Tokyo Rose เป็นชื่อที่ปรากฏครั้งแรกในหนังสือพิมพ์สหรัฐปี 1943 ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับสงครามโลกครั้งที่ 2 การปะทุกันระหว่างฝ่าย “สัมพันธมิตร” และ “ฝ่ายอักษะ” ที่ยังไม่มีใครคาดเดาจุดจบได้ ในตอนนั้นเอง สถานการณ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาในเอเชียแปซิฟิกยังไม่ค่อยสู้ดีนัก เมื่อจักรพรรดิญี่ปุ่นเริ่มยึดครองหลายพื้นที่ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ทหารชาวอเมริกันที่ถูกส่งไปประจำการที่แถบภูมิภาคนั้น ต้องเผชิญทั้งภัยสงคราม การอดอยาก อีกทั้ง ยังต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่สร้างความรู้สึกหวาดผวาในแต่ละวันอย่างแนบเนียน ผ่านเสียงตามสายในรายการที่เรียกว่า Tokyo Rose
การใช้สงครามจิตวิทยาผ่านเสียงหญิงสาวปริศนา Tokyo Rose
คำว่า Tokyo Rose โด่งดังในระหว่างปี 1943 – 1945 ทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น ชื่อของ “โตเกียว โรส” ไม่ได้เป็นชื่อจำเพาะเจาะจงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากแต่เป็นคำที่ใช้เรียกเสียงของพิธีกรหญิงชาวญี่ปุ่น ที่พูดเล่าข่าวสารในรายการ Zero Hour ( พูดง่าย ๆ ก็ประมาณดีเจในยุคนี้นั่นแหละ )
รายการ Zero Hour เป็นรายการเพื่อความบันเทิงที่ถูกเผยแพร่แก่ทหารอเมริกันที่ประจำการอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การออกอากาศจะใช้พิธีกรผู้หญิงชาวญี่ปุ่นที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีเล่าข่าว ในรายการจะเป็นการเปิดเพลงยอดนิยมของอเมริกา เล่าข่าวสารรายวันทั่วไป ฟังดูเหมือนจะคล้ายกับรายการวิทยุปกติทั่วไปใช่ไหมล่ะ แต่ความจริงแล้ว เนื้อหาที่ดูเหมือนเป็นพื้นที่จรรโลงใจของเหล่าทหาร กลับซ่อนด้วยอาวุธร้ายที่คอยกัดกินสภาพจิตใจของพวกเขาในแต่ละวัน
เนื้อหาของรายการมักจะสอดแทรกข่าวเกี่ยวกับความโหดร้ายของสงคราม เช่น ความอดอยาก การสูญเสียกำลังพลของฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะเดียวกัน ก็แทรกด้วยเนื้อหาเชิงสนับสนุนจักรพรรดิญี่ปุ่นอย่างแนบเนียน การเล่าข่าวจะดำเนินการผ่านเสียงของพิธีกรหญิงชาวญี่ปุ่นที่เล่าข่าวเป็นภาษาอังกฤษ ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรเรียกเสียงของหญิงสาวเหล่านั้นว่า Tokyo Rose
จุดประสงค์ที่แท้จริงก็เพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้แก่กองทัพญี่ปุ่นผ่านโฆษณาชวนเชื่อ แต่ในขณะเดียวกัน ก็บ่อนทำลายขวัญกำลังใจทหารฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยสงครามจิตวิทยา ทุกคนลองนึกภาพตาม สมมติมีคนมาพูดกรอกหูเราทุกวัน ว่าวันนี้ศัตรูได้รับชัยชนะอะไรบ้าง จักรพรรดิญี่ปุ่นดียังไง แต่ในทางตรงกันข้าม ต้องมารับรู้ว่า ฝ่ายเราวันนี้สูญเสียคนไปเท่าไหร่ คงเป็นการบั่นทอนกำลังใจน่าดู
อิวา โทงุริ หนึ่งในเจ้าของเสียงปริศนาโด่งดังในสงครามโลกครั้งที่ 2
อิวา โทงุริ เป็นบุคคลที่โด่งดังในฐานะ Tokyo Rose ตัวเธอหญิงสาวชาวญี่ปุ่นที่เกิดและเติบโตในสหรัฐ มีฐานะเป็นพลเมืองชาวอเมริกันอย่างสมบูรณ์ เธอใช้ทั้งชีวิตในสหรัฐอเมริกา แทบไม่เคยไปเหยียบดินแดนปลาดิบเลย ในปี 1941 คุณป้าของเธอที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นเกิดล้มป่วย เธอบินไปเยี่ยมคุณป้า ซึ่งในตอนนั้น ญี่ปุ่นทิ้งระเบิดโจมตีเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ส่งผลให้สหรัฐอเมริกาประกาศเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มตัว
ในตอนนั้นเอง สหรัฐประกาศปิดสนามบิน งดเที่ยวบินไปยังญี่ปุ่น และญี่ปุ่น-สหรัฐ ทำให้ตอนนั้น อิวา โทงุริ ต้องติดอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นอีกกว่า 10,000 คน การใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นท่ามกลางสงครามเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เธอยังคงต้องใช้เงินในการดำรงชีวิต ยิ่งในยุคข้าวยากหมากแพง ค่าอาหารและค่าที่พักก็ยิ่งสูง
