หากใครเคยอ่านนิยาย The 39 Clues ปริศนาสมบัติอัจฉริยะของ 10 นักเขียนระดับโลกของอเมริกา คุณคงจะไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์อะไรแบบนั้นจะเกิดขึ้นบนโลกจริง จนกระทั่งได้พบกับ Cicada 3301 เรื่องราวเกี่ยวกับผู้ใช้งานนิรนามรายหนึ่งบนเว็บบอร์ดสาธารณะชื่อดังที่ได้ทิ้งคำใบ้ปริศนาไว้บนโลกอินเทอร์เน็ต
ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรใช่ไหม ก็แค่ใครก็ไม่รู้โพสต์ภาพลงบนบอร์ดสาธารณะ แต่กลับกลายเป็นว่าเรื่องนี้สร้างความโกลาหล จนลุกลามกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่ทำเอาเหล่านักวิเคราะห์ โปรแกรมเมอร์ นักถอดรหัส ต่างหัวหมุนออกตามล่าหาคำใบ้ปริศนาไปทั่วทุกมุมโลก
วันนี้ ghostsfolder เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวของปริศนาภาพจักจั่น 3301 จากบุคคลนิรนามที่ทำเอาโลกอินเทอร์เน็ตปั่นป่วน
Cicada 3301 ภาพจักจั่นซ่อนโค้ดลับสู่ปริศนาน่าพิศวง
เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2012 เมื่อมีผู้ใช้งานรายหนึ่งโพสต์ภาพพื้นหลังสีดำ ข้อความภาษาอังกฤษสีขาวลงบนเว็บไซต์ 4Chan (เว็บบอร์ดสาธารณะที่เปิดให้บุคคลใดเข้ามาตั้งกระทู้ โพสต์ข้อความ และแสดงความคิดเห็นได้ ลองนึกง่าย ๆ ก็คล้ายกับเว็บ Pantip บ้านเรานั่นแหละ) ข้อความนั้นเขียนว่า
“Hello We are looking for highly intelligent individuals. To find them, we have devised a test. There is a message hidden in this image. Find it, and it will lead you on the road to finding us. We look forward to meeting the few that will make it on the way through. Good luck 3301”
ข้อความนี้แปลเป็นไทยได้ว่า
“สวัสดีทุกท่าน ตอนนี้เรากำลังมองหาบุคคลที่มีความเฉลียวฉลาดสูง เราจึงออกแบบแบบทดสอบนี้ขึ้นมา จะมีข้อความบางอย่างที่ถูกซ่อนในภาพเหล่านี้ จงตามคำใบ้เหล่านี้มา แล้วมันจะนำพาคุณมาพบกับพวกเรา เรากำลังรอคอยคุณ คนที่สามารถมาจนสุดทางได้ โชคดี 3301”
ผู้ใช้รายนี้ใช้ชื่อบัญชี 3301 ในตอนนี้ชาวเน็ตก็มองว่ามันเป็นข้อความไร้สาระ คงจะเป็นพวกเกรียนวัยรุ่นที่มักชอบตั้งกระทู้ปั่นป่วนบนอินเทอร์เน็ต แต่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโค้ดคนนึงบอกว่า ภาพนี้มันเป็นปริศนาการเข้ารหัสที่ซ่อนโค้ดบางอย่างไว้
คำใบ้ปริศนาภาพแรกจากผู้ใช้ที่ชื่อ Cicada 3301 ทำเอาผู้คนที่ท่องโลกออนไลน์ปั่นป่วน เมื่อมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายต่อหลายคนพยายามเข้ารหัสด้วยวิธีต่าง ๆ บ้างก็เอาภาพไปปรับแสงใน Photoshop บ้างก็ลองเปิดไฟล์รูปแบบ .rar แต่ก็ไม่สามารถเข้าได้สักที
จนกระทั่งมีผู้ใช้งานคนหนึ่งลองเข้าด้วยโปรแกรม Notepad ปรากฎว่ามันสามารถเข้าได้จริง ในภาพนั้นปรากฎเป็นโค้ดอะไรสักอย่าง ซึ่งหากเป็นคนทั่วไปไม่มีทางอ่านได้ แต่สำหรับโปรแกรมเมอร์ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับพวกเขานัก
