จากตำนานของวิญญาณร้ายที่หลอกหลอนแรงพยาบาทความอาฆาตอาถรรพ์คำสาบแช่งเสียงกระซิบสุดโหยหวนจากเงามืดในยามพฤติกรรก่อกำเนิดเป็นเรื่องราวสยองขวัญชวนขนหัวลุกที่ได้เล่าขานสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านานแม้จะต่างสถานที่ต่างวัฒนธรรมต่างภาษา แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้คนทั่วโลกส่วนใหญ่ต่างมีร่วมกันก็คือความเชื่อในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติของโลกหลังความตายในอีกมิติที่ยังคงมีอิทธิพลสร้างความหวาดกลัวตอนเราคนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ไม่ว่ากาลเวลาและเทคโนโลยีต่างๆบนโลกนี้จะพัฒนาก้าวล้ำผ่านไปอีกกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม เราเลยจะพาไปรู้จักกับ 5 ต้นกำเนิด ตำนานผี และปีศาจแห่งโลกภาพยนตร์
ตำนานผี คายาโกะและโทชิโอะ (kayako and Toshio)
คายาโกะและโทชิโอะ (kayako and Toshio) คือผีแม่ลูกสุดเฮี้ยนแห่งจักรวาล Ju-On ภาพยนตร์สยองขวัญขึ้นหิ้งสัญชาติญี่ปุ่น คำว่าจูออนในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าคำสั่งแห่งความแค้น เรื่องราวโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าและสยดสยองของคายาโกะหญิงสาวที่ถูกlk,uลงมือสังหารอย่างโหดเหี้ยมภายในบ้านด้วยความหึงหวงและโทชิโอะลูกชายกับแมวอีกหนึ่งตัวของครอบครัวก็ต้องจบชีวิตตายตามลงไปด้วยกัน สองแม่ลูกกลายเป็นวิญญาณอาฆาตที่สิงสถิตย์อยู่ภายในบ้านพร้อมสาปแช่งใครก็ตามที่ย่างกรายเข้ามาในบ้านหลังนี้ให้ถึงแก่ความตายและยังตามหลอกหลอนเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องคำสาบไปในทุกที่
ทาคาชิ ชิมิสุ ผู้กำกับได้กล่าวว่าแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องราวนี้มาจากความกลัวส่วนตัวของเขาเมื่อครั้งยังเด็กที่ได้เห็นการแสดงบูโตะ (Butoh) ของกลุ่มนักเต้นชาวญี่ปุ่นที่ทาสีร่างกายที่เปลือยเปล่าของพวกเขาเป็นสีขาวและร่ายรำด้วยท่าทางชวนหลอน ด้วยแนวทางการเล่าเรื่องที่เรียบง่ายแต่กลับเต็มไปด้วยความสยองขวัญสั่นประสาทผ่านบรรยากาศน่าขนลุกสุดเย็นยะเยือกที่ตัวผู้กำกับอย่างชิมิสุจงใจให้วิญญาณของผีแม่ลูกทั้งสองปรากฏตัวออกมาให้ผู้ชมเห็นกันแบบจะq ต่างจากหนังผีญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในยุคนั้นที่มักจะเลือกใช้การบรรยายรูปร่างหน้าตาของzuเป็นคำพูดโดยไม่ได้เปิดเผยให้ผู้คนเห็นผีบนหน้าจอแต่อย่างใดมากกว่า
ตำนานผี แอนนาเบล (Annabelle)
ตำนานตุ๊กตาผีสิงสุดเฮี้ยนแอนนาเบล (Annabelle) คือหนึ่งในตัวละครอันโด่งดังแห่งจักรวาล The Conjuring ซึ่งมีต้นกำเนิดจากตุ๊กตาผ้าหน้าตาน่ารักที่ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนอย่างในภาพยนตร์แต่อย่างใด เรื่องราวที่แท้จริงของตุ๊กตาแอนนาเบลเริ่มต้นขึ้นในปี 1970 เมื่อดอนน่านักเรียนพยาบาลสาวที่ได้รับตุ๊กตาผ้าดวงตากลมโตผมสีแดงสดจมูกสามเหลี่ยมสีส้มมาพร้อมรอยยิ้มที่กว้างแสนสดใสเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 28 ปีจากแม่ของเธอ โดยแม่ของเธอซื้อตุ๊กตาวินเทจตัวนี้มาจากร้านขายของเล่นแห่งหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อเธอได้นำตุ๊กตาผ้าตัวนี้กลับไปยังอพาร์ตเมนต์ของเธอซึ่งมีรูมเมทคือแองจี้เพื่อนนักเรียนพยาบาลอีกคนที่แชร์ห้องอยู่ร่วมกัน
