“ภาคินัย” นักเขียน นิยายสยองขวัญ ชื่อเสียงติดอันดับแนวหน้าของเมืองไทย ผลงานของนักเขียนท่านนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายต่อหลายเรื่อง โดยเฉพาะหากใครเป็นแฟนละครช่อง 7 คงจะคุ้นเคยกับละครผีภายใต้นามปากกา “ภาคินัย” อย่างเรื่องที่โด่งดังที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “นางชฎา”
ความจริงแล้วภาคินัยไม่ได้มีแค่เพียงนิยายผีไทยโบราณเท่านั้น แต่ยังมีนิยายอีกหลายเรื่องของเขาที่คุมโทนมาในแนวสยองขวัญ เนื้อเรื่องแปลกใหม่ ชวนติดตาม ยิ่งอ่านยิ่งติด
บทความนี้ ghostsfolder เราจะพาไปดูกันสิว่า นักเขียนนิยายแนวสยองขวัญเบอร์ต้นของไทย จะมีเรื่องไหนที่ควรค่าแก่การอ่านบ้าง
1. เกาะตุ๊กตาตาย
ปกติแล้วเวลานึกถึงหนังหรือนิยายที่เกี่ยวข้องกับตุ๊กตาผี ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงหนังหรือนิยายฝรั่งกันใช่ไหมล่ะ ซึ่งต้องยอมรับว่าทางฝั่งตะวันตก เขานิยมแนวนี้กันเยอะมาก ส่วนของฝั่งไทยก็มีนิยายของคุณภาคินัยนี่แหละแหวกแนวสุด ชื่อเรื่อง “เกาะตุ๊กตาตาย” เรื่องราวของ “เลวา” ชายหนุ่มที่ได้รับงานในฐานะนายหน้าขายที่ดินเกาะแห่งหนึ่งจาก “เมอร์ฟี่” ทายาทมหาเศรษฐีที่เสียชีวิต บนเกาะแห่งนั้นเขาพบกับเรื่องราวประหลาด เมื่อตุ๊กตาที่ถูกทิ้งขว้างนับพันตัวกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
2. คดีหลอน ลิฟต์ซ่อนศพ
เรื่องราวของ “แป้ง” บรรณารักษ์สาวที่ถูกส่งตัวมาทำงานที่ห้องสมุดของคณะแพทย์ศาสตร์แห่งหนึ่ง แต่สิ่งที่เธอต้องพบเจอคือ การหลอกหลอนของสิ่งลี้ลับหรือดวงวิญญาณของใครสักคน ยิ่งเมื่อเธอได้รับรู้เกี่ยวกับตำนาน “ลิฟต์ผีสิง” ในห้องสมุด เธอก็โดนเล่นงานเละไม่เป็นท่า
ต้องบอกเรื่องนี้เป็น นิยายสยองขวัญ ที่บรรยากาศหลอนสุด ๆ เวลาอ่านจะให้ฟีลย้อนเวลาไปสมัยเราเรียนมหาลัย โดยเฉพาะใครอยู่หอในนักศึกษา แล้วต้องมารับรู้เรื่องลี้ลับในมหาลัย นั่นแหละเรื่องนี้คือฟิลนั้นเลย แต่ด้วยความที่เป็นลายเซ็นต์ภาคินัยอ่ะเนอะ จะมาผีหลอกวิญญาณหลอนธรรมดาก็กระไรอยู่ เรื่องนี้เขาผสมฟีลสืบสวนสอบสวนไปในตัว และตอนจบก็ยังคงหักมุมหัวทิ่มพื้นตามสไตล์นักเขียนท่านนี้
3. Dream Land สวนสนุก แดนนรก
เกริ่นก่อนว่าเรื่องนี้ไม่มีผี ไม่มีแนววิญญาณล้างแค้นข้ามภพชาติ จะออกแนวแก้แค้นมากกว่า เรื่องราวของ “Dream Land สวนสนุก แดนนรก” เริ่มต้นจากการที่ “ธนา” เด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัด เขาอยากมีเพื่อนเหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่ดูเหมือนเพื่อนในโรงเรียนไม่ค่อยอยากคบเขาสักเท่าไหร่ มีเพียงแค่ “นกฮูก” ที่เข้าใจและยอมเป็นเพื่อนกับเขา