ปริศนาที่ 2 โค้ดปริศนา Caesar Cipher
ในช่วงแรกการไขปริศนาไม่ได้ยากมากนัก แต่ละคนสามารถถอดรหัสด้วยความสามารถตัวเองได้ แต่ความยากกลับเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อผู้คนเปิดภาพแรกออกมา ก็ปรากฏโค้ดบางอย่างที่อ่านจับใจความไม่ได้ แต่บริเวณบรรทัดล่างสุด นักถอดโค้ดแกะออกมาได้ว่า Tiberivs Clavdivs Caesar… ตามมาด้วยตัวอักษรและตัวเลขที่อ่านจับจำความไม่ได้เช่นกัน
เมื่อพวกเขาแกะรอยไปมา จึงสันนิษฐานว่า นี่อาจจะเป็นการเข้ารหัสแบบตัวอักษรเลื่อน หรือที่เรียกว่า Caesar Cipher หรือก็คือ “รหัสซีซาร์” นั่นเอง นักถอดโค้ดแกะได้ว่ามันแปลว่า Claudius Caesar หมายถึง กษัตริย์โรมันที่ 4 เมื่อถอดรหัสนี้ได้ คุณจะพบลิงก์ URL เชื่อมไปยังเว็บไซต์ถัดไป
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับรหัสซีซ่าร์ (Caesar Cipher)
“รหัสซีซาร์” หรือ “ซีซาร์ไซเฟอร์” (Caesar Cipher) เป็นรหัสลับที่ใช้แทนตัวอักษรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เคยใช้เป็นรหัสลับทางการทหารสมัยโรมัน ลักษณะของมันจะเป็นการเลื่อนตัวอักษรในข้อความต้นฉบับไปข้างหน้าหรือถอยหลังตามจำนวนตำแหน่งที่กำหนดไว้ รหัสซีซาร์ถูกใช้ในสงคราม เหล่าทหารโรมันมักใช้รหัสลับส่งข้อความถึงกัน โดยปกปิดเนื้อหาที่แท้จริงมิให้ศัตรูรู้ความลับทางการทหาร
ปริศนาที่ 3 Dead-End Duck
เมื่อไขปริศนา Cicada 3301 ก่อนหน้าได้สำเร็จ คุณจะต้องกดเข้า URL ที่ถูกส่งมา เมื่อเปิดเข้าไปในเว็บไซต์ จะปรากฎภาพเป็ดหัวสีเหลือง ขนสีน้ำตาล ซึ่งผู้คนตั้งชื่อให้มันว่า Dead-End Duck ในภาพระบุข้อความว่า
“WOOPS Just decoys this way look like you can’t guess how to get the message out.” ประมาณว่า “อุ๊ย แค่ตัวล่อเท่านั้น ดูเหมือนคุณจะเดาไม่ออกว่าจะส่งข้อความออกมายังไง”
อ่านดูเหมือนจะเป็นข้อความเชิงล้อเลียน ประมาณว่าสิ่งที่คุณไขปริศนามาก่อนหน้านี้มันผิดหมด ไปต่อไม่ได้ หลายคนถอดใจกันไป แต่มีนักถอดโค้ดกลุ่มหนึ่งลองเปิดมันอีกครั้งด้วยโปรแกรม Out Guess จะพบ URL ลิงก์ไปยังบอร์ดนึงของเว็บไซต์ Reddit ในนั้นจะพบกับตัวเลขแบบสุ่ม 75 คู่ พร้อมด้วยภาพอีก 2 ภาพ
ความเชื่อมโยงระหว่างภาพเป็ด ไปสู่ลิงก์หน้า Subreddit ของเว็บไซต์ Reddit พบกับ Book Code ภาษายาวเหยียด การปรากฏเลขเหล่านั้น เช่น 1:15 , 25:30 , 2:14 ซึ่งเลขเหล่านี่เป็นเลขอารยธรรมมายา และเซ็ทโค้ดอะไรต่าง ๆ ซึ่งเมื่อโค้ดถูกถอดออกมาได้ มันคือข้อความที่ปรากฏในหนังสือนิทานโบราณเล่มหนึ่งที่มีชื่อว่า “The Mabinogion” ซึ่งมันเชื่อมโยงกับ Book Code ก่อนหน้าที่ได้รับมา
