เรื่องสยองขวัญ ดินแดนกิมจิ

5 เรื่องสยองขวัญ ดินแดนกิมจิ ตำนานหลอนเกาหลีที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง

หัวข้อน่าสนใจ

เรื่องสยองขวัญ และตำนานที่เราได้ยินกันมา อาจจะเป็นเรื่องจริง หรืออาจจะเป็นเรื่องแต่ง เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่เรื่องเล่าที่มันสามารถส่งต่อความสยองมาได้จนถึงยุคปัจจุบัน นั่นก็อาจจะแปลได้ว่า ‘มันเคยเกิดขึ้นจริง’ อย่างไรก็ตาม เรื่องเขย่าขวัญดินแดนกิมจิก็ไม่น้อยหน้า แต่จะมีเรื่องไหนที่เป็นที่สุดของความสยอง

สวยสยอง ตำนานอาบเมล็ดงา

สวยสยอง ตำนานอาบเมล็ดงา
สวยสยอง ตำนานอาบเมล็ดงา

เรื่องสยองขวัญ เรื่องแรกจากแดนกิมจิที่อยากมาเล่าคือ ตำนานอาบเมล็ดงา ใครที่เป็นโรคกลัวรู (Trypophobia) อาจจะต้องเลื่อนผ่าน โดยมีเรื่องเล่าที่หญิงสาวคนหนึ่ง มีหน้าตาสะสวย แต่เธอกลัวความแก่และกลัวว่าตัวเองจะไม่สวยอีกต่อไป เธอจะยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะทำได้ให้ตัวเองนั้นไม่แก่ ไม่เหี่ยว และยังคงความสวยงาม ดูอ่อนเยาว์ อย่างไรก็ตาม เธอก็คงที่จะกลัวเพราะผิวพรรณของเธอต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งนั่นทำให้เธอรับไม่ได้อยากหนัก

เธอหมกมุ่นอยู่กับความงาม จนเธอได้ยินเกี่ยวกับการบำรุงผิวแนวใหม่ ที่จะช่วยให้ผิวของเธอเนียนนุ่มมากขึ้น มีข่าวลือว่า ‘ถ้าเอาเมล็ดงามาผสมน้ำแช่ในอ่าง จะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์’ เธอได้ยินก็ดีใจมาก รีบกลับบ้านไปเอางาใส่น้ำในอ่างแล้วลงไปแช่ เธอนั้นในห้องน้ำอยู่นานจนแม่ของเธอเคาะประตูเรียก แต่เธอเองกลับบอกว่า ‘อีกแป๊บนึง’ แม่ก็เคาะถามหลายครั้งแต่ทุกครั้งลูกสาวก็บอกว่า ‘อีกแป๊บนึง’ จนแม่ทนไม่ไหว สุดท้ายเลยเปิดประตูเข้าไป ทำให้เห็นภาพลูกสาวกำลังใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเมล็ดงานับร้อยที่ฝังลึกอยู่ในรูขุมขนออกจากตัว และที่ลูกไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำก็เพราะว่ากำลังแคะงาออกจากผิว แต่แคะยังไงไม่ยอมหมดซักที

ผีตาโบ๋ข้างถนนชายู

ผีตาโบ๋ข้างถนนชายู
ผีตาโบ๋ข้างถนนชายู

ผีตาโบ๋ข้างถนนชายู เป็นเรื่องสยองประจำถนนชายู ซึ่งถนนนี้เป็นทางหลวงระหว่างเมืองโคยังและเมืองพาจูในจังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลี คนที่ใช้ทางหลวงสายนี้มักเล่าว่า ได้พบกับหญิงสาวสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ยืนอยู่ข้างถนน แต่ถ้ามองให้ดีแล้วจะพบว่าเธอไม่ได้กำลังสวมแว่นอยู่หรอกค่ะ สีดำ ๆ บนใบหน้าคือเบ้าตาที่ลึกกลวงของเธอต่างหาก แถมยังมีเรื่องเล่าอีกว่าชายคนหนึ่งขับรถอยู่บนถนนชายู ระหว่างทางเขาเจอผู้หญิงสวมแว่นดำยืนอยู่ข้างถนนกำลังโบกรถให้จอด เธอคนนั้นถามเขาว่าจะช่วยขับรถพาเธอกลับบ้านได้มั้ย ซึ่งเขาก็ใจดีรับเธอขึ้นมาและขับรถไปตามพิกัดเรื่อย ๆ แต่แล้วจุดหมายปลายทางที่ตาม GPS ไปกลับเป็นสุสาน และหญิงสาวที่เขาพามา ก็ไม่ได้สวมแว่น หากแต่มีเบ้าตาลึกโบ๋นั่นเอง

