คดีสยองขวัญ ผัวหมอฆ่าเมียหมอ แล่เนื้อด้วยความประณีตละเมียดละไม

คดีสยองขวัญ ผัวหมอฆ่าเมียหมอ แล่เนื้อด้วยความประณีตละเมียดละไม

หัวข้อน่าสนใจ

คดีสยองขวัญ ซ่อนเร้นทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย และเหตุแห่งการตาย กับคดีสุดน่ากลัวผัวฆ่าเมีย วางแผนมาอย่างดีถึงขั้นปลอมแปลงเอกสารลางานของเมียตัวเอง และยังวางยาเมียตัวเองที่ร้านอาหารก่อนลงมือกระทำอีกด้วย

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 ด้าน นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ว่า พญ.ผัสพร ผู้เป็นภรรยาได้หายตัวไป

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบพบว่า ก่อนที่ พญ.ผัสพร จะหายตัวไปนั้น มี นพ.วิสุทธิ์ ซึ่งเป็นผู้แจ้งความพา พญ.ผัสพร ไปรับประทานอาหารที่ร้านโออิชิ ในศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ขณะ นพ.วิสุทธิ์ เข้าประคองร่าง พญ.ผัสพร ออกจากร้านไป หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเจอกับ พญ.ผัสพร อีกเลย

ทางด้าน นพ.วิสุทธิ์ เขาได้ใช้ยานอนหลับผสมในอาหาร และเครื่องดื่มหาทางภรรยากิน จนเกิดอาการง่วงนอน มึนงง จึงได้ประคองภรรยาออกจากร้านอาหารท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แต่ไม่ได้มีใครได้ทันสังเกตุหรือนึกคิดว่า พญ.ผัสพร จะถูกวางยา และนึกไม่ถึงว่า นพ.วิสุทธิ์ จะกระทำเช่นนี้ในร้านอาหารได้

พญ.ผัสพร ผู้เป็นภรรยา
พญ.ผัสพร ผู้เป็นภรรยา
นพ.วิสุทธิ์ ได้กักขังหน่วงเหนี่ยว พญ.ผัสพร ไว้ที่ห้องพักเลขที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นพ.วิสุทธิ์ ได้กักขังหน่วงเหนี่ยว พญ.ผัสพร ไว้ที่ห้องพักเลขที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. ในวันเดียวกัน นพ.วิสุทธิ์ เดินทางไปรับลูกสาวที่เรียนอยู่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ กลับไปส่งบ้านพักย่านลาดพร้าว ก่อนจะไปซื้อถุงขยะขนาดใหญ่จำนวน 3 ห่อ พร้อมก้อนดับกลิ่น และกระดาษชำระที่ห้างโรบินสัน สาขาสีลม

ซึ่งทาง นพ.วิสุทธิ์ ได้กักขังหน่วงเหนี่ยว พญ.ผัสพร ไว้ที่ห้องพักเลขที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะใช้ของแข็งมีคมเป็นอาวุธทำการประทุษร้ายร่างกาย พญ.ผัสพร จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และใช้มีดผ่าตัดแล่ชิ้นเนื้อ และอวัยวะต่างๆ กับศพภรรยาตัวเอง ก่อนนำไปทำลายศพหรือชิ้นส่วนของศพ ขณะเดียวกัน ได้เปิดห้องพักเลขที่ 1631 โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซา เพื่อยักย้ายซ่อนเร้นศพ นำชิ้นเนื้อ เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของศพไปลอบฝัง ลอบทิ้งในสถานที่ต่างๆ อันเป็นการซ่อนเร้นทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายและเหตุแห่งการตาย

หมอวิสุทธิ์ได้ปลอมหนังสือขอลางานของ พญ.ผัสพร เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเอกสารปลอม
หมอวิสุทธิ์ได้ปลอมหนังสือขอลางานของ พญ.ผัสพร เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเอกสารปลอม

ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2544 หมอวิสุทธิ์ได้ปลอมหนังสือขอลางานของ พญ.ผัสพร เพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเอกสารปลอมดังกล่าว พญ.ผัสพร ได้ทำขึ้นจริง และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของบุคคลที่ใกล้ชิด พญ.ผัสพร ให้หลงเชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ แต่ที่ไม่ได้พบเห็น เพราะผู้ตายไปประกอบศาสนกิจปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ฝึกจิตใจ