การอ่านหนังสือนิทานจะอ่านตาม Book Code จากคำใบ้ก่อนหน้า ซึ่งมันคือบรรทัดและลำดับตัวอักษรในบรรทัดนั้น ๆ เมื่อทำไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับเบอร์โทรศัพท์ ให้ลองโทรไปที่เบอร์นั้นจะพบกับคำใบ้ถัดไป
การรวมกลุ่มออกตามคำใบ้รอบโลกตามภาพจักจั่นปริศนา Cicada 3301
อย่างที่เราบอกกันไปในตอนแรกว่า การถอดปริศนาช่วงแรกดูเหมือนจะยาก จะพูดยังไงดี จะว่ายากมันก็คงยากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับเหล่านักถอดโค้ดและโปรแกรมเมอร์ก็ถือว่ากลาง ๆ สามารถถอดรหัสได้ด้วยตัวคนเดียว แต่พอไขปริศนาได้เรื่อย ๆ ความยากจะเพิ่มระดับแบบทวีคูณ ถึงขั้นว่าขนาดโปรแกรมเมอร์ระดับหัวกะทิยังยอมแพ้ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถไขปริศนาได้ด้วยตัวคนเดียว
ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการรวมกลุ่มเพื่อหาคำใบ้จากผู้ใช้นิรนาม Cicada 3301 เป็นกรุ๊ปแชทที่ใช้ชื่อว่า #decipher ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมผู้ถอดรหัสและต้องการไขปริศนาทั่วโลก พวกเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการถอดคำใบ้
หลังจากที่ถอดคคำใบ้หมายเลขโทรศัพท์ แล้วโทรไปยังสายนั้น เมื่อรับสาย เขาจะบอกให้นำเลข 3 ชุดจาก Book Code มาคูณกัน แล้วใส่ .com จากนั้น จะปรากฏเลข 3 ชุด หนึ่งในนั้นคือเลข 3301 ส่วนอีก 2 ชุดนี่แหละคือปริศนาที่ต้องไปหากัน
ปัญหาชวนปวดหัวนี้ถูกไขคำตอบโดยบุคคลหนึ่ง เขาบอกว่าคำใบ้มันมาจากรูปภาพแรกที่ถูกโพสต์ลงใน 4Chan (ก็ภาพข้อความขาวดำที่เจอครั้งแรกนั่นแหละ) เขาบอกต่อว่า ให้นำความกว้าง X ยาวของรูปแรก X 3301 จากนั้นเว็บไซต์จะเปิดภาพจักจั่นและนาฬิกานับถอยหลัง ทีนี้ต้องกลับไปดูที่คำใบ้ก่อนหน้านี้ว่าจะต้องเข้าเว็บไซต์อีกทีวันไหน ไม่ใช่ว่าจะเข้าวัน-เวลาไหนก็ได้ ต้องเข้าตามวัน-เวลาที่ถอดรหัสได้เท่านั้น มันถึงจะโยงคุณเข้าสู่เว็บไซต์หนึ่ง หน้าเว็บจะกลายเป็นเลขระยะพิกัด GPS
แล้ว GPS เกี่ยวอะไรด้วย มาจะบอกยังงี้ คนที่ไขรหัสปริศนามาถึงด่านนี้ ไม่ว่าจะมาเดี่ยวหรือช่วยกันเป็นทีม คนที่ผ่านเข้าสู่เว็บไซต์จะได้พิกัด GPS ซึ่งมันปรากฏอยู่ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น โปแลนด์ ฝรั่งเศส อเมริกัน รัสเซีย ทีนี้เหล่านักแฮกเกอร์ โปรแกรมเมอร์ และเหล่านักถอดโค้ดทั้งหลายแหล่ที่เข้าร่วมกันในกลุ่ม #decipher ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วโลก ต่างก็ออกเดินไปทางไปยังประเทศเหล่านั้นจริง ๆ เพื่อตามหาคำใบ้ปริศนา
พวกเขาเดินทางแบบต่างคนต่างไป แต่ก็ส่งข้อมูลช่วยเหลือกันในแชทกลุ่ม พวกเขาพบเบาะแสที่มีความเกี่ยวข้องกับ Cicada 3301 คือพบใบปลิวที่มีภาพจักจั่นติดตามเสาไฟและกำแพงในประเทศต่าง ๆ ที่พวกเขาไปถึง ภาพเหล่านั้นซ่อน QR Code เอาไว้ เมื่อสแกนเข้าไป จะพบภาพ 2 ภาพที่มีข้อความซ่อนอยู่