ตุ๊กตาอาถรรพ์เริ่มเคลื่อนที่ไปทั่วห้องด้วยตัวเองจากโซฟาในห้องนั่งเล่นไปอยู่ในห้องนอนของดอนน่าที่ปิดประตูอยู่ และบ่อยครั้งที่เธอกลับบ้านมาพบว่าตุ๊กตาตัวนี้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนท่าทางเอกอย่างน่าประหลาดใจ ยิ่งไปกว่านั้นดอนน่าและแองจี้ก็ยังพบกระดาษโน๊ตที่มีข้อความว่าช่วยด้วยวางทิ้งไว้ทั่วอพาร์ทเมนท์ ทั้งที่พวกเธอไม่เคยมีกระดาษรถแบบเม็ดอยู่ในอพาร์ทเมนท์มาก่อน ต่อมาพวกเขาพบว่าวิญญาณร้ายที่สิงตุ๊กตาอยู่ก็คือ แอนนาเบลล์ ฮิตส์กิน เด็กหญิงอายุ 7 ขวบที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งคาดว่าเกิดจากเหตุฆาตกรรมในบริเวณพื้นที่ทุ่งโล่งก่อนที่อพาร์ทเมนท์ของดอนน่าและแองจี้จะถูกสร้างขึ้นมา
ในปัจจุบันตุ๊กตาแอนนาเบลได้ถูกเก็บรักษาเอาไว้ในกล่องไม้อยู่ในพิพิธภัณฑ์วอเลนออคเคาท์ (Warren Occult Museum) ซึ่งเป็นห้องใต้ดินในบ้านหลังเก่าของเอ็ตและลอเร็นร่วมกับของสะสมผีสิงสุดหลอนอีกมากมาย ทำให้พิพิธภัณฑ์ที่โด่งดังระดับโลกแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก แต่ภายหลังก็ไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้อีกต่อไป เนื่องจากแฟนๆ ที่แห่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จำนวนมากได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่เพื่อนบ้านหลังอื่นๆ ทำให้พิพิธภัณฑ์ของเขาถูกปิดถาวรตั้งแต่ปี 2019
ตำนานผี พาซุซุ (Pazuzu)
ปาซูซ่าหรือพาซูซู (Pazuzu) เป็นตัวละครสมมติที่เป็นตัวร้ายหลักในนักวิทยาสยองขวัญและแฟรนไชส์ภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิกอย่าง The Exorcist สรรค์สร้างเรื่องราวขึ้นโดย วิลเลียม ปีเตอร์ แบตตี้ นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งบทภาพยนตร์เรื่องดิเอ็กซ์เซอร์ซิสที่ออกฉายในปี 1973 นอกจากจะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลแล้ว มันยังส่งให้แบตตี้ได้ขึ้นคว้ารางวัลออสการ์ในสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมไปครองได้อีกด้วย
โดยเรื่องราวต้นกำเนิดของ The Exorcist นั้น เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์สุดสะพรึงที่เกิดขึ้นจริงในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ในปี 1949 เมื่อมีการรายงานข่าวอย่างครึกโครมเกี่ยวกับเด็กชายวัย 14 ปีที่ชื่อว่าร็อบบี้ แมนไฮมม์ หรือในบางครั้งเขาก็ถูกเรียกว่าโรแลนด์ โด ซึ่งถูกวิญญาณร้านเข้าสิงร่างและมีบาทหลวงมาขับไล่ผี