แต่ไม่ใช่เพียงเท่านี้นะสิ ในโรงเรียนก็มีหัวโจ้ก ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือ “แม็กกี้” และก๊วนเพื่อนตัวแสบของเขาที่ชอบกลั่นแกล้ง บูลลี่ธนาสารพัด แต่ร้ายสุดคือการแกล้งพาธนาไปสวนสนุกแห่งหนึ่ง พวกเขาแกล้งรุนแรง ธนาถูกหลอกให้ขึ้นไปบนหอคอยร้าง เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อร่างเขาตกลงมาจนไม่สามารถเดินได้เหมือนเก่า ความแค้นต่อกลุ่มแม็กกี้ก่อตัวขึ้น จนเกิดเป็นเหตุการณ์ล้างแค้นสุดสยอง ณ สวนสนุกที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
4. Bunraku หน้ากากฆาตกรรม
อาร์ต เติ้ล และวนิดา เพื่อนที่เคยเรียนร่วมสถาบันเดียวกัน ต้องมาพบกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อเพื่อนร่วมสถาบันเริ่มทยอยตามไปทีละคนสองคน ฟังดูก็ไม่น่าแปลกอะไร เพราะคนเรามันก็ต้องตายเป็นธรรมดา ถูกป่ะ? แต่ความแปลกคือ ทุกศพที่ตายสวมใส่หน้ากากบันระกุเอาไว้
ทั้ง 3 คนนั้นความจริงก็ไม่อยากยุ่งเท่าไหร่นัก แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนร่วมสถาบันคนอื่น ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นั่นทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นแบบจำใจ เพราะกลัวว่าเหยื่อรายถัดไปจะเป็นพวกเขาเอง
“Bunraku หน้ากากฆาตกรรม” ถือว่าเป็น นิยายสยองขวัญ ที่พล็อตน่าสนใจ การดำเนินเรื่องสนุก ยิ่งถ้ามีโอกาสถูกซื้อลิขสิทธิ์สร้างเป็นซีรี่ส์ ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะมันส์ขนาดไหน

5. ดารัณดา
ยกให้เป็นนิยายเรื่องโปรดของภาคินัยที่อยากจะให้มีใครซื้อลิขสิทธิ์ไปทำละครเสียจริง ๆ สำหรับเรื่อง “ดารัณดา” ภาพวาดปริศนาซ่อนความสยองของใครบางคน
“คณา” ถึงกับกุมขมับ เมื่อลูกชายของเธอวาดภาพสยดสยอง ซึ่งภาพที่ลูกชายวาดมันดันไปเชื่อมโยงเกี่ยวกับ “ความตาย” ทั้งสิ้น เธอคาดคั้นถามลูกชาย จนได้คำตอบว่าคนทำชื่อ “ดารัณดา” หญิงสาวที่ถูกฆาตกรรม แล้วศพถูกแขวนไว้ในหมู่บ้านร้างเพื่ออำพรางคดี นี่คือปริศนาที่คาใจคณาว่า ทำไมดารัณดาถึงใช้ลูกชายเธอเป็นสื่อ เธอเป็นใคร ต้องการอะไร นี่คือสิ่งที่คณาต้องไขปริศนาหาคำตอบ นี่คือทางเดียวที่จะหยุดทุกสิ่ง
6. 22 นาฬิกา ถึง-ช้า-ตาย
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณภาคินัยเขียนตอนสถานการณ์โควิดเมื่อปี 2563 เป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีการปรระกาศเคอร์ฟิว นิยายเรื่อง “22 นาฬิกา ถึงช้าตาย” ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์โควิด 19 ตอนนั้น เมื่อรัฐบาลไทยได้กำหนดให้ประชาชนต้องกลับถึงเคหะสถานภายในเวลา 22 นาฬิกา ถึงเวลา 4 นาฬิกา ห้ามถึงบ้านช้ากว่า 22 นาฬิกา และห้ามออกก่อนเวลา 4 นาฬิกา