เรื่องสยองขวัญ ในห้องน้ำโรงเรียน

เรื่องสยองขวัญในห้องน้ำโรงเรียน
เรื่องสยองในห้องน้ำโรงเรียน

เชื่อว่าตำนานและเรื่องเล่าของผีห้องน้ำมักมีอยู่ในทุก ๆ โรงเรียนทั่วโลก แต่รู้หรือไม่ว่าที่ประเทศเกาหลีใต้นั้น มักมีตำนานสยองขวัญเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับโดยเฉพาะในห้องน้ำ ซึ่งตำนานส่วนใหญ่มักพูดถึงห้องน้ำในโรงเรียนที่ทั้งมืดและเก่า ที่นั่นชอบมีเด็กนักเรียนไปผูกคอตาย ทำให้มีผีออกมาคอยหลอกหลอนคนในโรงเรียน ใครก็ตามที่ไปห้องน้ำคนเดียวจะได้เจอเหตุการณ์ประหลาด ๆ ไม่ว่าจะเป็นชักโครกที่ทำงานด้วยตัวมันเอง ประตูห้องน้ำปิดเองได้โดยไม่มีลมหรือใครไปแตะต้อง หรือบางทีก็จะได้ยินเสียงร้องไห้หรือพบว่ามีใครบางคนแอบเฝ้ามองเราอยู่จากกระจกในห้องน้ำ

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกเรื่องเล่าหนึ่งที่โด่งดังไม่แพ้กันนั่นคือผีกระดาษชำระ ว่ากันว่าผีตัวนี้จะถามว่าเราจะใช้กระดาษชำระสีอะไร ระหว่างสีแดงกับสีฟ้า หากเราตอบว่าสีแดงผีจะเชือดเรา แต่ถ้าเลือกสีฟ้าผีก็จะบีบคอ ท้ายที่สุดยังไงเราก็จะต้องตายหากเจอผีตนนี้

เรื่องสยองขวัญ ผีสาวพรหมจรรย์ (Cheonyeo Gwisin)

ผีสาวพรหมจรรย์ (Cheonyeo Gwisin)
ผีสาวพรหมจรรย์ (Cheonyeo Gwisin)

ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าทำไมต้องเป็นผีสาวบริสุทธิ์ แต่เราจะพบผีสาวพรหมจรรย์ได้ในอาคารร้าง อย่างเช่น ที่โรงพยาบาล โรงเรียน ห้องน้ำ สุสาน และพื้นที่ที่เป็นป่า เล่ากันว่าผีสาวพรหมจรรย์จะมีผมยาวปกคลุมใบหน้า ร่างผอม และสวมชุดสีขาว เราจะรู้ได้ว่าผีตนนี้อยู่ใกล้เราในตอนที่อากาศรอบกายหนาวเหน็บเข้ากระดูก ลมเปลี่ยนทิศทาง และรู้สึกได้ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียว

ซึ่งมีเรื่องสยอง ๆ เล่าเกี่ยวกับคนที่เจอผีสาวพรหมจรรย์ว่า มีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เก่า ๆ คืนหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนเคาะประตู ชายคนนั้นจึงได้ตะโกนถามว่าคนที่มาเคาะประตูคือใคร กลับมีเสียงตอบกลับมาว่า เขาควรจะหลับตาลงและนับหนึ่งถึงร้อย หากไม่ทำเขาจะต้องตาย ทำให้ชายคนดังกล่าวสงสัยว่าใครแกล้งเขากันแน่จึงเปิดประตูห้องออกไปและพบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่นเลย แต่ชายคนนี้เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ เขาเลยหลับตาแล้วเริ่มต้นนับเลขในใจ พอนับไปได้ถึงเลข 49 ยังไม่ทันถึง 100 ดี เขาก็ลืมตาขึ้นมาเสียก่อนเพราะความอยากรู้ และสิ่งที่เขาเห็นหลังเปิดตาขึ้นมาคือผีสาวพรหมจรรย์ยืนอยู่ตรงหน้าและกำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยแววตาที่น่ากลัวและสยดสยอง

