รวม 8 ฆาตกรโรคจิต

รวม 8 ฆาตกรโรคจิต ที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กับเหตุจูงใจในการลงมือ

หัวข้อน่าสนใจ

คดีฆาตกรรมต่อเนื่องของฆาตกรโรคจิต ที่เราต่างคิดว่าซับซ้อน ยากจะหาตัวคนร้าย พยายามหาคำตอบว่า “แรงจูงใจ” คืออะไรกัน? วันนี้เราจึงอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจบ่อเกิดแห่งความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ยีนส์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หรือการอบรมบ่มเพาะจากสังคมรอบตัว ล้วนมีผลต่อการเป็นฆาตกรต่อเนื่องทั้งสิ้น แต่การวิเคราะห์ “จิตใจมนุษย์” นั้นเป็นเรื่องยากเสมอ มาลองดูกันว่า 8 ฆาตกรโรคจิต ที่ฉาวโฉ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ พวกเขาจะมีเหตุจูงใจอะไร แล้วคุณจะเห็นสัญญาน หรือสารบางอย่าง ที่สะท้อนความคิดของฆาตกรออกมาบ้างตามไปดูกัน

1. ฆาตกรโรคจิต Harold Shipman ฆ่าเอามัน

ฆาตกรโรคจิต Harold Shipman ฆ่าเอามัน
Harold Shipman ฉายา ฆ่าเอามัน

หนึ่งในฆาตกรที่เลื่องลือที่สุดในประวัติศาสตร์ คร่าชีวิตคนถึง 218 ราย เริ่มก่อคดีฆาตกรรมเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ.1972 เขาทำงานเป็นแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาล และได้เริ่มสังหารผู้คน เพื่อนร่วมงาน ต่างบอกว่าเขาจิตใจโหดเหี้ยม เย่อหยิ่ง และ “มั่นใจในตัวเองสูง” เขาถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการในข้อหาฆาตกรรม 15 คดี และถูกตัดสินว่ามีความผิดและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตในปี ค.ศ.2000 ในปี ค.ศ.2004 เขาจึงฆ่าตัวตายในห้องขัง

2. ฆาตกรโรคจิต Belle Gunness ฆ่าเอาเงินประกัน

Belle Gunness ฆ่าเอาเงินประกัน
Belle Gunness ฆ่าเอาเงินประกันสามี

Lady Bluebeard อพยพจากนอร์เวย์มายังเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐฯ ได้แต่งงานกับเพื่อนชาวนอร์เวย์ และเปิดร้านขายขนม ปีค.ศ.1900 วันหนึ่ง ร้านค้าถูกไฟไหม้อย่างลึกลับ ทำให้สามีเธอเสียชีวิต โดยการสูญเสียครั้งนี้ทำให้เธอสามารถเก็บเงินจากกรมธรรม์ประกันภัยได้หลายฉบับ ทำให้เธอมีเงินซื้อฟาร์มในรัฐอินเดียนา หลังจากนั้นไม่นานเธอแต่งงานใหม่อย่างรวดเร็ว แต่แล้วอีกแปดเดือน สามีคนที่สองของเธอก็เสียชีวิต ในระหว่างการสอบสวน ไม่มีหลักฐานที่น่าสงสัย ซึ่งทำให้เธอได้รับเงินประกันอีกมหาศาล

3. ฆาตกรโรคจิต Ed Gein ฆ่าสร้าง “ของ”

Ed Gein ฆ่าสร้าง “ของ”
Ed Gein ฆ่าสร้าง “ของ”

คดีอันโด่งดังนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับหนังเรื่อง Psycho, Silence of the Lambs และ The Texas Chain Saw Massacre เขาเติบโตมาในพื้นที่ห่างไกลในรัฐวิสคอนซิน เป็นลูกที่ถูกทารุณกรรมจากพ่อติดเหล้า และแม่ที่ปลูกฝังอยากให้ลูกชายกลัวผู้หญิงและ LGBTQ+

สิบสามปีต่อมา เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์หายตัวไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพัก และพบกับศพหัวขาดของ Worden ห้อยลงมาในบ้านของเขา จากการกระทำอันโหดร้าย ผิดมนุษย์มนา ทำให้เขาถูกวินิจฉัยว่าเป็นคนวิกลจริต และศาลมีคำสั่งให้เขารักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช

4. ฆาตกรโรคจิต John Wayne Gacy ฆ่าแล้ว “เก็บ”

John Wayne Gacy ฆ่าแล้ว “เก็บ”
John Wayne Gacy ฆ่าแล้ว “เก็บ”

John Wayne Gacy เป็นอาสาสมัครในเมืองท้องถิ่น และมักแสดงเป็นตัวตลกในงานปาร์ตี้ เพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากเด็กๆ แต่หารู้ไม่ว่าภายใต้หน้ากากที่แสนดี เกซี่เคยถูกตั้งข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ปีค.ศ.1978 ตำรวจพบว่าเกซี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของเด็กชายอายุ 15 ปี เมื่อตรวจค้นบ้าน เจ้าหน้าที่ก็ได้พบแหวนและเสื้อผ้าของเด็กชาย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็เจอกับเหตุการณ์อันน่าตกใจ เมื่อพบศพเน่าเปื่อยของเด็กชายและวัยรุ่น 29 คนซึ่งเกซี่ข่มขืนและสังหาร