ในปี 1943 เธอตัดสินใจไปสมัครเป็นพนักงานพิมพ์ดีดที่ Radio Tokyo (NHK ในยุคนี้) เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพขณะอาศัยในญี่ปุ่น แต่ด้วยความที่เธอสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เธอถูกบังคับให้ทำหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ Zero Hour รายการบันเทิงเพื่อทหารสหรัฐ ซึ่งจะออกอากาศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกจักรพรรดิญี่ปุ่นมีอิทธิพล เช่น กรุงโตเกียว กรุงมะนิลา เซี่ยงไฮ้ แปซิฟิกใต้ รวมถึงอเมริกาเหนือ ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ 100%
โทงุริ ไม่ได้ใช้ชื่อจริงของตัวเองพูดในรายการ และ ไม่ได้ใช้คำว่า Tokyo Rose แต่เธอเรียกแทนตัวเองว่า Orphan Ann หรือ “แอนน์” ตามคำสั่งของรัฐบาลญี่ปุ่น โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของทหารสหรัฐที่ประจำการในภูมิภาคเหล่านั้น อีกทั้ง ยังมีเนื้อหาเชิงสนับสนุนจักรพรรดิญี่ปุ่นอย่างแนบเนียน แทรกไปกับการเปิดเพลงยอดนิยมของอเมริกา ซึ่งอย่างหลังเป็นสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกของโทงุริมาก เพราะตัวเธอมีความรู้สึกเป็นพลเมืองสหรัฐมากกว่าญี่ปุ่นเสียอีก
โทงุริ กลายเป็นแพะรับบาปในคดีกบฏแห่งสงคราม
หลังจากความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในปี 1945 โทงุริ ถูกทหารอเมริกันจับกุมตัว และ ถูกส่งกลับอเมริกาเพื่อพิจารณาคดีในฐานะกบฎ เธอถูกกองทัพสอบสวนในฐานะคนทรยศ ก่อกบฏโดยการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อ มีโทษจำคุก 1 ปี แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอ จึงถูกปล่อยตัว
เรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่ไปทั่วอเมริกา ทำให้ในปี 1948 วอลเตอร์ วินเชลล์ เรียกร้องให้ส่งตัวเธอกลับมาพิจารณาคดีอีกครั้ง การตัดสินคดีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 1949 คณะลูกขุนตัดสินว่าเธอมีความผิด ต้องโทษจำคุก 10 ปี โทงุริ จึงกลายเป็นแพะรับบาปในสงครามนี้ไปโดยปริยาย ทั้งที่ความจริงแล้ว เธอไม่ได้เต็มใจที่จะทำตามคำสั่งของญี่ปุ่นก็ตาม
แต่ท้ายสุด เธอก็ได้รับอภัยโทษในปี 1976 โดยประธานาธิบดีเจอร์รัล ฟอร์ด เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นตำนาน 1 ในหญิงสาว โตเกียว โรส ที่โลกไม่เคยลืม
สงครามจิตวิทยาผ่านเสียง Tokyo Rose ได้ผลจริงหรือ
กลยุทธ์เชิงจิตวิทยาที่ญี่ปุ่นใช้โจมตีฝ่ายสัมพันธมิตร ผ่านเสียงของกลุ่มหญิงสาวที่พวกเขาเรียกว่า Tokyo Rose ถามว่ามันได้ผลจริงหรือ ?
ในปี 1968 มีการทดสอบผู้ชายที่เคยเป็นทหารไปประจำการในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ และเคยได้ฟังรายการ The Zero Hour จำนวน 94 คน ผลออกมาคือ ผู้ชายกว่า 89% รับรู้ได้ว่า มันคือโฆษณาชวนเชื่อ ส่วนอีก 10% เผยว่า พวกเขารู้สึกเสียขวัญกำลังใจ เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาวเหล่านั้น
จริง ๆ ประเด็นนี้ เป็นอะไรที่พิสูจน์ได้ง่าย และตรงไปตรงมามาก เราลองคิดตาม ถ้าตัวเองอยู่ในภาวะสงคราม การได้ยินคำยกย่อง ชัยชนะ และความสำเร็จของฝ่ายตัวเอง แน่นอนว่า คนเราก็จะรู้สึกฮึกเหิม มีกำลังใจ แต่ถ้าเราต้องมานั่งฟังเรื่องราวข่าวการสูญเสียกำลังพลฝั่งตัวเองในแต่ละวัน ข่าวความโหดร้ายของสงครามที่กรอกหูเช้า กลางวัน เย็น คงรู้สึกเสียขวัญกำลังใจไม่น้อย นั่นแหละ คือความสำเร็จของกองทัพญี่ปุ่นที่ใช้เป็นกลยุทธ์ในสงคราม
Tokyo Rose ตำนานโด่งดังสมัยสงครามที่โลกลืม
เรื่องราวเกี่ยวกับ โตเกียว โรส เป็นที่รู้จักกันดี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มันปรากฏครั้งแรกในหนังสือพิมพ์สหรัฐในปี 1943 และชื่อของ อิวา โทงุริ หนึ่งในหญิงสาวชาวญี่ปุ่น สัญชาติอเมริกันถูกเผยแพร่ทั่วสหรัฐเมื่อปี 1945 หลังชัยชนะของอเมริกา เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นบกฎที่ทรยศต่อสหรัฐ จนถูกต้องโทษอย่างไม่ยุติธรรม ถึงขั้นเรียกได้ว่า เธอกลายเป็นแพะรับบาปของสงครามไปอย่างปฏิเสธไม่ได้
Tokyo Rose จึงกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งความชั่วร้ายของญี่ปุ่นที่มีต่อสหรัฐ” ด้วยกลยุทธ์การใช้สงครามจิตวิทยา โดยมีจุดประสงค์ทำลายขวัญกำลังใจฝ่ายตรงข้าม ในขณะเดียวกัน ก็ยกย่องจักรพรรดิญี่ปุ่นอย่างแนบเนียน เรียกได้ว่า กลายเป็นอีกตำนานในยุคสงคราม ที่เราอาจไม่เคยเห็นในวิชาประวัติศาสตร์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และมันใช้งานได้ผลจริง
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ ghostsfolder