เปิดตำนาน 34 ปี ผีจ้างหนัง อาถรรพ์ป่าคำชะโนด เรื่องเล่าสุดหลอนชวนขนลุกซู่

อีกหนึ่งตำนานความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคที่คนไทยหลายคนยังสงสัย ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นดินแดนของพญานาค ป่าศักดิ์สิทธิ์ ลี้ลับ อาถรรพ์ เกาะลอยน้ำ กับเรื่องราวความเชื่อว่าเกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ เพราะมีพญานาคคอยปกปักรักษา และอีกหนึ่งเรื่องราวที่เป็นตำนานของอาถรรพ์ของสถานที่แห่งนี้นั่นก็คือ ตำนานผีจ้างหนัง เมื่อปี พ.ศ. 2532 จนทำให้หลายคนรู้จัก

ตำนานผีจ้างหนัง ทำให้ป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

“ผีจ้างหนัง” เรื่องราวที่เคยเป็นข่าวโด่งดังมาหลายสิบปี เกิดขึ้นในเกาะคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จนมีการพิสูจน์เรื่องราวเพื่อหาคำตอบที่แท้จริง หรือแม้กระทั่งการดัดแปลงเรื่องราวทำเป็นภาพยนตร์ออกฉายจนโด่งดัง ล่วงเลยมาครบ 34 ปีแล้ว กับเหตุการณ์สยองขวัญ “แจ่มจันทร์ภาพยนตร์” เจ้าของเรื่องราวนี้ ยังคงยืนหยัดทำธุรกิจฉายหนังกลางแปลงอยู่ข้างเกาะคำชะโนดจนถึงปัจจุบัน และทุกปีจะจัดพิธีบวงสรวงตามความเชื่อแรงศรัทธาหนุนนำธุรกิจมาจนถึงทุกวันนี้

อาถรรพ์ที่เคยเกิดขึ้นในป่าคำชะโนด

เหตุการณ์ครั้งแรก

ปาฏิหาริย์ครั้ง ปี พ.ศ.2519 เกิดน้ำท่วมใหญ่ในราบลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งท้องที่อำเภอบ้านดุง แต่น้ำไม่ท่วมคำชะโนด ชาวบ้านละแวกนั้นให้คำตอบไว้ว่า น้ำไม่ท่วมเพราะพญานาครักษาไว้ เนื่องจากมีศาลบูชาพญานาค 2 ท่าน โดยนาคบริวารช่วยกันร่ายมนตร์แล้วหนุน ดุน ดัน แผ่นดิน เป็นเหตุให้สูงขึ้นจนพ้นน้ำ

เหตุการณ์ครั้งที่สอง

ป่าคำชะโนดกลายเป็นสถานที่เลื่องชื่อชั่วข้ามคืนก็เพราะเรื่องเล่า “ผีจ้างหนัง” อันสุดแสนมหัศจรรย์พันลึกเกิดขึ้น ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าวันที่ 29 มกราคม เป็นวันปีใหม่ของเมืองบาดาล ตามความเชื่อพยานาคได้ยืมร่างนายจำปา คำแก้ว ชาวบ้านวังทอง เข้าไปหาผมในเมืองอุดรธานี เพื่อจ้างหนังเร่หรือหนังกลางแปลงเข้ามาฉายป่าคำชะโนด จำนวน 4 เรื่อง แต่มีข้อแม้ว่าต้องฉายจบแค่ตี 4 ของวันใหม่ และให้ออกจากหมู่บ้านก่อนฟ้าสาง โดยห้ามหันหลังกลับมามอง

แจ่มจันทร์ภาพยนต์ — นี่เป็นหลักฐานสัญญาการว่าจ้างให้ไปฉายหนังกลางแปลง โดยมีลายเซนคนว่าจ้างคือ “นายจำปา คำแก้ว”