5. ฆาตกรโรคจิต Jeffrey Dahmer ฆ่าโหด โฉดวิปริต

Jeffrey Dahmer ฆ่าโหด โฉดวิปริต
Jeffrey Dahmer ฆ่าโหด โฉดวิปริต

ดาห์เมอร์ก่อเหตุฆาตกรรมครั้งแรกในปี ค.ศ.1978 ขณะอายุเพียง 18 ปี จนกระทั่งถูกจับกุมในปี ค.ศ.1991 รัฐวิสคอนซิน หลังจากที่ชายแอฟริกันอเมริกันคนหนึ่งรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขา เมื่อเหยื่อนำตำรวจกลับไปที่อพาร์ตเมนต์ของฆาตกร พวกเขาพบรูปถ่ายศพที่แยกชิ้นส่วน หัว และอวัยวะเพศชายถูกตัดขาดอีกหลายราย อ่างล้างมือเต็มไปด้วยกรดที่ดาห์เมอร์เคยใช้ปลิดชีพเหยื่ออีก 17 ศพ ดาห์เมอร์ถูกตัดสินจำคุก 957 ปี แต่ถูกเพื่อนนักโทษฆ่าตายหลังจากถูกขังเพียงสองปี

6. ฆาตกรโรคจิต Ted Bundy “ลัก” ไปฆ่า

Ted Bundy “ลัก” ไปฆ่า
Ted Bundy “ลัก” ไปฆ่า

บันดี้ ชายผู้ทรงเสน่ห์ เรียนเก่ง ใครๆ ก็ชื่นชอบ แต่เบื้องหลังของความเพอร์เฟกต์นี้ เขาเป็นถึงฆาตกรต่อเนื่องที่โหดสุดๆ คดีแรกเกิดขึ้นในซีแอตเทิลปีค.ศ.1966 โดยมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเด็กและวัยรุ่น บันดี้ได้ก่อเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องทั่วแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ เขาเดินทางต่อไปยังยูทาห์และโคโลราโด สังหารผู้หญิงอีกหลายคนก่อนถูกจับ และสุดท้าย บันดี้ก็ถูกจับในข้อหาฆาตกรรม ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าในปีค.ศ.1989 ซึ่งไม่มีใครทราบจำนวนที่แท้จริงของเหยื่อ

7. ฆาตกรโรคจิต Jack the Ripper ฆ่าแล้ว “ชำแหละ”

Jack the Ripper ฆ่าแล้ว “ชำแหละ”
Jack the Ripper ฆ่าแล้ว “ชำแหละ”

เขาถูกจับในฐานะฆาตกรต่อเนื่อง เขาทำการล่อลวงโสเภณี ก่อนจะกรีดคอและกรีดร่างกายเหยื่อด้วยมีดแกะสลักอย่างซาดิสม์ แถมยังยังส่งจดหมายท้าทายไปยังสำนักงานตำรวจนครบาลลอนดอน หลังจากจัดการกับเหยื่อรายสุดท้ายในเดือนพฤศจิกายน ฆาตกรกลับหายตัวไป จนในที่สุดคดีนี้ก็ปิดตัวลงในปีค.ศ.1892

8. ฆาตกรโรคจิต H.H. Holmes ฆ่าเอาไปเป็น “หนูทดลอง”

H.H. Holmes ฆ่าเอาไปเป็น “หนูทดลอง”
H.H. Holmes ฆ่าเอาไปเป็น “หนูทดลอง”

โฮมส์ มีอาชีพเป็นนักต้มตุ๋นในคราบพนักงานขายประกัน ก่อนจะผันตัวไปทำงานเป็นเภสัชกรในอิลลินอยส์ และสถานที่แห่งนั้นก็เป็นสถานที่ที่เขาใช้ก่อเหตุ เขาได้เช่าโรงแรมสามชั้น นำมาใช้เป็นห้องทรมาน เขานำเหยื่อจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นหญิงสาว บังคับให้พวกเธอเข้าไปในสถานที่ปิด เพื่อทำให้ขาดอากาศหายใจด้วยก๊าซพิษ และพาเหยื่อไปห้องใต้ดินเพื่อทำการทดลองอันน่าสยดสยอง จากนั้นเขากำจัดศพด้วยเตาหลอม หรือถลกหนังและขายโครงกระดูกให้กับโรงเรียนแพทย์ จนในที่สุดเขาก็ถูกจับ เมื่อหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดของเขาแจ้งตำรวจ

ติดตามอ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ Ghosts Folder – สารคดี – แฟ้มลับเรื่องสยองขวัญที่คุณอาจไม่เคยรู้