Andrew Gosden เวลานึกถึงคดีคนหาย หลายครั้งเรามักจะนึกถึงประเทศที่อาชญากรรมติดอันดับต้น ๆ ของโลก ประเทศโลกที่ 3 ที่ห่างไกลความเจริญ แต่ในความจริงเราไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เรื่องแบบนี้สามารถเกิดได้ทุกประเทศทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่ดูเจริญทั้งทางเทคโนโลยี สังคม และวัฒนธรรม หนึ่งในนั้นคือประเทศอังกฤษ
ในปี 2015-16 มีรายงานจาก MPU ว่ามีผู้สูญหายกว่า 135,000 คนในอังกฤษและเวลส์ แต่ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือกว่า 50% คือคดีเด็กหาย ซึ่งถ้าพูดถึงคดีเด็กหายในอังกฤษ หนึ่งในดคีที่เป็นข่าวโด่งดังคือคดีของ “แอนดรูว์ กอสเดน” เด็กชายผู้ถูกพบว่าขึ้นรถไฟไปลอนดอน และเขาไม่ได้กลับมาอีกเลย และนี่คือเรื่องราวที่ ghostsfolder จะมาเล่าให้ฟังในวันนี้
การหายตัวปริศนาของ Andrew Gosden เด็กชายผู้ขึ้นรถไฟขบวนสุดท้าย แล้วไม่กลับมาอีกเลย
แอนดรูว์ กอสเดน เด็กชายวัย 14 ปีจากโรงเรียนมัธยมคาทอลิกแมคออลีย์ เมือง Doncaster, South Yorkshire ประเทศอังกฤษ ครอบครัวของเขาเป็นคริสเตียนนิกายแองกลิกันที่เคร่งครัด แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้บังคับลูก ๆ ในเรื่องศาสนา พวกเขาไม่แม้แต่กระทั่งทำพิธีบัพติศมาให้แก่ลูกชายกับลูกสาวด้วยซ้ำ
ชีวิตในโรงเรียนของกอสเดนดูเหมือนว่าจะไปได้สวย เขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ในการด้านเรียน มีผลการเรียนดีเยี่ยม และมีสถิติการเข้าเรียน 100% เรียกได้ว่า ในด้านการเรียนของเขาเต็มร้อย ไม่เคยขาดเรียน ไม่เคยโดดเรียน แม้กระทั่งด้านสังคม แม้พ่อของเขาจะบอกว่ากอสเดนชอบการอยู่คนเดียว เป็นเด็กติดบ้าน แต่เขาก็มีสังคมกลุ่มเพื่อนของเขาเอง ไม่เคยมีประวัติถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน
ช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงปิดเทอมหน้าร้อน พ่อแม่บอกให้เขานั่งรถไฟไปพักกับคุณย่าในลอนดอน แต่กอสเดนก็ปฏิเสธที่จะไป แต่เมื่อเปิดภาคเรียนแรกได้เพียง 8 วัน เขากลับนั่งรถไฟไปยังลอนดอนคนเดียว จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าเขานั่งไปหาใคร
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2007 เวลา 08:05 น. Andrew Gosden ออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียนเฉกเช่นทุกวัน เขาเดินข้ามสวนสาธารณะ Westfield เพื่อไปขึ้นรถประจำทางเหมือนทุกเช้า กล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า เมื่อรถพ่อกับแม่ขับออกจากบ้าน เขากลับเปลี่ยนเส้นทางไปตู้ ATM แล้วกดถอนเงินจำนวน 200 ปอนด์ ก่อนที่จะเดินกลับบ้านตัวเอง
ทันทีที่กอสเดนกลับถึงบ้าน เขาถอดชุดเครื่องแบบนักเรียนใส่ลงในเครื่องซักผ้า แล้ววางเสื้อเบลเซอร์ไว้บนพนักพิงเก้าอี้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสกรีนลาย Slipknok สีดำ ซึ่งเป็นชื่อวงดนตรีเมทัลวงโปรด สวมกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบ สวมนาฬิกาข้อมือข้างซ้าย และสะพายกระเป๋าผ้าใบสีดำที่มีป้ายวงดนตรีร็อคและเมทัล และนั่นคือครั้งสุดท้ายหลังจากเขาเดินออกจากบ้านหลังนี้
หลักฐานมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่เห็นเขาเดินตามถนน Liitlemoor มุ่งหน้าไปยังสวนสาธารณะ Westfield และหลักฐานสุดท้ายมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณทางออกของสถานีรถไฟ King’s Croos เวลา 11:20 น. ปรากฏภาพเด็กชายอายุประมาณ 14 ปี สวมแว่นสายตา ผมสีน้ำตาลอ่อน และต่างกายด้วยเสื้อยืด Slipknot สีดำ และนี่คือภาพสุดท้ายของเขา
คำให้การของผู้ที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่ แอนดรูว์ กอสเดน จะหายตัวไป