สองภาพปริศนาสุดท้ายก่อนไปสู่บทสรุป
เมื่อสแกน QR Code เข้ามาแล้ว คุณจะพบกับภาพ 2 ภาพ หนึ่งในภาพที่ปรากฏข้อความถึงคำใบ้ในหนังสือ Agrippa หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Book of The Dead ที่มีชื่อเสียงในยุคกลาง ข้างในนั้นมีแผ่น Floppy Disk ซึ่งจะต้องอ่านเพียง 1 ครั้ง เพราะหลังจากมีการเปิดอ่าน 1 ครั้งแล้ว ข้อความจะลบเองอัตโนมัติ และตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยสารเคมีจะเลือนหายไปเมื่อโดนแสง (ลึกลับซับซ้อนเสียจริง)
เมื่อลองเอาชื่อหนังสือที่ได้มาไปค้นหา ก็จะพบว่ามีบางเว็บไซต์ที่มีหนังสือเล่มนี้อยู่ แล้วก็มาอีกแล้วจ้า Book Code ชวนปวดหัวกลับมาให้นักวิเคราะห์ต้องกุมขมับกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่ยากเกินความร่วมมือของพวกเขา ในไฟล์นั้นให้อ่านคำสั่งตาม Book Code ของหนังสือ จะปรากฏลิงก์ .onion จากนั้นจะขึ้น URL ขึ้นมา
เมื่อคลิกไปยัง URL นั้น จะลิงก์ไปยัง Dark Web จะเจอคำสั่งให้สร้างอีเมลใหม่ เราสร้างอีเมลตามคำสั่ง แล้วรอคำสั่งถัดไป คำสั่งสุดท้ายจะพาไปสู่เบราว์เซอร์นิรนาม ซึ่งเป็นเว็บที่ใช้ในตลาดมืด Silk Road
เมื่อสิ้นสุดคำสั่งสุดท้ายจะส่งรหัส RSA encryption มาให้พวกเขาถอดรหัสครั้งสุดท้าย นักถอดโค้ดบอกว่าการถอดรหัสต้องใช้ภาษา Python พอถอดเสร็จต้องกลับไปยังอีเมลต้นทาง จากนั้น แต่ละคนจะได้เซ็ทตัวเลขที่แตกต่างกัน หากใครตอบถูก จะได้รับไฟล์เพลงคนละ 1 ไฟล์ ซึ่งมันคือเพลง A Song Of Liberty ของนักร้องยุคเก่า William Blake ซึ่งต้องเปิดด้วยโปรแกรม Midi เท่านั้นถึงจะสามารถเล่นเพลงนั้นได้ เมื่อถอดคำใบ้ทั้งหมดเสร็จ ก็ส่งกลับไปยังอีเมลต้นทาง
บทสรุป Cicada 3301 คืออะไร จุดประสงค์คืออะไรกันแน่
ปริศนาชวนชุลมุนได้จบลงเพียงเท่านี้ แต่นี่เป็นเพียงปีแรก ส่วนผู้ชนะไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่ามีใครบ้าง มีเพียงชายคนนึงที่ชื่อ Marcus Wanner วัย 16 ปี ที่อ้างว่าเขาคือผู้ชนะที่สามารถถอดรหัสเพลงสุดท้ายได้ แล้ว Cicada 3301 ก็ส่งคำถามมาทางอีเมล ประมาณว่า “เชื่อในการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลเสรีได้หรือไม่” และ “คิดว่าทุกคนควรใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบไม่ระบุตัวตนหรือไม่”
บางคนสันนิษฐานว่านี่อาจจะเป็นการค้นหาบุคคลที่มีความอัจฉริยะที่สามารถผ่านด่านด้วยตัวเอง จุดประสงค์เพื่อการพัฒนาระบบความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตใช่หรือไม่ ก็ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด เพราะภาพใหม่ของผู้ใช้งาน 3301 ก็กลับมาอีกครั้งในปี 2013 แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีผู้ชนะ จากนั้น ทั้งภาพ กระทู้ และเลขสมาชิก 3301 ก็ถูกลบหายไปอย่างลึกลับตราบจนทุกวันนี้
