ย้อนรอยคดี สังหารหมู่พระไทยในอเมริกา คดีสะเทือนขวัญที่ยังเป็นปริศนา

หัวข้อน่าสนใจ

ช่วงระยะหลังมานี้เรามักเห็นข่าวเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์ตามหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง ทำให้หวนนึกถึงคดีนึงที่ย้อนกลับไปเกือบ 40 ปี จะเรียกว่าเป็นคดีดังก็พูดได้ไม่เต็มปากซะทีเดียว เพราะคดีนี้เหมือนทั้งสื่อไทยและสื่อนอกจะไม่ค่อยเล่นกันสักเท่าไหร่ แต่คดีนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคดีสะเทือนขวัญที่เขย่าวงการพระสงฆ์ที่แม้คดีจะปิดลงไปแล้ว แต่ความจริงปริศนายังคงไม่คลี่คลายว่าแท้จริง “โจนาธาน ดูดี้” คือคนร้ายตัวจริง หรือเป็นเพียงแค่ “แพะ” ของคดีนี้เท่านั้น

เหตุการณ์สังหารหมู่พระไทยโหด 9 ศพในอเมริกา

ช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2534 เวลาประมาณ 10:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจในแอริโซนาได้รับแจ้งเหตุการฆ่ากันในวัดพรหมคุณาราม เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา

เจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ 9 ศพนอนเรียงรายกันด้วยท่าท่างหันศีรษะเข้าสู่จุดศูนย์กลาง คลับคล้ายคลับคลาราวกับซี่ล้อเกวียน ผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพ ประกอบด้วยพระภิกษุ 6 ชีวิต สามเณร 1 ชีวิต แม่ชี 1 ชีวิต และฆราวาส 1 คน  

การฆาตกรรมพระ แม่ชี และเด็กวัดสุดโหดที่วัดพรหมคุณาราม
การฆาตกรรม 9 ศพที่วัดพรหมคุณารามปี 1991

สภาพศพถูกยิงบริเวณท้ายทอยศพละ 2-3 นัด เสียชีวิตด้วยท่าทางนอนคว่ำหน้า เอามือไขว้หลังตรงท้ายทอยคล้ายกับท่าคนร้ายถูกจับตำรวจจับกุม ทุกศพไม่มีร่องรอยการต่อสู้ราวกับว่าทุกคนนอนหมอบให้ยิงยังไงยังงั้น จะมีก็แต่เพียงศพของพระครูรูปหนึ่งถูกยิงด้วยลูกซองบริเวณสะโพกและเข่า เหมือนกับพยายามต่อสู้ และศพของพระไพรัช เจ้าอาวาสที่ถูกฟันด้วยนิ้วมือขาดวิ่น

ร่องรอยในที่เกิดเหตุบอกชัดว่านี่ไม่ใช่ฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์ ?

ในช่วงแรกตำรวจคาดว่าอาจจะเป็นการปล้นฆ่าเพื่อชิงทรัพย์โดยกลุ่มคนร้ายที่คาดว่าน่าจะมากกว่า 2 คน แต่ด้วยสภาพศพและร่องรอยบริเวณที่เกิดเหตุกลับพาให้คนไทยในอเมริกาเชื่อว่านี่คือการจงใจฆ่าและไม่ได้ฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์สิน

บริเวณที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนไรเฟิล .22 และปลอกปืนลูกซองกระจัดกระจายเกลื่อน ข้าวสารถูกนำมาโปรยทิ้งไว้เกลื่อนห้อง น้ำประปาถูกเปิดไว้เจิงนองทั่วห้องราวกับต้องการทำลายหลักฐาน ข้าวของในห้องถูกค้นกระจุยกระจาย บนผนังวัดถูกสลักด้วยของมีคมเขียนคำว่า “Bloods” ท้ายทอยของศพทั้ง 9 ศพมีลายนิ้วมือ แต่กลับไม่พบรอยนิ้วมือ คาดว่าคนร้ายน่าจะใส่ถุงมือ

การรวมตัวของสื่อในสหรัฐที่วัดพรหมคุณารามในคดีฆาตกรรมสุดโหด
สื่อท้องถิ่นในสหรัฐรวมตัวกันในคดีฆาตกรรมวัดไทย

ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ค่อนข้างแน่ชัดว่าคนร้าย “จงใจ” และ “มืออาชีพ” ในการสังหาร อีกทั้งทฤษฎีการฆ่าเพื่อปล้นชิงทรัพย์ถูกปัดตกไป เนื่องจากทรัพย์สินมีค่ายังอยู่ครบ ไม่ว่าจะเป็นเงินทำบุญบนต้นผ้าป่า 2 ต้น สร้อยทองที่อยู่บนพระประธานก็ยังอยู่ครบ แต่ห้องกลับถูกค้นกระจุยกระจาย ซึ่งมันขัดกับความเป็นจริงทุกอย่าง

