รวม 5 เรื่องหลอน จาก หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ

ว่ากันว่า ในยุค 90 การศึกษาไทยได้รับการพัฒนาจากหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ หนังสือเรียน ยุค 90 ที่ใช้สำหรับนักเรียนประถมศึกษาอย่าง “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ที่ใครหลายคนต้องเคยผ่านกันมาอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่มีความสำคัญและเป็นที่จดจำในความทรงจำของผู้เรียนในยุคนั้น หนังสือชุดนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ทางวิชาการ แต่ยังแฝงด้วยคติธรรมและการปลูกฝังคุณธรรมให้กับนักเรียนด้วย แต่รู้หรือไม่ว่า หนังสือแบบเรียนมานะ มานี ปิติ ชูใจ ได้ซ่อนเรื่องราวความหลอนเอาไว้ใต้หน้ากากสื่อการเรียนการสอนเรื่องคุณธรรม

มานะ มานี ปิติ ชูใจ หนังสือเรียน ยุค 90 สุดคลาสสิค

หนังสือ “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ประกอบไปด้วยเรื่องราวของกลุ่มเด็กนักเรียนที่ประกอบไปด้วยตัวละครหลักสี่ตัว คือ มานะ มานี ปิติ และ ชูใจ ซึ่งแต่ละตัวละครมีลักษณะและนิสัยที่แตกต่างกันไป หนึ่งในจุดเด่นของหนังสือชุดนี้คือการสอดแทรกค่านิยมและคุณธรรมลงในเนื้อหาของเรื่องราว เช่น การเรียนรู้การทำงานเป็นทีม การแบ่งปันและการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ทำให้เด็กๆ ได้รับการปลูกฝังคุณธรรมต่างๆ ตั้งแต่วัยเยาว์ และยังได้สอดแทรกความเชื่อเรื่องผี และเรื่องลี้ลับที่คุณเองก็อาจจะนึกไม่ถึง

ตัวละครหลักใน หนังสือเรียน ยุค 90  “มานะ มานี ปิติ ชูใจ”

• มานะ มีชื่อจริงว่า มานะ รักเผ่าไทย เป็นพี่ชายของมานี และเลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่งชื่อเจ้าโต มานะเป็นคนที่ขยัน ตั้งใจเรียน ทำให้มีผลการเรียนดีและสามารถพึ่งพาได้ แถมยังเป็นคนเดียวในเรื่องที่สามารถไปเรียนต่อระดับมัธยมศึกษาที่กรุงเทพฯ
• มานี มีชื่อจริงว่า มานี รักเผ่าไทย เป็นเด็กที่เรียบร้อย ฉลาด อยากรู้อยากเห็น ทำให้ตอนที่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รับคัดเลือกให้เป็นรองประธานนักเรียนของโรงเรียน
• ปิติ มีชื่อจริงว่าปิติ พิทักษ์ถิ่น เป็นเพื่อนกับมานะ เขาเลี้ยงม้าไว้ 1 ตัว ชื่อเจ้าแก่ แต่ก็ตายไปตามอายุขัยของสัตว์ หลังจากนั้นปิติถูกรางวัลสลากออมสินเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท จึงนำไปซื้อลูกม้าตัวใหม่และตั้งชื่อให้ว่าเจ้านิล เพื่อทดแทนเจ้าแก่
• ชูใจ มีชื่อจริงว่า ชูใจ เลิศล้ำ เธอเป็นเพื่อนสนิทของมานี เธอเลี้ยงแมวไว้ 1 ตัว ชื่อว่าสีเทา เธออาศัยอยู่กับย่าและอาตั้งแต่ยังเล็ก ๆ โดยไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอคือใคร
• วีระ มีชื่อจริงว่า วีระ ประสงค์สุข มีพ่อเป็นทหารแต่ก็เสียชีวิตในระหว่างรบตั้งแต่วีระยังอยู่ในท้อง ส่วนแม่ของเขาก็ตรอมใจเสียชีวิตหลังจากคลอดวีระได้ 15 วัน ทำให้ต้องอาศัยอยู่กับลุงตั้งแต่เกิดและเลี้ยงลิงแสมไว้ตัวหนึ่งชื่อเจ้าจ๋อ
• เพชร เกิดในครอบครัวยากจน มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เคยพุ่งฉมวกเข้าปักงูในอุโมงค์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อน แม่ของเขาถูกงูกัดเสียชีวิต ขณะเข้าไปเก็บหน่อไม้ในป่า

5 เรื่องหลอน จาก หนังสือเรียน ยุค 90 “มานะ มานี ปิติ ชูใจ”

เพชรอยากเรียนหนังสือ (ป.3 เล่ม 1)

