รวม 8 สถานที่สุดหลอน ทั่วโลก คนชอบเรื่องผียังต้องกลัว

ในโลกนี้มีสถานที่มากมายที่แฝงไปด้วยตำนานและเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีและวิญญาณ บางสถานที่มีประวัติศาสตร์ที่น่ากลัว บางแห่งกลับเต็มไปด้วยความลึกลับและบรรยากาศที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกขนลุก ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบเรื่องผีหรือเป็นคนที่อยากทดสอบความกล้าของตัวเอง สถานที่สุดหลอนทั่วโลกนี้จะทำให้คุณต้องตั้งคำถามกับสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ ด้วยประสบการณ์และเรื่องเล่าจากผู้ที่เคยไปสัมผัสมาแล้ว เราได้รวบรวม 8 สถานที่สุดหลอน ทั่วโลก จะมีที่ไหนบ้างที่เรายังไม่เคยนำมาฝากเพื่อนๆ ตามไปดูกันเลย สถานที่สุดหลอน : เกาะฮาชิมะ (Hashima Island) ประเทศญี่ปุ่น ฮาชิมะ (Hashima Island) หรือเกาะร้างผีสิง ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาซากิของประเทศญี่ปุ่น เดิมทีเคยเป็นเหมืองถ่านหินมาก่อน และเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีความเชื่อกันว่าบนเกาะแห่งนี้เคยมีผู้เสียชีวิตจากหลายๆเหตุการณ์รวมแล้วก็เกือบหมื่นคน อีกทั้งยังมีเรื่องลี้ลับที่หลายคนอาจจะไม่รู้นั่นก็คือที่เกาะแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายหนังเรื่อง Battle Royal ซึ่งคณะถ่ายทำก็มีข่าวลือของทีมงานที่ไปถ่ายหนังเรื่องนี้ว่ามักจะเจอคนปริศนามายืนดูตอนถ่ายทำ ซึ่งปกติที่นี่ก็ก็ไม่มีคนอาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะมีแค่ทีมงาน แต่ว่าก็ยังเห็นคนมายืนดูตอนถ่ายทำหนัง ยิ่งเป็นช่วงตอนกลางคืนนี้จะเห็นคนเยอะมาอยู่ตามพุ่มไม้บ้าง อยู่ตามจุดต่างๆกันบ้าง อีกทั้งยังเห็นว่ามีคนยืนอยู่บนตึกสูงๆที่เป็นตึกร้างแล้วมองลงมา ซึ่งถ้าเป็นคนจะไม่สามารถไปยืนอยู่ตรงนั้นได้เลย เนื่องจากบางตึกก็เป็นตึกที่ไม่มีบันไดหรือเป็นตึกถล่ม มันไม่มีทางที่จะขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ ก็เลยเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่น่าตกใจในกองถ่ายและเล่าสู่กันฟังต่อๆ มานั่นเอง สถานที่สุดหลอน : รถไฟใต้ดินซินซินเนติ (Cincinnati) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซินซินเนติ (Cincinnati) รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในยุคช่วงศตวรรษที่ 19 รัฐบาลได้สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะทำเป็นรถไฟใต้ดิน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต แต่ปรากฏว่าทำไปทำมาเงินทุนดันหมดเสียก่อนและช่วงนั้นก็อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของหลายๆ […]
เรื่องราวหลอนๆ อาถรรพณ์ ‘วัดกระซ้าย’ ใครคิดลบหลู่ ระวังเจอดี!