ครอบครัวกอสเดนมีสมาชิก 4 คน ประกอบด้วย เควิน เกลนิส และชาร์ลอตต์ น้องสาวของ Andrew Gosden พวกเขาอ้างว่า วันเกิดเหตุคือวันศุกร์ที่ 14 กันยายน 2007 พวกเขากำลังจะเตรียมทานอาหารเย็นตามปกติ ในตอนนั้นชาร์ลอตต์กำลังใช้งานแล็ปท็อปเครื่องใหม่ของเธอ ส่วนแอนดรูว์คาดว่าน่าจะกำลังเล่นเกมอยู่ในห้องชั้นใต้ดินของบ้านเหมือนที่เขาทำเป็นประจำหลังเลิกเรียน แต่พอตะโกนเรียกเพื่อให้มาทานอาหารเย็น ปรากฏว่าไม่พบว่าแอนดรูว์อยู่ในบ้าน มีเพียงเสื้อผ้ายูนิฟอร์มที่เขาโยนไว้ในเครื่องซักผ้า และบางส่วนพาดพิงไว้บนพนักเก้าอี้เมื่อช่วงเช้า ทีแรกพวกเขาคิดว่า ลูกชายคงไปเล่นบ้านเพื่อนใกล้ ๆ แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้นเลย พวกเขาเริ่มตระหนักรู้ได้ว่า แอนดรูว์ กอสเดน ได้หายตัวไปจากบ้านแล้ว
ทางครอบครัวได้แจ้งตำรวจ และออกตามหาตัวแอนดรูว์ทั้งในบริเวณท้องที่ รวมถึงนอกเส้นทางไปโรงเรียน หลักฐานที่พบมีเพียงภาพาจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่จับภาพแอนดรูว์ได้ครั้งสุดท้ายว่าเขากำลังเดินไปตามถนน Liitlemoor ไปยังสวนสาธารณะ Westfield และจุดหมายปลายทางคือสถานีรถไฟ Doncaster
คำให้การของเจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถไฟ
เจ้าหน้าที่ขายตั๋วรถไฟ ณ สถานี Doncaster เป็นหนึ่งในพยานเพียงไม่กี่คนที่พบเห็นกอสเดนเป็นครั้งสุดท้าย สิ่งที่ทำให้เธอจำเขาได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากเช้าวันที่ 14 กันยายน 2007 Andrew Gosden ได้มาซื้อตั๋วรถไฟไปลงสถานี King’s Croos แบบเที่ยวเดียว ทั้งที่ตั๋วแบบไป-กลับราคาต่างกันเพียง 50 เพนนีเท่านั้นเอง แม้พนักงานจะเสนออย่างไร กอสเดนก็ยืนกรานที่จะซื้อตั๋วเที่ยวเดียวในราคา 31.40 ปอนด์
อีกหนึ่งพยานปากเอกคือผู้หญิงรายหนึ่งที่อ้างว่า เธอเป็นคนที่นั่งข้างกอสเดนในเช้าวันนั้น เธอให้การว่า เด็กชายดูเงียบขรึม สายตากำลังจับจ้องอยู่แต่วิดีโอเกม
การสืบสวนเบื้องต้น
ภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากที่ครอบครัวรู้ทราบว่าแอนดรูว์หายตัวไป พวกเขาเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจเซาท์ยอร์กเซอร์ ในขณะเดียวกันก็ออกตระเวนแจกใบปลิวเด็กหายในบริเวณท้องที่ก่อน พวกเขาออกค้นหาตั้งแต่เส้นทางจากโรงเรียนมาบ้านจนถึงพลบค่ำ แต่ก็ไม่พบร่องรอยของกอสเดนเลยแม้แต่น้อย ตำรวจเร่งค้นหาบริเวณพุ่มไม้รอบพื้นที่ ก็ไม่พบร่องรอยใด ๆ เช่นกัน
3 วันหลังการหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน จึงทราบว่ากอสเดนเดินทางไปยังสถานีรถไฟ Doncaster ตำรวจได้เบาะแสจากเจ้าหน้าที่ขายตั๋ว จึงทราบว่าเด็กชายซื้อตั๋วเที่ยวเดียวไปลอนดอนเพียงลำพัง แต่เหตุผลที่กอสเดนเลือกซื้อตั๋วเที่ยวเดียว ไม่ทำให้พ่อแม่เขาแปลกใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากพวกเขาอ้างว่า ครอบครัวเรามีญาตอยู่ลอนดอนเยอะ
ดังนั้น การค้นหาในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเซาท์ยอร์กเซอร์จึงมุ่งค้นหาในพื้นที่ Chislehurst และ Sidcup ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ญาติพี่น้องอาศัยอยู่ แต่ก็ไม่พบเบาะแสว่า Andrew Gosden มาพบญาติคนใด
การค้นหากินเวลาหลายวัน ก็ยังไม่พบร่องรอยของเด็กชาย ครอบครัวเริ่มแจกใบปลิวที่ลอนดอน พวกเขามุ่งไปยังพิพิธภัณฑ์และพื้นที่จัดนิทรรศการ ซึ่งเป็นบริเวณที่คาดว่ากอสเดนน่าจะเดินทางไปเมื่อมาถึงลอนดอน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมมือกับตำรวจขนส่งอังกฤษ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในครั้งแรกทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลจากฝูงชนได้ แต่ในการตรวจสอบครั้งที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่พบภาพของแอนดรูว์ กอสเดนชัดเจน เขาเดินออกจากโถงทางเดินหลักของสถานี King’s Croos