ถึงแม้ว่า เพชรอยากเรียนหนังสือ จะเป็นตอนที่ไม่ได้มีความหลอนของเนื้อหา เรียกได้ว่าเป็นตอนธรรมดา ไม่พิเศษเป็นเรื่องราวประจำวันของ วีระที่นั่งกินข้าวกลางวันกับมานะในโรงอาหาร ส่วนมานะกินข้าวพลางมองดูอีกาไปด้วย พอกินข้าวเสร็จวีระก็ชวนมานะไปนั่งเล่นใต้ต้นหว้าริมสนามหน้าโรงเรียน และเริ่มเล่าถึงเพื่อนใหม่ที่ชื่อเพชร โดยส่วนตัวครอบครัวของเพชรมีฐานะยากจนจึงต้องเร่ร่อนมาเรื่อย ๆ มา อีกทั้งตัวของเพชรเองก็อยากเรียนหนังสือแต่พ่อของเขาขอให้ลุงไปแจ้งขอผ่อนผันที่อำเภอก่อนเพราะบ้านอยู่ไกลโรงเรียนมาก จนวีระเสนอจะสอนหนังสือให้

สิ่งที่แฝงอยู่ในหนังสือ ไม่ใช่ความหลอนจากตัวอักษรแต่เป็นภาพประกอบที่เด็ก ๆ หลายคนมักจินตนาการระหว่างอ่านไปด้วย ซึ่งรูปที่เห็นได้ชัดเลยคือรูปที่วีระสอนหนังสือให้กับเพชรใช่วงเวลากลางคืนที่หน้าบ้าน และเป็นเรื่องปกติที่ในสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงในพื้นที่ชนบท ทำให้พื้นที่บริเวณรอบ ๆ บ้านที่มีไฟสว่างเพียงไม่กี่ดวงทำให้รับรู้ถึงความน่ากลัวได้เหมือนกัน

หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ : ต้องช่วยกัน (ป.3 เล่ม 2)

ตอน ต้องช่วยกัน เริ่มบรรยายเรื่องเล่าว่า ขณะนั้นเป็นเวลาดึกมาแล้ว บรรยากาศโดยรอบก็มืดสนิท เพราะเป็รคืนเดือนมืด บ้านละแวกแถนั้วนก็ดับไฟนอนหมด วีระและเพชรเด็กสองคนหยุดพูดก็มีแต่ความเงียบ มีเพียงเสียงจิ้งหรีดและแมลงเล็ก ๆ ร้องตามพื้นดิน นาน ๆ ทีจะมีค้างคาวบินว่อนไปมา ซึ่งในตอนนั้นวีระกับเพชรนั่งทำงานของตัวเอง พอหลังจากทำงานของตัวเองเสร็จแล้ว เพชรก็นั่งดูรูปภาพในหนังสือดูจนลืมเวลา จนวีระทักว่านี่ดึกแล้ว ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก

พอเพชรเก็บสมุดและมองออกไปรอบ ๆ จนรุ้ว่ามันมืดมาก แล้วบอกวีระว่าเขาไม่เคยเดินคนเดียวในเวลากลางคืน ส่วนวีระก็ไม่เคยเหมือนกัน สักพักก็ได้ยินเสียงหมาหอนขึ้น ทำให้เพชรและวีระคว้าข้าวของเก็บพร้อมหิ้วตะเกียงเข้าบ้าน ด้วยความกลัวผีทำให้เพชรจำเป็นต้องค้างบ้านวีระ ก่อนที่เด็กทั้งสองคนจะรีบสวดมนต์ก่อนจะได้นอนในที่สุด และบทเรียนตอนนี้ก็ได้จบลง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องหลอน ๆ ที่เด็กสมัยนี้อ่านแล้วก็รู้สึกกลัว แต่ในสมัยนั้นหนังสือแบบเรียนนี้เป็นของเด็กป. 3 เป็นเด็กที่มีอายุเพียง 9 ขวบ จะต้องรู้สึกอย่างไร ว่ากันว่าบางคนถึงกลับนอนไม่หลับ รวมไปถึงไม่กล้ามองออกไปนอกบ้านในตอนกลางคืนอีกด้วย

หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ : เจ้าโตเป็นเหตุ (ป.4 เทอม 2 บทที่ 1)

เจ้าโตเป็นเหตุ เป็นอีกเรื่องที่มีบรรยากาศชวนหลอน เป็นเรื่องของมานะกับมานี ในคืนที่แสงจันทร์สลัว สองพี่น้องได้ยินเสียงหมาหรือเจ้าโตส่งเสียงร้องแปลก ๆ เลยจู.มือกันลงจากบ้านมาดู มานีก็คอยแต่มองซ้ายขวาเพราะไม่ค่อยได้ลงจากบ้านในเวลากลางคืน ค้างคาวบินไปมา หมาก็ส่งเสียงแผ่วๆ พอทั้งสองคนเดินมาถึงที่ห้วยนา ก็มีลมพัดมาทำให้ต้นไม้ที่อยู่ในบริเวณนั้นเกิดกระทบกันจนเป็นเสียงและเกิดเงาดำ ๆ คล้ายกับผู้หญิงสยายผม แถมยังมีนกแสกบินและส่งเสียงดัง ทำให้มานีตกใจนึกสวดมนต์ในใจ มานะที่กลัวอยู่แล้วแต่พอเห็นมานีกลัว ทำใจกล้าจูงมือมานีเดินต่อไป