เรื่องราวหลอนและเฮี้ยนของ วัดกระซ้าย ตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา วัดโบราณแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 และเป็นสถานที่บรรจุอัฐิของสมเด็จพระเอกาทศรถ วัดแห่งนี้ถูกยกย่องว่าเป็นวัดที่มีความเฮี้ยนที่สุดในประเทศไทย มีรายงานว่ามีคนจบชีวิตด้วยการผูกคอตายที่นี่แล้วถึง 12 ศพ บางคนเชื่อว่าเหมือนมีการต้องตัวตายตัวแทน และเคยมีเหตุการณ์ที่คนขับรถตู้มาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาผูกคอตายที่วัดแห่งนี้อีกด้วย ทำให้กลายเป็นปริศนาที่ไม่มีคำตอบชัดเจน ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า ส่วนใหญ่คนที่จบชีวิตที่วัดร้างแห่งนี้มักจะเป็นคนที่มาคิดลบหลู่ หรือมาขโมยของและขุดหาของโบราณ ซึ่งมักจะมีอันเป็นไป หรือเสียสติแทบทุกคน นอกจากนี้ยังมีคนเล่าว่าแม้แต่พระที่มาปักกลดในวัดนี้ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ ว่ากันว่าแรงของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งที่มองไม่เห็นในวัดนั้นมีมาก จนเป็นที่กล่าวขานในตำนานความเฮี้ยนของ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” ที่มีพระเครื่องโบราณอย่างพระเจ้าสิบชาติซึ่งเคยฝังอยู่ที่นี่ หากใครครอบครองเชื่อกันว่าจะมีความสามารถทนทานไม่กลัวกระสุน แต่ผู้ที่นำไปครอบครองมักจะมีอาการเสียสติโดยไม่มีสาเหตุ จนต้องรีบเอามาคืน ในเหตุการณ์เมื่อปี 2563 หนุ่มวัย 27 ปีจากพื้นที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตใต้ต้นสะแกบริเวณหลังเจดีย์ วัดกระซ้าย เป็นรายที่ 12 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายในกระเป๋ากางเกงด้านซ้าย ซึ่งยังเปิดเพลงอยู่ ทำให้ทุกคนตกตะลึง ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการตาย และเชื่อว่าเกิดจากปัญหาส่วนตัว แต่ชาวบ้านต่างเชื่อว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการที่หนุ่มรายนี้มาพูดท้าทาย ลบหลู่วัด โดยกล่าวว่า “เดี๋ยวจะมาเผาให้หมดเลยวัดนี้” ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องจบชีวิตลงที่นี่
ตำนาน กระสือ ผีถอดหัวลอยได้ จากทั่วเอเชีย ที่ไม่ได้มีแค่ในไทย

หนึ่งในเรื่องเล่าพื้นบ้านที่คนไทยคุ้นเคยกันดีเกี่ยวกับผีที่สามารถถอดหัวลอยไปพร้อมกับตับไตไส้พุงออกหากินยามค่ำคืน อย่าง “กระสือ” ซึ่งบ้านเราก็มีการนำมาทำเป็นหนังและละครหลายเวอร์ชั่นแล้ว ที่น่าทึ่งคือ ตำนานกระสือไม่ได้มีแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังพบได้ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย โดยแต่ละประเทศอาจมีชื่อเรียก หน้าตา และอิทธิฤทธิ์ที่ต่างกันไปบ้าง ลองมาดูกันเลยว่ามีประเทศไหนบ้าง! 1. ประเทศลาว: “กะสือ” (ກະສື) เริ่มจากเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่เรียกคล้ายกับไทยสุด ๆ กะสือของลาวนั้นแทบจะเป็นฝาแฝดของกระสือไทย ต่างกันตรงที่กะสือลาวจะมีเขี้ยวยาวไว้สำหรับดูดเลือด เพิ่มความน่ากลัวไปอีกขั้น 2. ประเทศเวียดนาม: “มาไล” (Ma Lai) มาไลของเวียดนามมีความคล้ายกับกระสือไทย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นสาวสวยแทนที่จะเป็นหญิงชรา จุดสังเกตคือตรงคอจะมีรอยแดงสามจุด ทำให้ต้องสวมผ้าพันคอไว้ตลอดเพื่อปกปิด 3. ประเทศกัมพูชา: “เอิบ” หรือ “อ๊าบ” (អាប) ในกัมพูชาก็มีผีกระสือเช่นกัน