แบตตี้ได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาผสมผสานกับตำนานปีศาจที่มีชื่อว่าพาซูซูของชาวเมโสโปเตเมียโบราณ ที่ในบางครั้งก็เรียกกันว่าฟาซูซูหรือพาซูซ่าซึ่งเป็นราชาปีศาจแห่งลบทำลายล้างสุดอันตราย ร่างของมันตามตำนานเก่าแก่เป็นการผสมผสานระหว่างชิ้นส่วนของสัตว์ดุร้ายและมนุษย์เข้าด้วยกัน โดยมันมีร่างกายเป็นมนุษย์ มีหัวเป็นสิงโตหรือสุนัขไร้ขน เท้าของพาซูซูมีลักษณะคล้ายกับเท้าของนกอินทรีที่มีกรงเล็บแหลมคม มันมีหางของแมงป่อง องคชาตเป็นงู ปีกสองข้างแผ่กลางออก แขนข้างขวาของมันชูขึ้นมา ในขณะที่แขนซ้ายชี้ดิ่งลงพื้น
ผีดิบเจียงซือ (jiāngshī)
เจียงซือ (jiāngshī) หรือที่รู้จักกันในชื่อผีดิบจีน เป็นซากศพที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาตามตำนานและนิทานพื้นบ้านที่เล่าขานสืบต่อกันมาของชาวจีน สภาพร่างกายของผีดิบจีนนั้นจะแข็งทื่อจนไม่สารถงอแขนขาหรือลำตัวได้ทำให้พวกมันต้องเคลื่อนไหวไปมาด้วยการกระโดดพร้อมกันทั้งสองขาพร้อมกับเหยียดแขนเหยียดตรงขนานกับพื้นออกไปข้างหน้า พวกมันมีผิวสีขาวอมเขียวเนื่องมาจากเชื้อราที่เจริญเติบโตบนซากศพ ผีดิบจีนมักแต่งกายด้วยชุดคนดังในยุคราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นชุดเสื้อคลุมและหมวกทรงกลมขอบสูง ซึ่งในตอนกลางวันผีดิบจีนจะนอนหลับใหลอยู่ในโลงศพหรือซ่อนตัวอยู่ในที่มืด จนเมื่อยามราตรีที่มืดมิดมาถึงพวกมันก็จะออกหากินด้วยการดูดพลังชีวิตของมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ
โดยภาพจำของผีดิบจีนที่คุ้นตาอีกอย่างก็คือพวกมันจะมีกระดาษยันต์สีเหลืองที่มีคาถาปิดผนึกเป็นตัวอักษรสีแดงแปะอยู่ที่หน้าผากเพื่อสะกดไว้ไม่ให้เหล่าผีดิบจีนออกอาละวาดเข่นฆ่าผู้คน ซึ่งสาเหตุที่ผีดิบจีนมักจะแต่งตัวด้วยชุดขุนนางในยุคราชวงศ์ชิงและออกล่าเหยื่อดูดเลือดผู้คนนั้นมีอิทธิพลมาจากความรู้สึกต่อต้านแมนจูของประชาชนชาวจีนหรือชาวบ้านในยุคราชวงศ์ชิงที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย ทำให้ประชาชนมองว่าเจ้าหน้าที่ราชการส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือดคือไม่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์ด้วยกัน
ต้นกำเนิดของผีดิบจีนเชื่อกันว่ามีที่มาจากประเพณีพื้นบ้านโบราณของจีนที่เรียกกันว่า 千里之行 (Qiãn Lĩ Xíng Shi) หรือการขนส่งศพ 1000 ลี้ เมื่อมีคนไปเสียชีวิตอยู่ห่างไกลจากถิ่นฐานบ้านเกิดและญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่มีกำลังทรัพย์มากเพียงพอที่จะสามารถส่งศพกลับมาทำพิธีฝังที่บ้านเกิดได้ ญาติของผู้เสียชีวิตจึงได้ว่าจ้างนักบวชลัทธิเต๋าเพื่อทำพิธีชุบชีวิตคนตายและสอนให้พวกศพเหล่านั้นกระโดดกลับมายังบ้านเกิดของพวกเขาเองนั่นเอง
ตำนานผี แฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein)