ภายหลังข่าวการหายตัวของ พญ.ผัสพรถูกเปิดเผยขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสืบสวน จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นในห้องพักที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ พบคราบโลหิตที่ผ้าม่านและพบชิ้นเนื้อในบ่อพักสิ่งปฏิกูลหนัก 330 กรัม และสืบทราบว่าจำเลยได้เปิดห้องที่โรงแรมโซฟิเทล ก่อนเข้าตรวจค้นพบชิ้นเนื้อมนุษย์ในบ่อพักสิ่งปฏิกูล จากการชันสูตรชิ้นเนื้อของเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวชที่อาคารวิทยนิเวศน์ พบว่าเป็นชิ้นเนื้อบริเวณลำตัว เป็นเศษของกะบังลม ผนังลำไส้ พังผืดไขมัน และยังพบชิ้นส่วนบริเวณต้นขาและแขน หนักประมาณ 3,330 กรัม ซึ่งชิ้นเนื้อดังกล่าวถูกแล่ด้วยของมีคมลักษณะประณีต เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 สัปดาห์ ใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่ผู้ตายหายตัวไป จึงเชื่อว่าเป็นเนื้อจากศพผู้ตาย ที่เกิดจากการฆาตกรรมอำพราง

ตรวจค้นพบชิ้นเนื้อมนุษย์ในบ่อพักสิ่งปฏิกูล
ตรวจค้นพบชิ้นเนื้อมนุษย์ในบ่อพักสิ่งปฏิกูล
พบพิรุธในจดหมายลางาน เนื่องจาก พญ.ผัสพร ไม่ชอบพิมพ์ดีดหรือใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
พบพิรุธในจดหมายลางาน เนื่องจาก พญ.ผัสพร ไม่ชอบพิมพ์ดีดหรือใช้เครื่องคอมพิวเตอร์

ยังพบพิรุธในจดหมายลางาน เนื่องจาก พญ.ผัสพร ไม่ชอบพิมพ์ดีดหรือใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ และได้รับคำยืนยันจากเจ้าหน้าที่รับพิมพ์งานในย่านดังกล่าว ระบุว่าหมอวิสุทธิ์ได้ว่าจ้างให้พิมพ์จดหมายและจ่าหน้าซองจดหมายรวม 2 ฉบับ ฉบับแรกส่งให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรฉัตรไชยากร อีกฉบับส่งให้บุตร โดยลงชื่อว่า พญ.ผัสพร

วันที่ 7 ตุลาคม 2546 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นพ.วิสุทธิ์ โดยให้เหตุผลว่า “จำเลยเป็นผู้มีความรู้ความสามารถสูงย่อมจะใช้สติยั้งคิดในการแก้ปัญหาโดยไม่ใช้วิธีดังกล่าว และเมื่อจำเลยถูกจับกุมก็ยังไม่สำนึกผิด ให้การปฏิเสธต่อสู้คดีตลอดมา จึงไม่มีเหตุที่ศาลจะต้องปรานี เห็นควรลงโทษสถานหนัก พิพากษาประหารชีวิตจำเลยสถานเดียว”

นพ.วิสุทธิ์ ได้รับการอภัยโทษหลายครั้ง เนื่องจากปฏิบัติตัวดี
นพ.วิสุทธิ์ ได้รับการอภัยโทษหลายครั้ง เนื่องจากปฏิบัติตัวดี

ชีวิตในเรือนจำ นพ.วิสุทธิ์ ได้รับการอภัยโทษหลายครั้ง เนื่องจากปฏิบัติตัวดี เคยได้ทำเรื่องถึงกรมราชทัณฑ์ขอพักโทษ คณะกรรมการพิจารณาได้อนุมัติให้ นพ.วิสุทธิ์ พักโทษได้ ถูกจำคุกเป็นระยะเวลา 10 ปี 9 เดือน

พบกับความสยองสุดหลอนได้ที่ทาง ghostsfolder