และก็นิยมทำเป็นภาพยนตร์เช่นเดียวกับไทย ลักษณะของผีเอิบจะคล้ายกับกระสือไทย มีหัวกับไส้และเรืองแสงสีเขียวเช่นกัน 4. ประเทศมาเลเซีย: “ฮันตูปีนังกาลัง” หรือ “ปินังกาลัน” (Penanggalan) กระสือมาเลเซียมีความต่างจากประเทศอื่น ๆ ตรงที่เรืองแสงเป็นสีเหลือง แถมดุร้ายมาก ชอบกินเด็กแรกเกิดเป็นพิเศษ ถึงกับใช้ลิ้นแหวกช่องไม้เพื่อดูดเลือดจากแม่ที่กำลังคลอด จุดอ่อนก็ยังกลัวต้นไม้มีหนามเกี่ยวไส้เหมือนเดิม 5. ประเทศอินโดนีเซีย: “เล […]
ส่อง 5 ตำนาน สิ่งมีชีวิตลี้ลับ ที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้

โลกนี้เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและตำนานเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตลี้ลับที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ บางครั้งสิ่งเหล่านี้ถูกพรรณนาในเรื่องเล่าของชาวบ้าน บ้างก็ปรากฏในหนังสือและภาพยนตร์ ตำนานเหล่านี้ทำให้เราหลงใหลและสงสัยว่าจริง ๆ แล้วพวกมันมีตัวตนหรือไม่ มาสำรวจกันว่า 5 ตำนาน สิ่งมีชีวิตลี้ลับ ที่เราไม่สามารถหาคำตอบได้ จะมีอะไรบ้าง สิ่งมีชีวิตลี้ลับ : Nessie, Loch Ness Monster ในทะเลสาบลึกที่เรียกว่า ล็อกเนส (Loch Ness) ซึ่งตั้งอยู่ในสก็อตแลนด์ มีตำนานเล่าขานถึงสิ่งที่เรียกว่า “เนสซี” (Nessie) หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อกเนสส์ เป็นตำนานที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก โดยมีรายงานการพบเห็นเนสซีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 จนถึงปัจจุบัน ตำนานของเนสซีเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 565 เมื่อเซนต์โคลัมบา (Saint Columba) นักบุญชาวไอริชได้อ้างว่าเห็นสัตว์ยักษ์ในแม่น้ำเนส ในบันทึกของเขาเขียนถึงเหตุการณ์ที่สัตว์นั้นโจมตีชายคนหนึ่ง แต่เซนต์โคลัมบาได้สวดมนต์และไล่สัตว์นั้นไป ตั้งแต่นั้นมาเรื่องราวของมอนสเตอร์ล็อกเนสก็แพร่หลายไปทั่ว จนกระทั่งเมื่อปี 1933 มีรายงานเกี่ยวกับเนสซีที่ดูน่าเชื่อถือมากที่สุดจากภาพถ่ายที่ถ่าย โดยฮิวจ์ เกรย์ (Hugh Gray) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เหมือนหัวของสัตว์ยักษ์ยื่นขึ้นมาจากน้ำ ต่อมาในปี 1934 ภาพถ่ายของ โรเบิร์ต เคนเนธ […]
10 หนังผี น่าติดตาม ที่ดูแล้วขนลุกสุดๆ ห้ามดูก่อนนอน อย่าหาว่าไม่เตือน!

ถ้าคุณเป็นคนรักหนังผีที่ต้องการสัมผัสความสยองจนขนลุกแทบจะไม่กล้าดูต่อ ต้องห้ามพลาด! หนังทั้ง 10 หนังผี น่าติดตาม เรื่องนี้ขึ้นชื่อเรื่องความหลอน ที่จะทำให้คุณแทบไม่กล้าอยู่คนเดียวตอนกลางคืน และอย่าหาว่าไม่เตือน… ห้ามดูคนเดียวก่อนนอน! จะมีเรื่องไหนบ้างตามไปดูพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ 1. The Conjuring (2013) หนึ่งในหนังผี น่าติดตามที่หลอนขึ้นหิ้ง นำเสนอเรื่องจริงของสองนักปราบผีชื่อดัง เอ็ดและลอเรน วอร์เรน ที่เข้ามาช่วยครอบครัวที่ถูกวิญญาณร้ายหลอกหลอนในบ้านหลังเฮี้ยน ภาพและเสียงในหนังทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ถึงพลังอันมืดมนและเต็มไปด้วยความกดดัน ถือเป็นหนังผีที่ต้องดูสำหรับคนชอบเรื่องจริงสุดหลอน! 