หากจะพูดถึงชื่อของ แฟรงเกนสไตน์ (Frankenstein) หลายคนก็คงจะนึกถึงปีศาจดุร้ายร่างใหญ่หัวเหลี่ยมตัวเขียวคล้ำ มีหน้าตาน่ากลัวเต็มไปด้วยรอยเย็บและยังมีน็อตตัวใหญ่ฝังอยู่ที่คอหรือขมับทั้งสองข้าง แต่แท้จริงแล้วแฟรงเกนสไตน์ไม่ใช่ชื่อของปีศาจตัวนี้ แต่มันคือชื่อของผู้ที่สร้างอสูรกายตัวนี้ขึ้นมสนั่นเอง ซึ่งแฟรงเกนสไตน์เป็นนวนิยายสยองขวัญจากปลายปากกาของแมรี เชลลีย์ (Mary Wollstonecraft Godwin Shelley) นักเขียนหญิงชาวอังกฤษที่เริ่มเขียนนวนิยายเรื่องนี้ขณะที่เธอมีอายุได้เพียง 18 ปี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากฝันร้ายจากการได้เห็นซากศพเดินได้ หน้าตาน่าเกลียด เดินตัวแข็งทื่อไปมาอยู่ในความฝัน เธอจึงได้นำเอาเรื่องราวความฝันสุดสยองนี้มาแต่งแต้มเป็นบทประพันธ์สุดคลาสสิกเรื่องแฟรงเกนสไตน์หรือโพรมีธีอุสยุคใหม่ ซึ่งได้ถูกพิมพ์ออกมาเป็นครั้งแรกในปี 1818 และได้กลายมาเป็นนวนิยายไซไฟเล่มแรกของโลกที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี
แรงบันดาลใจสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่เธอได้นำเอามาใช้แต่งนวนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาก็คือการทดลองในปี 1780 ของนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาเลียนที่ได้ทดลองปล่อยกระแสไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อขากบที่ตายแล้วและพบว่าขากบมีการกระตุกตอบสนองราวกับว่ากระแสไฟฟ้าทำให้ซากกบได้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง ซึ่งการทดลองนี้ก็ได้กลายมาเป็นแรงกระตุ้นจินตนาการที่ได้เลือกเอากระแสไฟฟ้ามาใช้ในการชุบชีวิตสัตว์ประหลาดในนวนิยายของเธอให้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากความตาย
แม้ว่านวนิยายเรื่องแฟรงเก้นสไตน์จะถูกเขียนขึ้นมามากกว่า 200 ปีที่แล้ว แต่ความนิยมชื่นชอบของนวนิยายเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นอมตะ ทำให้มันถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์และการ์ตูนหลายต่อหลายเรื่อง เพื่อให้เห็นชะตากรรมของผู้ถูกสร้างอย่างสัตว์ประหลาดที่ไม่มีแม้แต่ชื่อต้องจมอยู่กับความเจ็บปวดอย่างที่สุด กับการต้องมีชีวิตที่เป็นอมตะเพื่อเผชิญหน้ากับความเกลียดชังเพียงลำพังหล่อหลอมให้มันกลายเป็นอสูรกายร้ายที่ผู้คนต่างหวาดกลัวและนำไปสู่โศกนาฏกรรมสุดสลดที่อาจทำให้หลายคนต้องหลั่งน้ำตา
และนี่ก็คือทั้ง 5 ตำนานผีและปีศาจ ต้นกำเนิดความหลอนจากโลกแห่งภาพยนตร์แนวสยองขวัญ ในพาร์ทแรกที่เราได้นำมาฝากเพื่อนๆ ชาว Ghostsfolder ใครที่เป็นแฟนหนังสยองขวัญอาจจะชื่นชอบหนังแนวนี้แต่หลายคนเองก็อาจจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วต้นกำเนินของเหล่าผีปละปีศาจเหล่านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร รู้อย่างงี้แล้วทำให้อรรถรสของการดูหนังเพิ่มขึ้นไปอีก ใครสนใจดูหนังเหล่นี้ซ้ำอีกเราขอแนะนำเลยค่ะ เพราะหลังจากดูจบแล้วเราจะได้รับประสบการณ์ในการการดูหนังที่แตกต่างไปจากเดิมแน่นอน
- “ความเชื่อ” ของการขอ “หวย” ทำไมต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์? - January 13, 2025
- คดีสยองขวัญ เมียฆ่าผัวตัดคอ ถลกหนัง ตัดหัวผัวต้ม ทำอาหารให้ลูกกิน - January 11, 2025
- เปิดแฟ้ม! รวมคดีฆาตกรรมหั่นศพแช่ตู้เย็นสยอง - January 9, 2025