หนังเริ่มฉายตั้งแต่หัวค่ำ ไม่มีผู้คนมาดูเลย พอ 3 ทุ่ม มีคนมาดูจำนวนเยอะมาก แต่แปลกก็คือ ผู้หญิงจะนุ่งขาวห่มขาวนั่งอยู่ด้านหน้า ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำนั่งอีกข้าง และทั้งหมดก็นั่งกันสงบเรียบร้อยเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวตัวเลยแม้แต่คนเดียว ยิ่งกว่านั้นไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงเอะอะเหมือนหนังกลางแปลงทั่วไป ฉายหนังบู๊ก็เฉย หนังตลกก็เงียบ จนมาเริ่มเรื่องที่ 3 เป็นหนังผี สังเกตท่าทางคนมาดูเริ่มตั้งใจดู บรรยากาศตอนนั้นก็เที่ยงคืนดูน่ากลัวมากๆ ทางทีมงานเห็นแล้วก็ละเหี่ยใจ รู้สึกกลัวขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศอันอึมครึม

แต่สิ่งที่น่าแปลกมากคือ ในงานไม่มีร้านขายของกินของใช้ แม้แต่ร้านขายบุหรี่ก็ไม่มีเลยแม้แต่ร้านเดียวพอหนังฉายจบพนักงานก็เก็บของกลับบ้าน และตอนเช้าตื่นขึ้นมากลับพบว่าเงินที่นำมาจ้างนั้นเป็นใบไม้ทั้งหมด ชาวบ้านละแวกนั้นจึงถ้ามว่าไปฉายหนังแถวไหนมา จึงบอกกลับไปว่าในคำชะโนดเลยทำให้ชาวบ้านตกใจและบอกพนักงานว่าในป่าแห่งนั้นไม่มีทางเข้าและข้างในยังเต็มไปด้วยน้ำเป็นไปไม่ได้ที่จะเอารถเข้าไปจอด

นายไพบูลย์ สมหานึก อายุ 51 ปี พนักงานแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ บอกว่า ตนทำมานานกว่า 20 ปีแล้ว กับแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ตั้งแต่สมัยหนังล้อมผ้า 3 เรื่อง 10 บาท แต่ยังไม่ได้อยู่ด้วยขณะเกิดเหตุผีจ้างหนัง เพราะเพิ่งมาสมัครทีหลัง ครั้งแรกที่มาประจำก็รู้สึกกลัว ก็ยกมือไหว้ขอปู่ว่าขอมาอยู่ด้วยขอมาทำงานที่นี่ เรื่องประหลาดที่เคยเห็นก็มีงูตัวใหญ่ลื้อยผ่านมาบริเวณฉายหนัง 1 – 2 ตัว บางครั้งก็มีงูเลื้อยขึ้นมาบนรถก็ยังมี ซึ่งเรื่องราวของตำนานผีจ้างหนังเกิดขึ้นในปี 2532 ซึ่งผ่านมาแล้ว 34 ปี ก็ยังเป็นตำนานโด่งดังถึงขั้นเอาไปทำเป็นภาพยนต์กันเลยทีเดียว

เลยทำให้ความเชื่อเรื่องพญานาคของคนแถวนั้นอาจไม่แตกต่างจากชาวหนองคายที่เชื่อว่าพญานาคมีอยู่จริง บั้งไฟพญานาคเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของเจ้าแห่งเมืองบาดาล ไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ธรรมดาเหมือนเมื่อครั้งถูกนำเสนอผ่านหนัง รวมถึงสื่อทีวีบางช่องเมื่อหลายปีก่อน ชาวบ้านละแวกคำชะโนดก็คล้ายกัน เพราะคิดว่าผีจ้างหนังนั้นคือเรื่องจริง เลยทำการสร้างทางเดินเชื่อมจากโลกภายนอกกับผืนที่อันศักดิ์สิทธิ์เข้าไว้ด้วยรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร นอนเลื้อยยาวไปจนสุดทางเดินราว 300 เมตร เพื่อสะท้อนถึงพลังอำนาจและบารมีของพญานาคราในป่าอันศักดิ์สิทิ์แห่งนี้นั่นเอง

พบกับความหลอนสุดสยองได้ที่ทาง ghostsfolder