เรือผีสิง คงเป็นเรื่องที่น่าสนุกถ้าคุณเป็นคนรักการผจญภัยในท้องทะเล อย่างลูฟี่เองก็มีความฝันว่าจะเป็นราชาโจรสลัด และได้ร่วมเดินทางกับเหล่าเพื่อน ๆ ที่รักการเดินเรือ แต่จะรู้หรือไม่ว่า บนโลกเรานี้ไม่เพียงมีทะเลสาบที่คุณไม่ควรเฉียดเข้าใกล้ แต่ยังมีเรือที่คุณไม่ควรย่างกรายเข้าไป เพราะอาจจะเจอเรื่องราวอันสุดสยองที่มาในรูปแบบที่คุณไม่สามารถหลบหนีได้ กับ 8 เรือผีสิงที่ขนานนามว่าเป็นเรือที่เฮี้ยนที่สุดในโลก
The Queen Mary
เรือผีสิงที่เฮี้ยนมาเป็นอันดับหนึ่งกับ The Queen Mary เรือสุดหรูที่มีอายุเกือบ 100 ปี เปิดให้บริการในฐานะเรือสำราญ รับส่งผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร ตั้งแต่ ค.ศ. 1936 ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือลำนี้ได้ถูกเปลี่ยนให้ไปเป็นเรือสำหรับขนส่งกองกำลังทหารออกรบ โดยมีการทาสีเทาทั่วทั้งลำและเปลี่ยนชื่อไปเป็น Grey Ghost โดยใน ค.ศ. 1943 เรือลำนี้ได้ บรรทุกทหารและลูกเรือในครั้งเดียวกว่า 15,000 คน ทุบสถิติการบรรทุกผู้โดยสารในครั้งเดียวที่มากที่สุดในโลก
ด้วยความที่เรือลำนี้มีประวัติอย่างโชกโชน เพราะมีการใช้งานหลายรูปแบบตั้งแต่เรือสำราญไปจนถึงเรือขนกองทัพทหารไปรบ คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวสุดเฮี้ยน และเรื่องที่ได้เล่าบอกต่อกันมาอยู่เรื่อง ๆ หนึ่งในนั้นคือเรื่องวิญญาณของเด็กที่สระน้ำชั้น First Class, วิญญาณของผู้หญิงชุดขาว, วิญญาณของกะลาสีเรือ หรือวิญญาณของชายร่างสูงใหญ่ที่ใน Sweet Room ของชั้น First Class และยังมีเรื่องราวความน่ากลัวอีกนับไม่ถ้วนที่ผู้คนได้เล่าต่อ ๆ กันมา
The Caleuche
ตามตำนานเล่าว่าเรือผีสิง The Caleuche นี้ เกิดขึ้นจากดวงวิญญาณของคนจมน้ำในทะเล โดยสาเหตุมาจากสามพี่น้องเงือกที่หลอกล่อเรือให้อัปปาง จนวิญญาณดังกล่าวไม่ผุดไม่เกิด รวมตัวจนกลายเป็นเรือผีซึ่งมักปรากฏขึ้นทุกคืน ซึ่งบางตำนานเล่าว่าเป็นเรือที่เกิดจากเวทมนต์หมอผีที่จะลักพาตัวชาวประมงและชาวเรือให้กลายสัตว์ประหลาด เพื่อให้เป็นทาสทำงานเป็นลูกเรือชั่วกัปชั่วกัลป์ โดยมันมักปรากฏเป็นเรือใบโบราณขนาดใหญ่อลังการและสวยงาม เต็มไปด้วยดวงไฟพร้อมกับเสียงดนตรีและเสียงคนหัวเราะจำนวนมากมาย และหลังจากมันปรากฏตัวแล้วเรือจะหายไปหรือจมดิ่งไปใต้ทะเล
Flying Dutchman