2. Hereditary (2018) หนังผี น่าติดตาม เกี่ยวกับจิตวิทยาที่เล่าเรื่องครอบครัวหนึ่งที่เผชิญหน้ากับความลับดำมืดและความสยองขวัญที่ค่อยๆ เปิดเผยหลังการเสียชีวิตของยาย เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากสะพรึงที่ขุดลึกไปถึงจิตใจของคนดู ความอึดอัดและเนื้อหาที่ล้ำลึกทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นและน่ากลัวจนวางตาไม่ลง 3. The Ring (2002) ภาพยนตร์ผีญี่ปุ่นระดับตำนาน สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องของวิดีโอต้องคำสาปที่ใครก็ตามที่ได้ดู จะต้องพบจุดจบใน 7 วัน พล็อตนี้ทำให้ The Ring กลายเป็นตำนานของหนังสยองขวัญญี่ปุ่น นับว่าเป็นหนังที่ดูจบแล้วต้องหลอนกับทุกเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น 4. Insidious (2010) หนังผี น่าติดตาม เป็นเรื่องของครอบครัวที่ลูกชายเข้าไปติดอยู่ในมิติวิญญาณที่เรียกว่า […]
เปิด 5 รายชื่อตัวละคร นักฆ่าสุดโหด ที่โหดที่สุดในโลกภาพยนตร์ (Part 2)

นักฆ่าสุดโหด ในโลกของภาพยนตร์ การสร้างตัวละครนักฆ่าที่มีความโหดเหี้ยมและน่ากลัวนั้นเป็นการท้าทายทางศิลปะที่ผู้กำกับและนักเขียนบทหลายคนพยายามที่จะสร้างสรรค์ออกมาให้ดูสมจริงและน่าสะพรึงกลัว ตัวละครเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีความโหดเหี้ยมในทางกายภาพ แต่ยังมีจิตวิญญาณที่เยือกเย็นและปราศจากความปรานี ทำให้พวกเขากลายเป็นตัวละครที่คนดูจำได้ไม่ลืม ใน Part 2 นี้ เราจะมาสำรวจอีก 5 รายชื่อตัวละครที่ถือว่าเป็นนักฆ่าสุดโหด ฆาตกรที่โหดที่สุดในโลกภาพยนตร์ ที่ยังคงตราตรึงในความทรงจำของผู้ชมทั่วโลก casinovega Pinhead นักฆ่าสุดโหด เปิดที่คนแรกในพาร์ทที่สองกับ พินเฮด (Pinhead) หนึ่งในตัวละครสยองขวัญของภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิกอย่าง Hellraiser ในปี 1987 มันเป็นผู้นำกองทัพทูตนรกสุดโหดหรือที่เรียกว่าซีโนไบท์ (Cenobites) ซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากกล่องทรงรูบิคปริศนา เพื่อออกมาไล่ล่าผู้คนที่เปิดกล่องนั้นออกมา ความน่าสะพรึงกลัวของพินเฮดหรือปีศาจหัวตะปูนั้นเริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอกอันสุดสยอง ทั้งผิวที่ขาวซีดกับศีรษะโล้นเกลี้ยงแต่เต็มไปด้วยตะปูนับร้อยเล่มทิ่มแทงเรียงรายเป็นลายตารางไปทั่วทั้งศีรษะ ต้นกำเนิดของมันนั้นเดิมทีเขาเป็นนายทหารผู้สิ้นหวังในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งที่ได้รับกล่องรูบิคมาและเปิดมันออกด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนโดนสังหารตายอย่างทารุณกลายมาเป็นพินเฮดผู้นำของเหล่าซีโนไบต์ ซึ่งผู้ที่สรรค์สร้างเหล่าปีศาจซีโนไบท์สุดอำมหิตนี้ขึ้นมาก็คือ ไคลฟ์ บาร์เกอร์ (Clive Barker) นักเขียนชาวอังกฤษ โดยดัดแปลงบทภาพยนตร์มาจากนิยายสยองขวัญของตัวเองเรื่อง The Hellbound Heart ออกมาเป็นภาพยนตร์เรื่องเฮลไรเซอร์พร้อมกับขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับเองเขาจึงสามารถถ่ายทอดตัวตนและดีไซน์ความสยดสยองของเหล่าอสูรกายจากนรกในภาพแรกถอยออกมาหลอกหลอนผู้คนได้อย่างน่าสะพรึงกลัวและเป็นที่จดจำแก่คนทั่วโลกจนสามารถกวาดรายได้ไปมากถึง 14 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างประมาณ หนึ่งล้านเหรียญ และได้มีการสร้างภาพยนตร์ภาคต่อตามออกมาอีกถึง 9 ภาค นักฆ่าสุดโหด แห่งความฝัน Freddy […]
คืนปล่อยผี ตำนานขบวนร้อยอสูร เฮียกคิ ยาเกียว แห่งเกียวโต

ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เรื่องเล่าเกี่ยวกับภูตผีและอสูรมีความสำคัญและมีความลึกซึ้งมาก ตำนานหนึ่งที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ “เฮียกคิ ยาเกียว” หรือ “ขบวนร้อยอสูร” ซึ่งเป็นขบวนแห่ของเหล่าภูตผีวิญญาณที่เดินทางไปในยามค่ำคืน ว่ากันว่าตำนานขบวนร้อยอสูร จะปรากฏขึ้นในคืนที่ท้องฟ้ามืดสนิท ผู้คนเชื่อกันว่าหากมนุษย์คนใดได้พบเจอกับขบวนร้อยอสูรโดยบังเอิญจะต้องโชคร้ายอย่างที่สุด หรือนำพาตัวเองไปสู่ความตายได้ ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องเล่าเก่าแก่ที่ถูกบันทึกไว้ในยุคเฮอันด้วย (ช่วงปี 794-1192) ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวบ้านต่างพากันห้ามลูกหลานออกจากบ้านตอนกลางคืนกันเลยทีเดียว ว่าแต่จะน่าสนใจขนาดไหน Ghostsfolder จะพาไปทำความรู้จักกับ ตำนานขบวนร้อยอสูร เฮียกคิ ยาเกียว แห่งเกียวโต กันค่ะ casinovega บาคาร่าออนไลน์ เล่นยังไง mgs888 mgs888.vip juth88 โปรโมชั่นเครดิตฟรี สมัคร juth88 faw99 เครดิตฟรี ที่มาของตำนานเฮียกคิ ยาเกียว ตำนานตำนานขบวนร้อยอสูร มีที่มาจากหลากหลายแหล่งเชื่อกันว่าเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยเฮอันในศตวรรษที่ 8-12 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมจีนและการบูชาเทพต่าง ๆ มีการกล่าวถึงการเดินขบวนของภูตผีที่ออกมาในยามค่ำคืนเหล่านี้จะเดินเป็นขบวนอย่างยิ่งใหญ่ผ่านเมืองต่างๆ ในเกียวโต นำพาความหวาดกลัวให้กับผู้ที่พบเห็น ตำนานนี้ได้รับการถ่ายทอดผ่านทั้งงานวรรณกรรม ศิลปะ ภาพวาดโบราณ และการแสดงศิลปะพื้นบ้าน บ่อยครั้งที่ตำนานของเฮียกคิ ถูกผนวกเข้ากับความเชื่อพื้นบ้านเรื่องภูตผีวิญญาณ และทำให้เกิดพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อป้องกันและคุ้มครองผู้คนจากอันตรายของเหล่าอสูร ลักษณะของขบวนร้อยอสูร […]
รวม 5 หนังสยองขวัญ ที่มีความหมายแอบแฝงซ่อนคนดูอยู่

หนังสยองขวัญ เป็นหนังประเภทหนึ่งที่มีเสน่ห์ด้วยตัวของมันเอง ถึงแม้ว่าจะเคยมีคนตั้งคำถามว่าดูหนังแนวสยองขวัญ ดูหนังเลือดสาด ดูหนังผีที่มีจัมพ์สแกร์เยอะๆ คือเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่า ซึ่งต้องเลยบอกว่าหนังแนวฆkตกรรม สยองขวัญ ไล่ฆ่าจนเลือดสาด เป็นงานภาพที่ค่อนข้างโหดร้าย แต่ในอีกมุมมองมันกลับสวยงามให้ความเป็นศิลปะเหมือนกัน ซึ่งมีผลวิจัยออกมาบอกว่ามันก็ไม่ได้ผิดปกติไปจากคนทั่วไปที่ไม่ชอบดูหนังแนวนี้ เรียกได้ว่าหนังแนวสยองขวัญหรือว่าหนังฆาตกรรมมันก็มีเสน่ห์ของมันนั่นเอง เราเลยอยากจะพาทุกคนมาดู 5 หนังแนวสยองขวัญที่มีความหมายแอบแฝงซ่อนคนดูอยู่ จะมีเรื่องไหนบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ หนังสยองขวัญ : Candyman (1992) เริ่มกันที่แคนดี้แมนหนึ่งในตัวละครจากเรื่อง Candyman (1992) เขาคือชายผิวคล้ำ ตัวสูงใหญ่ ถือตะขอหลายแบบ ซึ่งตัวหนังครับเล่าเรื่องของนักข่าวสายสืบสวนคนหนึ่งชื่อว่าเฮเลนที่กำลังตามสืบเรื่องของแคนดี้แมน โดยแคนดี้แมนนคือวิญญาณของศิลปินชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกฆาตกรรมเพราะไปมีความสัมพันธ์กับลูกสาวคนรวยคนหนึ่งที่เป็นคนผิวขาว และวิธีการปรากฏตัวของมันง่ายๆ เพียงเรียกชื่อเขาครบ 5 ครั้ง เขาจะปรากฏตัวออกมา โดยลักษณะภายนอกมันจะปรากฎออกมาพร้อมกับฝูงผึ้ง