รัฐบาลได้ฝังไมโครชิพไว้ที่หน้าอกทุกคน หากใครกลับถึงบ้านไม่ทันเวลา หรือออกจากบ้านก่อนเวลา โปรแกรมที่ตั้งไว้จะทำงาน โดยการส่งคลื่นไฟฟ้าเข้าไปทำลายการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตทันที
7. Time หมุนเวลาตาย
ยกให้เป็นอีกหนึ่ง นิยายสยองขวัญของนักเขียนท่านนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่า พล็อตน่าสนใจและแหวกแนวจากนิยายไทยทั่วไปจริง ๆ สำหรับ Time หมุนเวลาตาย เป็นเรื่องราวของหญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและสังคม จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอขับรถผ่านอุโมงค์ที่มิติเวลาบิดเบี้ยว นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อผ่านอุโมงค์ ปรากฏว่าเวลาเธอหายไป 1 ปี
เธอได้รับ “สร้อยนาฬิกา“ แทนคำขอโทษจากใครคนหนึ่ง สร้อยวิเศษนี้สามารถพาเธอ “ย้อนเวลา” หรือ “เดินทางข้ามเวลาไปข้างหน้า” แล้วแต่เธอจะเลือก แต่การเลือกหมุนเวลา 1 ครั้ง มีข้อแม้ว่าจะต้องฆ่าหนึ่งชีวิตเพื่อแลกมา
8. พิพิธภัณฑ์หุ่นหั่นหัว
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งที่ถูกสร้างด้วยเงินทุนหนาของ “มินจง” นักธุรกิจหนุ่มชาวเกาหลีใต้ที่มีความตั้งใจสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง “สยามเวิร์ด” เป็นของตัวเอง ภายใต้คำเตือนจากคนโบราณที่ว่า หุ่นขี้ผึ้งต้องสร้างจากคนตายเท่านั้น หากยังดื้อสร้างจากคนเป็น จะเกิดอาเพศขึ้น
ด้วยความดื้อรั้น เห็นแก่เงินของนายทุน “ชินวุฒิ” มือขวาของมินจง ถูกมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ที่สร้างจาก “คนเป็น” เรื่องราวสุดสยองขนพองเริ่มต้นขึ้น เมื่อความตายมาเคาะประตูถึงหน้าบ้านพวกเขา วิธีเดียวที่จะหลุดพ้นคือ จะต้องตัดคอหุ่นของตัวเองก่อนตาย แต่พวกเขาจะทำได้หรือไม่ … ต้องไปหาอ่านเองจ้า
9. ซีรี่ส์ชุด 7 วันจองเวร
ถ้าให้พูดถึง นิยายสยองขวัญ ของคุณภาคินัยแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าไม่มีใครไม่รู้จักซีรี่ส์ชุด “7 วัน จองเวร” ซีรี่ส์ที่โด่งดังของคุณแอมป์ เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวสยองขวัญ 7 วัน 7 เหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม
7 วัน จองเวร เป็นมินิซีรี่ส์ตอนไม่ยาวมาก แต่ละตอนจะมีเนื้อหาแนวผีหลอกวิญญาณหลอน เช่น ลอยกระทง จงเป็นศพ , ครรภ์อาฆาต , กระจกลวงตาย , หอมกลิ่นศาลพระภูมิ ฯลฯ ออกแนวคล้ายตำนานผีท้องถิ่น ผีในโรงเรียนประมาณนั้น แต่ทุกเรื่องอ่านเพลิน และสยองของจริง
10. ฆาตกาล