Flying Dutchman เรือผีสิง ที่ต้องคำสาปให้เดินทางในมหาสมุทร ที่ออกหลอกหลอนแก่คนในน่านน้ำทั่วโลกและได้เป็นแรงบันดาลใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด นิยายสยองขวัญ ภาพยนตร์ รวมทั้งเป็นชื่อเรือโจรสลัดลำหนึ่งในภาพยนตร์ชุด Pirates of the Caribbean โดยเรือฟลายอิ้ง ดัชต์แมน เป็นเรื่องเล่าของ ‘แวน แดร์ เดคเคน’ (Van Der Decken) กัปตันเรือชาวดัตช์คนหนึ่ง ได้นำเรือไปพบสภาพอากาศที่เลวร้ายในแหลมกู๊ดโฮป ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเขาเองพยายามนำเรือฝ่าพายุเพื่อเดินทางไปยังอัมสเตอร์ดัมแต่ไม่เป็นผล แต่เขาก็ยังคงพยายามที่จะฝ่าพายุท่ามกลางเสียงคัดค้านจากคนรอบข้างและด่าทอจนเรืออับปาง ซึ่งเขาโกรธมากเขาเลยสาบานแก่ฟ้าว่า “ข้าจะวนเวียนอยู่บริเวณแหลมนี้ ตราบฟ้าดินสลาย”
ทำให้เขากลายเป็นปีศาจที่ต้องคำสาปและต้องอยู่คู่กับเรือไปตลอดกาล อีกทั้งยังมีคนพบเห็นอยู่เป็นครั้งคราวในคืนที่มีหมอกหนาทึบ บางครั้งพบเห็นเป็นแสงประหลาดในเวลากลางคืนในรูปของเรือสำเภาสามใบเสา และกัปตันผู้ซึ่งยังแต่งกายในแบบศตวรรษเก่าใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว กรีดเสียงหัวเราะบ้าคลั่งชวนขนลุก ทุกวันนี้ก็ยังมีคนกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าเห็นเรือผีสิง ฟลายอิ้ง ดัทช์แมน ยังคงรอนแรมอยู่เดียวดายกลางทะเลด้วยรูปลักษณ์อันเศร้าโศก ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ได้คำอธิบายปรากฏการณ์ฟลายอิงดัตช์แมน ว่าเป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นมิราจหรือฟาตา มอร์กานา ที่เกิดจากการหักเหและการสะท้อน ที่พบเห็นในทะเลทั่วไป
The Lady Lovibond
เรือที่หายสาบสูญไปพร้อมกับความแค้น Lady Lovibond กับตำนานที่เล่าว่าเรือลดี้ โลวี่บันด์ เป็นเรือใบสกูเนอร์ เป็นเรือผีสิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุด โดยเรื่องราวของเรือนี้เริ่มขึ้นในเดือน 13 กุมภาพันธ์ 1748 กัปตันเรือ ‘เลดี้ โลวี่บันด์ ชื่อไซม่อน พีล’ (Simon Peel) ได้ตัดสินใจเอาเรือออกมาเฉลิมฉลองงานแต่งงานของเธอที่นอกชายฝั่งอังกฤษ โดยความเชื่อดังเดิมนั้นหากเรานำผู้หญิงขึ้นเรือไปด้วยจะนำความหายนะสู่เรือนั้น ๆ และก็เป็นเรื่องจริง เพราะเรือลำนี้อับปางลงที่แหลมกู๊ดวินด์แซนด์ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ หลังจากเกิดการฆาตกรรมทุกคนบนเรือ
หลังจากนั้นเป็นต้นมาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิบห้าปี เรือเลดี้ โลวี่บันด์จะปรากฏตัวในฐานะเรือผีในลักษณะแตกต่างกันออกไป เช่น เรือในรูปซากปรักหักพังหรือแสงสีเขียวประหลาด อย่างไรก็ตามในมันก็ไม่ได้ปรากฏครั้งล่าสุดในปี 1998 แต่กระนั้นมันก็ยังเป็นตำนานที่มีชื่อเสียงของเรือผีสิงยุโรปอยู่ดี
Uss Salem