ผีสาวพรหมจรรย์ (Cheonyeo Gwisin)
ผีสาวพรหมจรรย์ (Cheonyeo Gwisin)

อีกตำนานที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับผีสาวพรหมจรรย์ คือ ว่ากันว่าพวกเธอนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในโลก เนื่องจากตายก่อนที่จะได้ทำหน้าที่ตามตำราขงจื๊อ ซึ่งก็คือ การทดแทนบุญคุณพ่อแม่และดูแลสามีในอนาคต ด้วยความขมขื่นผลักดันเป็นความอาฆาตแค้ร วิญญาณเหล่านี้จึงออกหลอกหลอนคนในหมู่บ้านจนผู้คนต้องหาสิ่งที่พวกเธอต้องการมาให้ และสิ่งของที่ผีตนนี้อยากได้ นั่นก็คคือ รูปปั้นลึงค์ ซึ่งบางรูปปั้นยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่นที่สวนแฮชินดัง (Haesindang Park) ในจังหวัดซัมช็อก (Samcheok)

แมลงสาบแฝงกายในร่างมนุษย์

แมลงสาบแฝงกายในร่างมนุษย์
แมลงสาบแฝงกายในร่างมนุษย์

เรื่องสยองขวัญ แมลงสาบแฝงกายในร่างมนุษย์ อาจจะไม่ใช่เรื่องผี แต่น่ากลัวไม่แพ้กัน ซึ่งเรื่องเล่าเป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งรู้สึกเจ็บท้องขึ้นมาเฉย ๆ อย่างไม่มีสาเหตุ เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร เพราะพยายามกินยาหรือทำอย่างไรก็แล้วแต่ ก็ไม่สามารถหายจากอาการเจ็บสักที เธอจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาล พอเมื่อไปที่นั่นแพทย์ได้เอ็กซเรย์และพบว่ามีสิ่งแปลกปลอมแฝงตัวอยู่ในมดลูกของเธอ เมื่อลองตรวจสอบดูดี ๆ แพทย์พบว่าสิ่งแปลกปลอมที่ว่า นั่นก็คือ ‘แมลงสาบ’

เล่ากันว่าที่มันเข้าไปอยู่ในมดลูกของผู้หญิงคนนั้นได้เป็นเพราะมีแมลงสาบไปวางไข่บนผ้าอนามัยของเธอ และเมื่อเธอใช้ผ้าอนามัยที่มีไข่แมลงสาบ ตัวอ่อนก็สามารถเข้าไปข้างในมดดลูกได้ แม้ว่าเรื่องนี้อาจจะดูเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่เกาหลีใต้ เพราะเคยมีข่าวแนวนี้ แม้จะไม่ใช่แมลงสาบแต่ก็มีข่าวว่าพบแมลงตัวเล็ก ๆ บนผ้าอนามัยและผ้าอ้อมเด็ก เลยได้กลายเป็นเรื่องสยองขวัญไปเลยโดยปริยาย

และนี่ก็คือ 5 เรื่องสยองขวัญดินแดนกิมจิ ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่จริง ที่เราเหล่าทีมงาน Ghostsfolder ได้นำมาฝาก บอกได้เลยว่าบางเรื่อง เราก็อาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วจากในที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นผัห้องน้ำอย่างฮานาโกะจากประเทษญี่ปุ่น ผีสาวพรหมจรรย์ที่มีเค้าโครงเรื่องเล่าเหมือนกับผีตามทั้งกลม หรือแม้กระทั่งผีที่มักเจอได้ตามข้ามถนนและมีลักษณ์ตาโบ๋ จะที่ไหน ๆ ของมุมโลกก็มีเรื่องเล่ากันทั้ง แต่ที่เกาหลีเราเองก็เพิ่งเคยจะได้ยินตำนานเหมือนกัน สยองใช่เล่นเลยค่ะ