ฆ่าข่มขืน

‘หยาง ซินไห่’ ฆาตกรต่อเนื่องคดีฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า

หัวข้อน่าสนใจ

ฆ่าข่มขืน เป็นคดีที่สะท้อนความคิดและมุมมองของตัวฆาตกรได้เป็นอย่างดี แต่ไม่ใช่ชายคนนี้ หยาง ซินไห่ ที่ก่อเหตุฆาตกรรมยกครัวและฆ่าข่มขืนถึง 67 ศพ ต้องไล่ล่าตามหาฆาตกรนาน 3 ปี ด้วยบุคลิกนิสัยที่ชอบร่อนเร่ไปตามที่ต่าง ๆ ถูกสื่อตั้งฉายาให้ว่า “ปีศาจนักฆ่า” ที่ชอบแอบเข้าไปตามบ้านในชนบท ฆ่าทุกคนในบ้านด้วยขวาน ค้อน หรือพลั่วตักดิน และจำนวนเหยื่อมากที่สุดในการสังหาร 1 ครั้งคือ 5 ราย วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักอีกมุมมองจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่า เขาเป็นใคร?

‘หยาง ซินไห่' ฆาตกรต่อเนื่องคดีฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า
‘หยาง ซินไห่’ ฆาตกรต่อเนื่องคดีฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า

ประวัติ ‘หยาง ซินไห่’ ฆาตกรฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า

หยาง ซินไห่ (Yáng Xīnhǎi) เกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ค.ศ. 1968 เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์จีน หยางนั้นแต่เกิดเป็นชายร่างเล็กเตี้ย ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่ฉลาด แต่ค่อนข้างเก็บตัว เกิดในครอบครัวเกษตรกรที่ยากจนมากในตำบลเจิ้งยาง เมืองจู้หม่าเตี้ยน มณฑลเหอหนานของจีน เป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่น้องสี่คน

นอกจากนี้ยังหลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายเขาก็ได้ออกจากโรงเรียนและเดินทางร่อนเร่ไปในมณฑลซานซี  ส่านชี และเหอเป่ย โดยประกอบอาชีพรับจ้างเป็นคนงานก่อสร้างและทำงานในเหมืองแร่

‘หยาง ซินไห่’ ฆาตกรฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า
‘หยาง ซินไห่’ ฆาตกรฆ่าข่มขืนไม่เลือกหน้า

ภายหลังครอบครัวหรือญาติของเขาที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเพนซิลเวเนีย มักอ้างว่าเขานั้นหมกมุ่นอยู่กับวลีที่เขารู้กันว่าพูดถึง “Plato Flats” ซึ่งเป็นสถานที่สมมุติที่เขาสร้างขึ้นสำหรับเรื่องราวการฆาตกรรมที่เขาเริ่มเขียน บ่อยครั้งที่มีการพรรณนาถึงแนวคิดที่เขามีต่อเรื่องราวและภาพยนตร์ที่เขาต้องการจะสร้าง

เริ่มต้นการเข้าสู่ด้านมืดก่ออาชญากรรมฆ่าข่มขืนหลังแฟนสาวบอกเลิก

ก่อนที่หยางจะตกเป็น ชื่อดังทั่วประเทศจีน เขาเคยก่อคดีมากมายไม่ว่าจะเป็น ลักทรัพย์และข่มขืน โดยก็ได้รับการปล่อยตัวในปี ค.ศ. 1999 แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือแฟนสาวที่เขากำลังคบหาอยู่ด้วยนั้นบอกเลิก ส่งผลให้หยางพัฒนาทัศนคติที่อาฆาตแค้นต่อสังคมและก่ออาชญากรรม อาทิเช่น ฆ่าข่มขืนมากมายเพื่อระบายความแค้นของเขาที่มีต่อแฟนสาว โดยรายงานของทางการฉบับได้มีการหนึ่งระบุ วิธีการของเขานั้น “โหดร้ายมาก” เพราะเขามักจะไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปเพื่อเป็นพยานในการก่อคดีของเขา

ในการสืบสวนสอบสวนและพิจารณาคดีฆ่าข่มขืนของนายหยาง

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 เขาได้ถูกจับกุมตัว โดยมีคำให้สารภาพที่ชี้ชัดเลยว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดและการกระทำทั้งหมดนี้เป็นการตอบโต้สังคมที่สิ้นหวัง หยางจะออกล่าเหยื่อหรือหาเหยื่อในตอนกลางคืนและจัดการกับที่เกิดเหตุก่อนที่เขาจะหลบหนีไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละครั้งเขาสวมเสื้อผ้าและรองเท้าใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าของตัวเองเสมอ

วันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 เขาได้ถูกจับกุมตัว
วันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 2003 เขาได้ถูกจับกุมตัว

“เมื่อผมได้ฆ่าคนแล้ว ผมมีความปรารถนามากขึ้น สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันฆ่ามากขึ้น ผมไม่สนใจว่าพวกเขาจะสมควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะผมไม่ได้กังวลอะไร คำสารภาพจากนายหยาง ฆาตกรต่อเนื่องคดีฆ่าข่มขืน “ผมไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสังคมไม่ใช่ปัญหาของผม” ซึ่งระหว่างการสอบสวนผู้ต้องหา มีรายงานข่าวระบุว่าเขามีสภาพจิตใจไม่สมดุล เพราะเขาจะเริ่มเดินเตร่ไปเรื่อยภายในห้องและตะโกนหลังจากสนทนาไม่กี่วินาที

“เมื่อผมได้ฆ่าคนแล้ว ผมมีความปรารถนามากขึ้น สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันฆ่ามากขึ้น ผมไม่สนใจว่าพวกเขาจะสมควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะผมไม่ได้กังวลอะไร”
“เมื่อผมได้ฆ่าคนแล้ว ผมมีความปรารถนามากขึ้น สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันฆ่ามากขึ้น ผมไม่สนใจว่าพวกเขาจะสมควรมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะผมไม่ได้กังวลอะไร”

หลังจากนั้นได้มีการพิจารณคดีเพิ่มเติมยาวนานมาจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 อีกทั้งยังไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคำตัดสินนี้ เพราะยอมรับเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือเขาเอง ต่อมาไม่กี่วัน ‘หยาง ซินไห่’ วัย 35 ปี หนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่เลวร้ายที่สุดของจีน ชายผู้สังหารคน 67 คนและข่มขืนผู้หญิง 22 คนในคดีอาชญากรรมที่ก่อความวุ่นวายนานเกือบ 4 ปี ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 ในมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของจีน

ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004
ถูกตัดสินให้ประหารชีวิตในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004

จุดจบฆาตกรต่อเนื่องคดีฆ่าข่มขืน ชื่อดังของประเทศจีนอย่าง ‘หยาง ซินไห่’ นั้นก็ปิดตัวลง และสร้างความหวาดกลัวต่อสังคมเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่รู้ว่าเขาเก็บงำความรู้สึกแก้แค้นต่อสังคมและความเกลียดชังที่มีต่อเพศหญิงมาไวมากถึงเพียงนี้ ยิ่งไปกว่านั้น วิธีกาสังหารเหยื่อของเขายังโหดร้ายเพราะเขาไม่ทิ้งผู้รอดชีวิต และมีมากกว่า 2 – 3 ครอบครัว ต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของเขาเอง

.

สามารถติดตามอ่านบทความคดีฆาตกรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ แฟ้มลับเรื่องสยองขวัญที่คุณอาจไม่เคยรู้