Uss Salem คือ เรือลาดตระเวนขนาดใหญ่ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ถูกปลดประจำการ และกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของแมสซาชูเซตส์ แต่คนที่มาเยี่ยมชมมักจะรู้สึกถึงพลังงานบางอย่างและมักจะได้ยินเสียงคนคุยกัน และมีเงาปริศนาแวบไปแวบมา เลยกลายเป็นเรือผีสิงที่ผู้คนต่างก็แอบกลัว แต่ก็ยังไม่หยุดที่จะค้นหาคำตอบว่าในเรือนั้นมีอะไรซ่อนอยู่
The SS Valencia
The SS Valencia เป็นเรือกลไฟที่ประสบภัยจนเรือจมอยู่นอกชายฝั่งแวนคูเวอร์, บริติชโคลัมเบีย ในช่วงปี ค.ศ. 1906 เรือได้เผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายใกล้แหลมเมนโดซิโน ทำให้เรือสูญเสียการบังคับแล้วไปชนกับแนวหินปะการังจนน้ำเข้าเรือ ทำให้เรือแตก ลูกเรือและผู้โดยสารได้พยายามสละเรือแล้วหนีโดยใช้แพชูชีพลงน้ำ ซึ่งมีผู้โดยสารในแพชูชีพแตกไปในช่วงนั้น ส่งผลให้ผู้โดยสารกว่า 136 คนเสียชีวิต ซึ่งส่วนมากเป็นเด็กและผู้หญิง เหลือรอดเพียง 37 คนเท่านั้น
5 เดือนต่อมาชาวประมงอ้างว่าพวกเขาได้พบโครงกระตูก 8 โครงบนเรือชูชีพอยู่ในบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุเรือจม แต่แล้วเมื่อมีการค้นหาก็ไม่ได้พบอะไร นอกจากนี้ชาวเรือยังพบเรือกลไฟวาเลนเซียล่องลอยอยู่แนวปะการังใน Pachena Point ใกล้เกาะแวนคูเวอร์ไป 12 กิโลเมตร และ 27 ปีต่อมาก็ยังมีการพบเรือผีสิงและแพผีสิงในบริเวณนั้นอยู่เป็นระยะ
Carroll A.Deering
เรือผีสิง Carroll A.Deering เป็นชื่อเรือของเรือใบซคูเนอร์ ที่ถูกดัดแปลงเป็นเรือพาณิชย์และถูกพบพบเกยตื้นในแหลม Hatteras ทางทิศเหนือของคาโรไรน่า เมื่อปี 1921หลังจากที่เดินทางขนส่งถ่านหินไปทวีปอเมริกาใต้ที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1920 ก่อนที่จะหายไปและปรากฏตัวเมื่อ 31 มกราคม 1921 ที่แหลมดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าลูกเรือหายตัวไปอย่างลึกลับ แถมอุปกรณ์หลายชิ้นบนเรือยังใช้ได้ แต่อุปกรณ์นำทางและสมุดจดรายการต่าง ๆ นั้นได้หายไป ในห้องครัวของเรือปรากฏว่าอาหารบางอย่างได้ถูกเตรียมไว้สำหรับมืออาหารในวันถัดไปแต่ถูกยกเลิกกลางคันเสียก่อน สุดท้ายเรือลำนี้ก็ถูกปลดและถูกทำลายโดยระเบิดเพื่อป้องกันในการนำมันมาใช้งานอีกครั้ง
แต่ปริศนาคนหายในเรือผีสิงลำนี้ยังถูกกล่าวขานต่อไปหลายคนเชื่อว่าลูกเรือลำนี้เป็นเหยื่อของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เมื่อวันที่ 11 เมษายน 1921 มีคนชื่อ ‘เกรย์’ ได้อ้างว่าพบข้อความในขวดลอยน้ำที่ข้อความที่เชื่อว่าเป็นข้อความที่จะไขปริศนาเรือนี้ได้ โดยข้อความนี้เป็นอักษรสีเทาที่เขียนว่า “ DEERING CAPTURED BY OIL BURNING BOAT SOMETHING LIKE CHASER. TAKING OFF EVERYTHING HANDCUFFING CREW. CREW HIDING ALL OVER SHIP NO CHANCE TO MAKE ESCAPE. FINDER PLEASE NOTIFY HEADQUARTERS DEERING. ”
