส ในเขตประเทศโมร็อกโก

เหยื่อทั้งสองถูกพบในสภาพโดนมีดฟันที่บริเวณลำคอ จนเกือบขาดทั้งคู่ ล่าสุด สามารถจับกุมชายต้องสงสัยชาวโมร็อกโกได้แล้ว 1 คน โดยตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุที่เป็นนกต่ออีก 1 คน ซึ่งขณะนี้กำลังหลบหนีอยู่ โดยทางกระทรวงมหาดไทยโมร็อกโก ยังแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวหญิงเคราะห์ร้าย 2 คนนี้ และระบุให้เป็นคดีฆาตกรรม เพียงแต่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม

2 นักท่องเที่ยวหญิง ดับสยอง ขณะตั้งแคมป์ในโมร็อกโก
2 นักท่องเที่ยวหญิง ดับสยอง ขณะตั้งแคมป์ในโมร็อกโก

ฆ่าโหดนักท่องเที่ยวสาว ระหว่างทางขึ้นจุดชมวิวปราสาทชื่อดังในเยอรมนี

ในช่วงบ่ายของวันที่ 14 มิ.ย. 2566 ในพื้นที่ใกล้กับสะพานมาเรียนบรู๊ค (Marienbrucke) ซึ่งเป็นสะพานสำหรับเดินเท้ายอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นจุดที่มองเห็นวิวที่สวยงามของปราสาทนอยชวานสไตน์ ต้นแบบของ “ปราสาทเจ้าหญิงนิทรา” ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์

ข้อมูลจากแถลงการณ์ของตำรวจรัฐบาวาเรีย (Bavaria) ระบุว่าเหยื่อเป็นนักท่องเที่ยวหญิง 2 ราย อายุ 21 และ 22 ปี พบกับชายชาวอเมริกันวัย 30 ปี ระหว่างทางเดินขึ้นเขาทางด้านตะวันออกของสะพานมาเรียนบรู๊ค ทั้งสองฝ่ายไม่ได้รู้จักกันมาก่อน โดยชายหนุ่มได้หลอกล่อให้หญิงสาวทั้งสอง อ้างว่าจะพาไปตามเส้นทางที่นำไปสู่จุดชมวิวลับ แต่ระหว่างทาง ชายหนุ่มกลับลงมือทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวสาววัย 21 ปี เมื่อหญิงสาวอีกคนที่มาด้วยกันพยายามขัดขวาง เขาก็บีบคอเธอและผลักร่างของเธอลงไปตามทางที่ลาดชัน จากนั้นฝ่ายชายก็พยายามจะข่มขืนหญิงสาวคนแรก ก่อนที่จะผลักเธอลงไปตามทางลาดชันเช่นกัน ซึ่งหญิงสาวทั้งสองคนตกลงมาจากที่สูง คิดเป็นระยะทางเกือบ 50 เมตร

ฆ่าโหดนักท่องเที่ยวสาว ระหว่างทางขึ้นจุดชมวิวปราสาทชื่อดังในเยอรมนี

ทีมกู้ภัยภูเขาจากเมืองใกล้เคียง สามารถค้นหาจนเจอหญิงสาวทั้งสองและรีบเข้าช่วยเหลือ หญิงสาววัย 22 ปี ยังคงมีสติ แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ ขณะที่หญิงสาวอีกคนที่ตกเป็นเหยื่อการล่วงละเมิดทางเพศ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลทางอากาศ แต่เธอก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา

คนร้ายซึ่งโดนจับกุมและส่งขึ้นศาลที่เมืองเคมพ์เทิน (Kempte) ซึ่งอยู่ใกล้กับ (Füssen) ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2566 โดยศาลได้สั่งให้จำคุกเขาไว้ก่อนเพื่อรอการตัดสินโทษ ระหว่างนี้เขาจะต้องโดนสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่สืบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม, ล่วงละเมิดทางเพศ และพยายามฆ่า

นักท่องเที่ยวชายนิรนาม ผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม

ในปี 2019 บนทางหลวงทางตอนเหนือของบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ห่างจากลิอาร์ดฮอตสปริงส์ 20 กม. พบร่างไร้วิญญาณของ ลูคัส ฟาวเลอร์ (Lucas Fowler) วัย 23 ปี ชาวเมืองออสเตรเลีย และชินนา ดีส (Chynna Deese) วัย 24 ปี จากเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา ด้วยสภาพศพถูกยิงเสียชีวิต

นักท่องเที่ยวชายนิรนาม ผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม
นักท่องเที่ยวชายนิรนาม ผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม

ผู้ต้องสงสัยคือ แคม (Kam McLeod) วัย 19 ปี และไบรเออร์ (Bryer Schmegelsky) วัย 18 ปี เพราะพบรถของพวกเขาซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบลูคัสและดีส ประมาณ 500 กม. ใกล้ทะเลสาบเดส รัฐบริติชโคลัมเบีย ด้วยสภาพเผาทั้งคัน โดยมีการสันนิฐานว่าได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่บอกครอบครัวว่าพวกเขากำลังจะไปหางานทำที่อัลเบอร์ตา นอกจากนี้ยังพบศพของชายคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อและยังไม่สามารถระบุหาตัวตนได้ ถูกพบอยู่ห่างจากรถที่ถูกทิ้งไปประมาณ 2 กม. ตำรวจยังไม่สรุปว่าเชื่อมโยงกับสองหนุ่มนักท่องเที่ยวที่หายไปหรือไม่

พบรถของพวกเขาซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบลูคัสและดีส

มีพยานแจ้งว่าพบเห็นพวกเขาครั้งสุดท้ายในรัฐซัสแคตเชวัน (Saskatchewan) โดยขับรถ Toyota RAV4 รุ่นปี 2011 สีเทา  me.shเจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาวัยรุ่นที่หลบหนีทั่วแคนาดา แต่ท้ายที่สุดกลับศพของพวกเขาใกล้แม่น้ำในแมนิโทบา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย และได้ทิ้งข้อความ “เจตจำนงและพินัยกรรมสุดท้าย”

อุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม? สาวชาวรัสเซียในอินเดีย

ในวันที่  8 พฤษภาคม 2009 พบร่างผู้เสียชีวิตบนรางรถไฟในรัฐกัว ประเทศอินเดีย หลังจากตรวจสอบแล้วยืนยันว่าคือ เอเลน่า ซัคโนวา (Elena Sukhanova) นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย วัย 19 ปี โดยมีหลักฐานที่อยู่สุดท้ายของเธอผ่านกล้องวงจรปิด กำลังเข้าไปในโรงแรมซันซิตี้พร้อมกับชายชาวรัสเซีย วัย 38 ปี

ถึงแม้ว่าเธอได้ถูกกำหนดให้บินออกนอกประเทศในวันที่ 3 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมซันซิตี้รีสอร์ทได้บอกว่าเธอหายตัวไปเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พวกเขาจึงยื่นเรื่องร้องเรียนกับตำรวจท้องที่รัสเซีย ก่อนที่เธอจะมาปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม และบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเธอต้องการขยายเวลาการอยู่ต่อ แต่ต่อมาเธอก็กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนจะถูกพบเสียชีวิตบนรางรถไฟ

เอเลน่า ซัคโนวา (Elena Sukhanova) นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย วัย 19 ปี
เอเลน่า ซัคโนวา (Elena Sukhanova) นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย วัย 19 ปี

“เธอให้การกับตำรวจว่าเธอรักเมืองกัว และมันก็เป็นสถานที่ที่เจ๋งมาก เธอยังบอกเป็นนัยว่าเธอหลงรักใครสักคนที่นี่” เดบาชิช จันดรา ผู้จัดการของโรงแรมซันซิตี้รีสอร์ทได้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้

ทางการตำรวจเมืองกัวได้ปฏิเสธที่จะพูดข้อสรุปตามหลักฐานที่ได้มา แต่อ้างว่าการเสียชีวิตของเธอเป็นอุบัติเหตุ ว่ากันว่าเธอขึ้นรถไฟไปมุมไบแต่เกิดพลาดทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการแถลงการแบบนี้เป็นการทิ้งคำถามที่ยังไม่ได้ตอบไว้ให้กับใครหลายคนว่า ถ้าเอเลนาเดินทางไปมุมไบ ทำไมกระเป๋าเดินทางของเธอถึงอยู่ในโรงแรม? ทำไมไม่มีใครแจ้งตำรวจว่าเธอล้มเลย? ผู้ชายที่เธอพบเห็นครั้งสุดท้ายคือใคร? และ ผู้ชายที่เธอหลงรักคือใคร?

ผู้ชายที่เธอพบเห็นครั้งสุดท้ายคือใคร?

ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรปุได้ว่าแท้ที่จริงว่ามันเป็นอุบัติเหตุหรือคือการฆาตกรรมกันแน่

.

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวทั่วโลก บอกได้เลยว่า แม้แต่ในประเทศไทยของเราเองก็ยังมีอัตราของคดีฆาตกรรมชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เราไม่รู้เลยว่าการเดินทางของเรานั้นจะเป็นการได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือต้องเผชิยหน้ากับประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งสุดท้ายในชีวิต สามารถติดตามความน่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ แฟ้มลับเรื่องสยองขวัญที่คุณอาจไม่เคยรู้ (ghostsfolder.com)