ฆาตกาล นิยายไซไฟผสมกับความสยองขวัญ ว่าด้วยเรื่องราวของ “เกิดต้น” ชายหนุ่มที่เสียชีวิตด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาในปี 2017 แต่ด้วยฐานะทางครอบครัวของเขา บวกกับความปรารถนาของครอบครัวที่ยังอยากให้เขากลับมามีชีวิตอยู่ พวกเขาจึงทำการ Cryonics ซึ่งเป็นการแช่แข็งศพเอาไว้ เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ร่างของเขาจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เขาต้องพบกับครอบครัวรุ่นเหลนที่คอยดูแลร่างเขามาโดยตลอด ประกอบกับความต้องการที่จะปลดชีวิตเขาจากมือใครบางคน
11. ปรารถนาปาหนัน
หญิงสาวรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ที่ริอาจมีความรักกับชายหนุ่มรูปงาม แต่เธอทำได้เพียงแอบรัก เพราะคิดว่าชายหนุ่มไม่คู่ควรกับเธอ ซ้ำร้ายเธอยังต้องถูกประจานให้อับอายโดย “วศี” หญิงสาวรูปงามคู่หมั้นของชายหนุ่ม นั่นเป็นสาเหตุให้ “รำพึง” ผู้เป็นแม่ของหญิงสาวอัปลักษณ์โกรธแค้นแทนลูกสาว
เธอจึงตัดสินใจเดินทางไปในป่าลึกเพื่อขอพรจากปีศาจที่สิงในแท่นศิลาแลงในถ้ำลึก เพื่อให้ลูกสาวเธอเกิดใหม่ คำขอนั้นสมปรารถนา ปาหนันเกิดใหม่ด้วยใบหน้าสวยเสียจนไม่มีใครจำเธอไดเ สวยเสียจนบรรณแอบหลงรักจริง แต่ความสวยต้องแลกมาด้วยชีวิตคนในยามราตรี มิเช่นนั้น เธอจะกลับไปหน้าตาอัปลักษณ์เช่นเดิม
12. นางชฎา
ยกให้เป็น นิยายสยองขวัญ ขึ้นหิ้งตลอดกาลของนามปากกาภาคินัยเลยก็ว่าได้ เรื่องราวของ “เตชิต” และ “ชมพู” คู่หมั่นที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียน พวกเขาซื้อบ้านเรือนไทยเพื่อเป็นเรือนหอในวันแต่งงาน แต่ต้องพบกับความผิดปกติบางอย่างเพียงก้าวแรกที่เข้ามาในบ้านหลังนี้ ซ้ำพวกเขายังต้องพบกับ “ลิน” เพื่อนสมัยเรียนอีกคนที่เตชิตหลงรัก การปรากฏตัวของลิน ดันไปเชื่อมโยงกับกลุ่มเพื่อนสมัยเรียนและชมพู เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เมื่อพวกเขาต้องพบเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาด บวกกับปริศนาการที่ลินหายตัวไปตลอดหลายปีที่ผ่านมา
นางชฎา เป็นนิยายที่เคยถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์เมื่อปี 2015 กวาดเรตติ้งไปถึง 14.4 จนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งนิยายที่สร้างชื่อให้กับภาคินัย

ปฏิเสธไม่ได้ว่านามปากกา “ภาคินัย” คือผู้ปฏิวัติวงการนิยายและละครไทย ด้วยลายเซ็นการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์ เนื้อเรื่องส่วนใหญ่โดนใจคนไทย ยิ่งช่วงหลังมีพล็อตเรื่องแนวแปลกใหม่ให้เราได้ลองอ่านกัน แม้ว่าคุณภาคินัยจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่ก็ยังฝากผลงานดี ๆ ให้แฟนหนังสยองขวัญได้อ่านกันมากมาย