ว่ากันว่าเจ้าแคนดี้แมนเป็นตัวแทนสัญลักษณ์ของความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานที่ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันต้องเผชิญในอดีตนี่คือสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหนังเรื่องนี้ และสิ่งหนึ่งที่หนังได้สื่อมันชัดเจนมากยิ่งขึ้นก็คือตัวละครเฮเลนที่ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนทั่วไปซึ่งมองว่าเหตุการณ์ในอดีตของแคนดี้แมนเป็นแค่เรื่องแต่งมากกว่าความเป็นจริงครับ เรียกง่ายๆ ว่าเฮเลนคือมุมมองของบุคคลทั่วไปที่มองข้ามความสำคัญของความโหดร้ายในอดีตที่เกิดขึ้นกับเรื่องของสีผิวมีผลต่อความคิดของคนในสังคมสมัยนั้น ซึ่งทุกคนมักจะมองที่ปลายเหตุว่าแคนดี้แมนคืออะไร แต่ไม่มีใครมองอย่างลึกซึ้งเลยว่าก่อนที่เขาจะมาเป็นแบบนี้เขาไปเผชิญอะไรมาบ้างซึ่งมองแค่ปลายทางว่ามันคือความรุนแรงนั่นเอง Dawn of the Dead (1978) มาต่อกันที่ Dawn of the Dead (1978) อาจจะเป็นหนังซอมบี้ที่คนรู้จักดีที่สุดตลอดกาลเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยหนังเรื่องนี้กำกับโดยจอร์จ […]
รวม 5 หนังแนวสยองขวัญ ที่มีความหมายแอบแฝงซ่อนคนดูอยู่ (part2)

หนังแนวสยองขวัญ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับผี ล้วนแล้วเกิดจากตัวผู้กำกับหรือคนเขียนบทต้องการที่จะแทรกอะไรบางอย่างลงไปในหนังไว้เพื่อให้เรารู้สึกมันมีปัญหาแบบนี้อยู่ในสังคม ซึ่งอาจจะไม่เคยหยิบยกมาพูดถึงแบบตรงๆ หนังก็เลยกลายเป็นกระบอกเสียงกระบอกหนึ่งที่ถ่ายทอดความรู้สึกและเรื่องราวของปัญหาเหล่านี้ให้ผู้ชมอย่างเราได้รับรู้และรู้สึกกับมัน ทำให้คอนเทนต์ในวันนี้ของเราจะต่อจากบทความก่อนหน้านี้ที่แล้วเราได้เขียนเกี่ยวกับหนังผีหรือหนังสยองขวัญที่มีความหมายหรือนัยยะบางอย่างซ่อนอยู่กับ 5 หนังสยองขวัญที่มีความหมายซ่อนอยู่ในทิศทางของบริบททางสังคม มาดูกันว่าผู้กำกับหนังเหล่านี้เขากำลังแทรกเรื่องราวและประเด็นของเขายังไงบ้าง หนังสยองขวัญ 5 เรื่อง ที่มีความหมายแอบแฝงซ่อนคนดูอยู่ Christine (1983) เริ่มกันที่ Christine (1983) ที่ตัวหนังได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า อาร์นี่ (Arnie) เป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองและก็ได้ไปตกหลุมรัก Plymouth Fury 1958 รถคลาสสิคคันหนึ่งในอู่รถเก่า ก่อนจะซื้อมาและซ่อมแซมให้ใหม่เอี่ยม แต่เขากลับพบว่ารถคันนี้มีความคิดเป็นของตัวเอง ซึ่งรถคันนี้เองภายในหนังมันเหมือนมีแนวโน้มที่จะพยายามจะฆ่าทุกคนที่จะเข้ามาขวางทางความรักระหว่างอาร์นี่กับรถคันนี้ โดยสิ่งที่หนังเรื่องนี้สอดแทรกคือเขากำลังบอกว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกตัวเองได้เพื่อให้ตัวเองเข้ากับผู้อื่นได้โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่มักจะมีความพยายามในการเข้าหาคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูเท่หรือดูดี ซึ่งหลายๆ ครั้งมันก็นำไปสู่การทำลายตัวเองในที่สุดได้เช่นกัน หนังแนวสยองขวัญ : The Lost Boys (1987) The Lost Boys (1987) เป็นหนังที่เล่าถึงความแปลกแยกของวัยรุ่นที่ได้รวบรวมแก๊งแวมไพร์ที่ใช้ชีวิตแบบเมามันส์ โดยหนังเรื่องนี้ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากหนังแวมไพร์ในยุคก่อน แถมยังเปลี่ยนภาพลักษณ์แวมไพร์ในช่วงยุคนั้นประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของคนแก่ ตัวสูงโปร่ง ใส่ชุดดำคลุมผ้าเหมือนค้างคาว แต่ว่าเรื่องนี้เขาเปลี่ยนแวมไพร์ให้กลายเป็นหนุ่มสาวที่เซ็กซี่แทน ทำให้หนังแวมไพร์ในยุคต่อมากลายเป็นแวมไพร์ที่เป็นคนปกติแต่เล่นกับความผิวขาวแทนและเรื่องของแววตาที่มันดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งผู้กำกับได้อธิบายเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ว่ามันเกี่ยวข้องกับความกลัวของคนเราที่เรามีต่อคนที่อยู่นอกกระแสสังคม โดยเอาความกลัวมาแสดงออกมาในรูปแบบของแวมไพร์ที่ต่อต้านการอนุรักษ์นิยม ที่ซึ่งเป็นระบบที่กำหนดบริบทสังคมในช่วงยุค 1980 ทั้งในด้านแฟชั่นและโดยเฉพาะกับเรื่องทางเพศ […]
5 เหตุการณ์แปลกประหลาด ที่สุดในโลกของประวัติศาสตร์

ในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดและลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์โลก ตั้งแต่การหายตัวไปอย่างไร้คำอธิบาย ไปจนถึงเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่ยากจะหาคำตอบ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ได้สร้างความกังวลและตรึงใจผู้คนมานานหลายศตวรรษ เราเลยจะพาไปเจาะลึกเรื่องราวเหล่านั้นกับ 5 เหตุการณ์แปลกประหลาด ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก จะมีเรื่องไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย casinovega บาคาร่าออนไลน์ เล่นยังไง mgs888 mgs888.vip juth88 โปรโมชั่นเครดิตฟรี สมัคร juth88 faw99 เครดิตฟรี The Lost Colony of Roanoke เหตุการณ์แปลกประหลาด แรกของเราจะไปกันที่ความลึกลับของเกาะโรอาโนคที่ทำให้นักประวัติศาสตร์งงงวยมานานหลายศตวรรษกับ อาณานิคมที่หายไปของโรอาโนค (The Lost Colony of Roanoke) เกาะแถบอเมริกาซึ่งถือเป็นอาณานิคมแห่งแรกของประเทศอังกฤษ มีทั้งประชาชนผู้หญิงผู้ชายเด็กและคนทั่วไป รวมไปถึงข้าราชการชั้นสูงอย่าง วอลเตอร์ ราลี (Walter Raleigh) ผู้ที่ก่อตั้งอาณานิคมนี้ขึ้นในปี 1587 แต่เนื่องจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันในท้องถิ่นและปัญหาด้านปากท้องและการอยู่อาศัย ทำให้ผู้ที่เป็นผู้นำอันนี้คมนี้ในขณะนั้นถูกบังคับให้กลับไปที่ประเทศอังกฤษเพื่อขอความช่วยเหลือและเมื่อกลับมาในปี 1950 หลังจากที่เขาจากโรอาโนคไป 3 ปี เขากลับพบว่าอาณานิคมโรอาโนคได้ถูกทิ้งร้างไปแล้ว ผู้คนทั้งเกาะได้หายไปหมดโดยที่ไม่มีสัญญาณหรือร่องรอยการต่อสู้หรือการใช้ความรุนแรงเลยแม้แต่น้อย เบาะแสเดียวที่ปรากฏขึ้นคือคำว่า Croatone (โครอาโทน) ที่สลักอยู่บนต้นไม้บนเกาะซึ่งบ่งบอกว่าอาณานิคมนี้อาจจะอพยพไปยังเกาะที่อยู่ใกล้เคียงกัน […]
เปิดตำนานความเฮี้ยน เกาะโอชิมะ Oshima เกาะผีสิงต้องสาปในญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึงสถานที่ลึกลับในญี่ปุ่น หนึ่งในชื่อที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยิน แต่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าที่ชวนขนลุก คือ เกาะโอชิมะ หรือ “Oshima” ที่ตั้งอยู่ในอ่าวโตเกียว เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติ แต่กลับมีตำนานที่น่ากลัวซ่อนอยู่ และถูกเรียกขานว่าเป็น “เกาะผีสิงต้องสาป” casinovega บาคาร่าออนไลน์ เล่นยังไง mgs888 mgs888.vip juth88 โปรโมชั่นเครดิตฟรี สมัคร juth88 faw99 เครดิตฟรี ประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม เกาะโอชิมะเป็นเกาะที่เคยมีชุมชนอยู่ในอดีต แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชุมชนที่เคยมีชีวิตชีวานั้นค่อยๆ เสื่อมสลายลง เหลือเพียงซากของบ้านเรือนและวัดร้างที่ยังคงหลงเหลืออยู่ หลายคนที่เคยไปเยือนเกาะนี้ เล่าว่ามีความรู้สึกแปลกๆ เสมอ ราวกับมีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นติดตามอยู่ตลอดเวลา เรื่องเล่าที่ไม่เคยจางหาย ตามตำนานเล่าว่า เกาะโอชิมะเคยเป็นสถานที่ที่ผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อหลบหนีจากความเจ็บปวดในชีวิต สถานที่นี้กลายเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับหลายคนที่เลือกทางออกนี้ เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมา บางคนที่เดินทางไปเยือนเกาะได้ยินเสียงกระซิบหรือเสียงร้องไห้ในคืนที่เงียบสงบ เหมือนมีวิญญาณของผู้ที่จากไปเรียกร้องหาความช่วยเหลือ การเดินทางสู่เกาะผีสิง การเดินทางไปยังเกาะโอชิมะนั้นไม่ง่ายนัก เนื่องจากการเดินทางโดยเรือจะต้องผ่านอ่าวที่คลื่นลมค่อนข้างแรง เมื่อถึงเกาะ ผู้ที่มาถึงมักจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไป จากธรรมชาติที่สวยงามแต่กลับแฝงไปด้วยความน่ากลัว เมื่อเดินเข้าไปในป่า จะรู้สึกได้ถึงความเงียบที่แปลกประหลาด ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย หลายคนที่เข้ามาในป่าลึกของเกาะบอกว่าพวกเขารู้สึกถึงอากาศที่เย็นยะเยือก และมีความรู้สึกเหมือนมีคนมองอยู่ตลอดเวลา บางคนเคยเห็นเงาสีขาวลอยผ่านไปในสายตา จนถึงขั้นตกใจและรีบวิ่งออกจากป่าไปอย่างไม่คิดชีวิต อดีตที่ยังวนเวียน แม้เกาะโอชิมะจะมีความสวยงาม […]
จุดกำเนิดของ เลข 666 หมายเลขแห่งความชั่วร้ายที่ว่ากันว่าเป็นเลขของซาตาน

6 6 6 เป็นเลขที่มีความหมายทางวัฒนธรรมและศาสนาอย่างลึกซึ้ง ซึ่งมักถูกเชื่อมโยงกับความชั่วร้ายและซาตาน เลขนี้ปรากฏครั้งแรกในคัมภีร์ไบเบิล โดยเฉพาะในหนังสือวิวรณ์ (Revelation) ซึ่งเป็นหนังสือเล่มสุดท้ายของพันธสัญญาใหม่ บทที่ 13 ข้อที่ 18 ระบุว่า “นี่แหละคือปัญญา ผู้ใดมีสติปัญญาให้คำนวณหมายเลขของสัตว์ร้าย เพราะเป็นหมายเลขของมนุษย์ หมายเลขของมันคือ 6 6 6” เราเลยจะพาทุกคนไปรู้ จุดกำเนิดของ เลข 666 หมายเลขแห่งความชั่วร้ายที่ว่ากันว่าเป็นเลขของซาตาน จะมีเรื่องราวเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลย จุดกำเนิดของ เลข 666 ที่ใครก็ว่ามันป็นเลขของซาตาน 6 6 6 เป็นตัวเลขที่มีความสำคัญมากทั้งในศาสนาและวัฒนธรรมของชาวคริสต์ทั่วโลก ในพระคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึง เลข 666 ว่า “ให้ทุกคนจงทำเครื่องหมายที่แสดงว่าเครื่องหมายนี้คือเลขของคนและเลขของเขาคือ 6 6 6” ซึ่งเลขนี้ก็มักถูกตีความว่าเป็นเลขของจิตใจหรือไม่ก็เป็นเลขของความชั่วร้าย บางครั้งก็ถูกนำไปใช้ในบางสถานการณ์เพื่อทำนายถึงเหตุการณ์ที่รุนแรงหรือสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เลข 6 6 6 ยังมีตำนานที่ลึกลับและก็มีความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับปีศาจซาตานที่เป็นแหล่งกำเนิดความชั่วร้ายทั้งมวลของโลกตามความเชื่อของชาวคริสต์ ทำให้เลขนี้เป็นที่น่าสนใจในหลายวัฒนธรรม เพื่อที่จะเอาไปสร้างบรรยากาศและยกให้เลขนี้เป็นตัวแทนของความลึกลับและความชั่วร้ายทั้งปวง โยฮันน์ เวเยอร์ […]