การจับกุมโจนาธาน ดูดี้ เด็กไทยที่คาดว่าคือมือสังหารโหด  

คดีนี้ตำรวจคาดการณ์ว่าคนร้ายที่ลงมือต้องมีมากกว่า 2 คน ในตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม “กิมลี่ แซ่ลี้” ชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนข้อหาครอบครองปืน .22 ซึ่งเป็นปืนชนิดเดียวกับที่ใช้ในการก่อเหตุ แต่ท้ายสุดก็ปล่อยตัวไป เพราะไม่ใช่ปืนกระบอกเดียวกัน

ต่อมาได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 4 คน เรียกว่ากลุ่ม Tucson Four เด็กวัยรุ่นในละแวกนั้นที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่สุดท้ายก็ต้องปล่อยตัวไป เนื่องจากไม่มีหลักฐานและไม่พบของที่ถูกขโมยมา ตำรวจจึงปล่อยตัวทั้ง 4 คนไป พร้อมลบประวัติอาชญากรรมแลกกับการที่ไม่ถูกฟ้องร้อง

การเคลื่อนย้ายศพ 9 ศพที่วัดพรหมคุณาราม
เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้าย 9 ร่างในวัดพรหมคุณาราม

ต่อมาในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2534 ตำรวจได้จับกุมชาย 2 คนคือ “โจนาธาน ดูดี้” หรือ “นายวีรพล แก้วคำ” เด็กไทยอายุ 17 ปี และ “อเล็กซ์ กาเซีย” ข้อหาร่วมกันก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์และฆาตกรรม 9 ศพ ข่าวนี้ถูกแพร่สะพัดในแอริโซนา

โจนาธานถูกประณามว่าเป็นฆาตกรใจโหดที่ฆ่า 9 ศพอย่างเลือดเย็น แถมดูไม่ทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ความแปลกคือคดีนี้ถือว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญที่โด่งดังในแอริโซนา แต่กลับไม่ค่อยถูกตีข่าวโดยสื่อสำนักใหญ่ของอเมริกาเท่าไหร่ รวมถึงสื่อไทยเองก็ด้วย  

การตัดสินคดีที่แปลกและดูมีเงื่อนงำ

ในการพิพากษาครั้งแรกศาลตัดสินพิพากษาจำคุกโจนาธาน ดูดี้และอเล็กซ์ กาเซีย ข้อหาปล้นชิงทรัพย์และฆ่าคนตาย จำคุกตลอดชีวิต 9 ครั้ง จาก 9 ชีวิต บวกกับอีก 56 ปี สำหรับการปล้นทรัพย์ของวัด แม้ว่าโจนาธาน ดูดี้จะไม่ต้องโทษประหารชีวิต แต่คนไทยในสหรัฐกลับมองว่าคดีนี้มีเงื่อนไข และมองว่าโจนาธานอาจเป็นแพะของคดีนี้

ด้วยประจักษ์พยานและหลักฐานที่ดูแปลกไปเสียหมด ตั้งแต่การสืบสวนสอบสวนของตำรวจในแอริโซนาที่สอบสวนโจนาธานด้วยความเข้มงวด สั่งให้เขายอมรับว่าเขาเป็นคนฆ่าจริงและลงลายมือชื่อ ทั้งที่ตอนนั้นเขาเป็นเพียงเยาวชนอายุ 17 ปีเท่านั้น แต่กลับไม่มีทนายและไม่เรียกผู้ปกครองมาไตร่สวน

คนไทยในสหรัฐที่ตามคดีนี้ รวมถึงคนในวงการศาสนาในประเทศไทยต่างพยายามส่งเรื่องรื้อคดีใหม่ การพิจารณาคดีเกิดขึ้นหลายครั้งร่วมระยะเวลากว่า 10 ปี จนในที่สุด โจนาธานก็ถูกตัดสินโทษว่าผิดจริง และต้องจำคุก 281 ปี

การพิจารณาคดีของโจนาธาน ดูดี้ ใช้ระยะเวลาร่วม 10  ปี
การพิจารณาคดีของโจนาธาน ดูดี้

แม้ว่าจะมีการตัดสินไปแล้วว่าโจนาธาน ดูดี้ คือผู้กระทำผิดจริงในคดีนี้ จากคำให้การที่เขายอมรับผิดเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คนไทยหลายคนที่ตามเรื่องนี้กลับไม่เชื่อว่าเขาคือผู้กระทำผิดแค่คนเดียว ทั้งกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่ไม่ชอบมาพากล สภาพศพและบริเวณที่เกิดเหตุไม่น่าใช่การฆ่าเพื่อปล้นทรัพย์ การปล่อยตัวแกงค์ Tucson Four ไปอย่างง่ายดาย รวมถึงประเด็นที่มีสุนัขตำรวจพบกลิ่นเฮโรอีนบริเวณวัด

ประเด็นนี้กลับไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหร่นัก แต่กลับกลายเป็นว่าตำรวจพยายามรีบปิดคดี จนทำให้ดูเหมือนว่าเป็นคดีคนไทยฆ่าคนไทยด้วยกันเอง ไม่เกี่ยวกับคนอเมริกัน