Octavius
ตำนานเรือผีสิง Octavius ได้อ้างว่าในปี 1775 เรือล่าวาฬลำหนึ่งชื่อเฮราลด์ ได้สะดุดพบเรือออคตาเวียสเข้าโดยบังเอิญ แถวนอกชายฝรั่งกรีนแลนด์ในสภาพจับตัวเป็นน้ำแข็งไม่สามารถไปไหนได้ โดยเป็นเรือที่ออกจากประเทศอังกฤษเมื่อปี 1761 และหายสาบสูญไปถึง 13 ปี แต่ตอนนี้มันปรากฏขึ้นมาอีกครั้งต่อหน้าลูกเรือเฮราลด์ ซึ่งกัปตันและลูกเรือเฮราลด์ได้เข้าไปสำรวจ ก็พบร่างของลูกเรือนอนตายด้วยสภาพนอนห่มผ้าหนาคลุมร่างกายที่ถูกแช่แข็งเหมือนอยู่ในสภาพที่เย็นจัด นอกจากนี้ยังพบเด็กผู้หญิงที่ตายและคลุมด้วยผ้าห่มเหมือนลูกเรือเช่นกัน ส่วนกัปตันเรือตายในลักษณะนั่งคว่ำหน้าทับสมุดบันทึกเดินเรืออยู่ ในมือถือปากกาเหมือนจะเขียนอะไรบางอย่าง มีกองไม้ที่ถูกเหลาไว้แสดงให้เห็นถึงความพยายามเป็นครั้งสุดท้ายที่จะจุดไฟแต่ก็หมดหวัง
เมื่อพวกเขาอ่านบันทึกเรือก็ตกใจมาก เพราะว่าบันทึกดังกล่าวบอกว่าเรือนั้นเริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งในขณะที่เรืออยู่ตอนเหนือของอลาสก้า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.1762 แสดงให้เห็นว่าเรือนี้ที่หายสาบสูญไปนั้น ได้เดินทางอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายมานานถึง 13 ปี มันสามารถแล่นเรือได้อย่างไรในเมื่อลูกเรือทั้งลำตายหมดแล้วนอกเสียจากลูกเรือและกัปตันเป็นผี ก่อนที่เรือจะหยุดลงเพราะติดน้ำแข็งที่เกาะกรีนแลนด์ และทุกวันนี้ไม่มีใครรู้เส้นทางเดินเรือที่แท้จริงของเรือที่เผชิญโศกนาฏกรรมเลย
รวม ๆ แล้ว เรื่องราวของเรือผีสิงก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติหรือเป็นเพราะคำสาปต่างก็น่ากลัวและชวนขนหัวลุกไม่แพ้กัน ยิ่งเป็นเรือที่ทิ้งปริศนาเอาไว้มากมาย ทำให้ผู้คนต่างก็หวาดกลัวและจินตนาในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ และเรื่องรางความน่ากลัวเหล่านี้ก็ได้ถูกส่งต่อมาเป็นเรื่องเล่าและยังกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักเขียนและผู้กำกับมากมาย เชื่อว่าหากคุณได้ก้าวขึ้นเทียบท่ากับเรือผีสิงเหล่านี้แล้ว คุณอาจจะไม่ได้กลับมาอีกเลยก็เป็นไป
สามารถติดตามเรื่องราวชวนขนหัวลุกแบบนี้ได้ที่ ghostsfolder แฟ้มลับเรื่องสยองขวัญที่คุณอาจไม่เคยรู้
- “ความเชื่อ” ของการขอ “หวย” ทำไมต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์? - January 13, 2025
- คดีสยองขวัญ เมียฆ่าผัวตัดคอ ถลกหนัง ตัดหัวผัวต้ม ทำอาหารให้ลูกกิน - January 11, 2025
- เปิดแฟ้ม! รวมคดีฆาตกรรมหั่นศพแช่ตู้เย็นสยอง - January 9, 2025