การสืบสวนครั้งที่ 2
การสืบสวนครั้งแรกมีเพียงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโถงทางออกของสถานี King’s Croos อย่างเดียวเท่านั้นที่พอเป็นหลักฐานได้ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะหาเบาะแสต่อได้ว่ากอสเดนเดินทางไปไหน หรือเดินทางไปพบกับใครที่ไหนต่อ
การสืบสวนครั้งที่ 2 ทางตำรวจท้องที่เริ่มตรวจสอบข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของเขา นักสืบส่งหมายเลขซีเรียลเฉพาะของ PSP ไปยังสำนักงานใหญ่ของ Sony พบว่า ไม่มีการบันทึกการตั้งค่าบัญชีหรือการติดต่อสื่อสารใด ๆ บนอุปกรณ์ แม้แต่การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ก็ไม่พบร่องรอยกิจกรรมใด ๆ
น้องสาวของเขาให้การว่า ดูเหมือนพี่ชายจะไม่ค่อยสนใจโซเชียลมีเดีย ไม่ค่อยมีการติดต่อกับผู้คนบนโลกออนไลน์ และดูเหมือนเขาไม่ค่อยเข้าสังคม ในขณะที่พ่อของเขาตั้งข้อสันนิษฐานว่า หรือลูกชายจะนัดเจอคนรู้จักบนโลกออนไลน์
หลังจากการหายตัวไปเป็นเวลาหลายวัน ไม่พบแม้แต่ความเคลื่อนไหวใด ๆ ทางครอบครัวเริ่มตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับการเดินทางไปลอนดอนของ แอนดรูว์ กอสเดน เพียงลำพังโดยไม่บอกครอบครัว หรือเขาจะไปพบญาติที่นั่น เวลาเขาไปลอนดอนมักจะไปเยี่ยมชมนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ หรือเขาจะไปแจกเรซูเม่เหมือนกันกับที่ชาร์ล็อตต์ น้องสาวของเขาเคยทำเมื่อครั้งที่เธออยากจะหาประสบการณ์การทำงาน
แต่ข้อสงสัยที่ดูมีน้ำหนักมากสุด พวกเขาสงสัยว่าหรือลูกชายจะไปชมคอนเสิร์ต ซึ่งในวันที่ 14 กันยายน 2007 มีการจัดแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรี 2 วง คือ Thirty Second to Mars เล่นที่ Brixton Academy กับอีกวงคือ SikTH เล่นที่ Carling Academy ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้น้ำหนักไปที่วง SikTH มากกว่า เนื่องจากเป็นการแสดงอำลาของนักร้องคนเก่าครั้งสุดท้าย
ทางเจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือผู้ร่วมชมคอนเสิร์ตในคืนนั้น ร่วมส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอในงานเพื่อตามหาร่องรอยการหายตัวไป แต่ก็ไม่พบหลักฐานใด ๆ เพิ่มเติม
การจับกุมผู้ต้องหา 2 รายที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของกอสเดน
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2021 เป็นเวลากว่า 14 ปีหลังจากการหายตัวไปของเด็กชาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเซาท์ยอร์กเซอร์ได้จับกุมตัวชาย 2 คนในเมืองหลวง ซึ่งสันนิษฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของแอนดรูว์เมื่อ 14 ปีก่อนหรือไม่
ผู้ต้องสงสัยรายแรกเป็นชายอายุ 45 ปี ถูกจับกุมในข้อหาลักพาตัว ค้ามนุษย์ และครอบครองภาพอนาจารเด็ก ส่วนอีกคนเป็นชายวัย 38 ปี ถูกควบคุมตัวในข้อหาลักพาตัวและค้ามนุษย์ แต่ท้ายสุดก็ไม่มีหลักฐานเอาผิด จึงปล่อยตัวไป
สรุป
เป็นเวลากว่า 18 ปี หลังการหายตัวไปของ Andrew Gosden ปัจจุบันก็ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอยว่าแท้จริงแล้วชะตากรรมของเด็กชายจะเป็นอย่างไร หลักฐานชิ้นสุดท้ายที่ประจักษ์สุดก็คือภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานี King’s Cross ส่วนการพบเห็นครั้งสุดท้ายที่ดูน่าเชื่อถือสุดถูกตีพิมพ์ลงในบทความของนิตยสาร The Times ว่ามีการพบเห็นกอสเดนครั้งสุดท้ายที่ร้านพิซซ่า ฮัท บนถนนอ็อกซ์ฟอร์ด
ข่าวการหายตัวไปของแอนดรูว์ กอสเดน นับว่าเป็นข่าวใหญ่ในช่วงเวลานั้น ปัจจุบันก็ยังคงเป็นปริศนาและยังคงถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการหายตัวไปของเขา บ้างก็สันนิษฐานว่า เขาน่าจะถูกลักพาตัว เจอกับผู้ไม่ประสงค์ดีที่มีอยู่มากใน King’s Cross สมัยนั้น