พอถึงมุมรั้วก็หยุดกับที่ มองเห็นอะไรบางอย่างที่เป็นก้อนสีดำเคลื่อนไหวอยู่ความมืด ทั้งคู่พยายามเพ่งมองแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร บางครั้งก็ยืดตัวสูง บางครั้งก็มีเสียงสะบัด บางทีก็กลิ้งไปต้นชมพู่และบางอย่างก็หล่นตุ้บลงมา พอขาดเสียงก้อนดำ ๆ นั่นก็กลิ้งมาหาเด็ก มานะกลัวมากแต่ก็ยังมีสติ พามานีวิ่งกลับบ้านปากก็ร้องส่งเสียงดังให้พ่อแม่ช่วย พ่อและแม่ก็วิ่งถือไฟฉายลงมาดู พอมาถึงก็กอดลูกปลอบให้หายกลัว มานะชี้มือไปที่ก้อนสีดำแล้วบอกว่าอยู่ตรงนั้น พ่อเอาไฟฉายส่องตามไปก็เห็นเจ้าโตที่หัวติดอยู่ในกระป๋องอาหาร ถึงแม้ว่าจะเฉลยความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ข้อความที่บรรยายตั้งแต่ต้นก็ทำให้เด็กในสมัยนั้นนึกภาพตามแล้วเสียวสันหลัง จนทำให้ไม่กล้าอ่านตอนกลางคืน

วัดร้างกลางป่า (ป.4 เทอม 1 บทที่ 2)

มากันที่อีกเรื่องอย่าง วัดร้างกลางป่า เป็นการผจญภัยของเด็ก ๆ ในวัดร้าง เพชรชวนมานะ มานี วีระ ปิติ ชูใจไปเที่ยวกันที่วัดร้าง ซึ่งมีบรรยากาศดูลึกลับ น่ากลัว เด็ก ๆ เลยเข้าไปสำรวจในเจดีย์ร้าง โดยใต้ฐานของเจดีย์เป็นอุโมงค์ พอลองมุดเข้าไปก็พบของข้าวของเครื่องใช้และหีบเหล็ก ซึ่งอาจเป็นสมบัติของผู้ร้ายหรือโจร เด็ก ๆ ก็เริ่มกลัวชวนกันกลับบ้านแต่ระหว่างทางได้เจองูจงอาจ เพชรเลยได้ใช้ชมวกแทงจนตายคาที่ ก่อนที่ต่างคนต่างก็วิ่งกลับบ้านและสัญญากันว่าจะไม่บอกกับพวกผู้ใหญ่รู้ แต่ในเวลาต่อมาหนังสือ ป.4 เทอม 1 ตอน ความลับก็ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้อีกครั้ง โดยควายของที่บ้านชูใจถูกขโมย ก็มีการสันนิฐานกันว่าจะเป็นคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่แถว ๆ อุโมงค์วัดร้าง ทำให้เด็ก ๆ ต้องไปบอกตำรวจเพื่อหาคนร้าย แต่ท้ายที่สุดก็หาคร้ายไม่ได้

หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ : แม่จ๋า (ป.4 เทอม 2)

แม่จ๋า เป็นบทเรียนในหนังสือที่อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องวัดร้าง แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าเกี่ยวข้องกันจริง ๆ เพราะในบทนี้ได้เล่าถึงเพชรว่า เพชรเห็นตระกร้าใบเก่าของแม่เริ่มพุพัง เลยเก็บเงินเพื่อซื้อใบใหม่ วันหนึ่งแม่ก็หิ้วตระกร้าใบใหม่ไปหาของในป่าและถูกงูพิษกัดตาย ถึงแม้ว่าหนังสือจะไม่ได้อธิบายเรื่องลี้ลับ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าที่แม่ของเขาถูกงูพิษกัดเป็นเหตุจากการที่เพชรเคยเอาชมวกแทงงูตายที่วัดร้างวันนั้น วิญญาณของงูก็อาจเป็นครอบครัวของมัน เกิดความอาฆาตแค้นจนตามมาทำร้ายเพื่อแก้แค้น ซึ่งก็สอดคล้องกับเรื่องราวที่ชาวบ้านพูดถึงงู เรื่องลี้ลับ ภูตผีปีศาจอย่างพอดิบพอดี จึงทำให้เรื่องนี้ถูกทิ้งให้เป็นปริศนาของหนังสือแบบเรียนในยุคสมัยนั้นตลอดไป

และนี่ก็คือ 5 เรื่องหลอน จาก หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ ที่เราได้หยิบยกมาให้เพื่อน ๆ ชาว Ghostsfolder ได้อ่านกัน ไหนใครทันหนังสือแบบเรียนมานะมานีกันบ้าง แล้วจำตอนไหนของหนังสือได้บ้าง บอกเลยว่าขนาดเราเองที่เรียนมาตั้งหลายปี ตอนนี้ก็นึกไม่ออกแล้วว่าแต่ละตอนมีรายละเอียดอะไรบ้าง และมีความน่ากลัวซ่อนเอาไว้จริงรึเปล่าจนได้มาเปิดอ่านเองจึงได้รู้ว่า นี่อาจจะไม่ใช่หนังสือแบบเรียนธรรมดาแล้วล่ะสิ