หากพูดถึงหนังสยองขวัญหรือภาพยนตร์ที่มีความโหดและน่ากลัวเราก็อาจจะมีภาพสุดหลอนของพล็อตเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภูตผีวิญญาณ หรือพวกจิตหลอนอะไรประมาณนั้น บวกกับภาพบรรยากาศมืด ๆ มัว ๆ ได้กลิ่นอายของความอึดอัด เคว้งคว้าง ยิ่งทำให้คนดูตื่นเต้นและลุ้นตาม ๆ กันไป ถ้าให้เทียบระหว่างหนังวยองขวัญในยุคเก่าหรือแรกเริ่มกับยุคปัจจุบัน แน่นอนว่าต่างกันสิ้นเชิงแน่นอน ทั้งเรื่องของภาพ เอฟเฟค แต่ถ้าเป็นหนังสยองขวัญยุคคลาสิคที่ซึ่งเป็นยุคที่เทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงมากนัก จะเล่นกับความกลัวของคนอย่างไร วันนี้เราเลยอยากจะมาฝาก หนังสยองขวัญ ยุค 90 ที่คอหนังโหดไม่ควรพลาด
The Texas Chainsaw Massacre (1974)
สิงหาสับ
เรื่องวิปริตสุดจิตตกของ The Texas Chainsaw Massacre (1974) หนังสยองขวัญยุคคลาสิคจากเท็กซัส ไล่ล่ากันได้อย่างไม่ทิ้งห่างความน่ากลัวจนประสาทแทบจะกินกับครอบครัวสุดระทึกขวัญ ที่เลี้ยงเจ้าหน้ากากหนังคนพร้อมเลื่อยตัดเฉพาะตัว ไล่กวดแบบไม่เหน็ดเหนื่อย เมื่อหนุ่มสาว 5 คน เดินทางหวังไปพักผ่อนกันอย่างมีความสุขสไตล์วัยหนุ่มสาวแต่ก็พลัดพลูหลงเข้ามาเจอบ้านหลังหนึ่งแบบไม่คิดฝันว่าจะเกินธรรมดา เมื่อทั้งบ้านเป็นความจริงของความวิปริต
การดำเนินเรื่องไม่ได้เลือดสาดขนาดนั้น แต่ทำผู้ชมต้องพบปัญหาทางจิตเข้าขั้นรุนแรงกับการใช้ลูกเล่นตั้งใจทำแบบไม่เห็นชัดแต่ทำคนดูต่างคิดกันแล้ว เอาคนดูคิดไปก่อนคือฉากจับคนไปแขวนบนเหล็กแหลมให้ถ่ายเห็นมุมแหลม ๆ ของเหล็กขณะกำลังดิ้นอยู่และให้แทงเหยื่อในเวลาต่อมาเป็นข้อประเด็นที่ว่าถ้ารอดคงไม่ใช่กับที่นี่เพราะถึงอย่างไงก็ตายกันลูกเดียว แต่ตัวหนังเลือกจะเอาแบบแห้ง ๆไม่เอาเลือดกระเด็นไปมาจนชวนอ้วกแต่เลือกเอาแบบสด ๆให้ผู้ชมกลับไปคิดเองว่าจะเป็นแบบไหน ใครได้ดู หนังสยองขวัญ เวอร์ชั่นแรกแล้ว นอนไม่หลับแน่นอน
Carrie (1976)
สาวสยอง
Carrie (1976) ผลงานการกำกับของ Brian De Palma ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญอย่าง Stephen King เล่าเรื่องราวของเด็กหญิงสาวแรกรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘แคร์รี่’ แต่ความพิเศษในชีวิตสาววัยรุ่นธรรมดาหน้าตาน่ารักและบริสุทธิ์ คือการมีพลังจิตพิเศษ แต่ต้องใช้ชีวิตอย่างน่าสงสารด้วยการถูกเพื่อนหัวเราะเยาะเย้ยจากการมีประจำเดือนครั้งแรก ถูกกลั่นแกล้งหลอกให้ตายใจสารพัดซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่สิ่งเลวร้ายที่สุดที่ทเธอต้องเผชิญคือทำให้อับอายขายหน้าในค่ำคืน Prom Night ที่มีเบื้องหลังเป็นหนุ่มแสบสุดฮอตของโรงเรียน นั่นทำให้เธอจึงได้แสดงบางสิ่งอย่างออกมา จนทำให้คุณหัวเราะไม่ออก
Friday the 13th (1980)
ศุกร์ 13 ฝันหวาน
Friday the 13th (1980) เปิดเนื้อเรื่อง ในแคมป์คริสตัลแลป เป็นช่วงของกลุ่มวัยรุ่นจะมาพักร้อนเล่นน้ำในทะเลสาปกันอย่างสบาย ในขณะที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือถึงสถานที่แห่งนี้ว่ามีคนตายจนต้องปิดทำการไป และตอนนี้เองแคมป์แห่งนี้ได้กลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ระหว่างการเปิดแคมป์อันสมบูรณ์ทุกคนต่างแยกย้ายตามอัธยาศัยทำหน้าที่ของตัวเอง ทว่าความสยองได้คืบคลานเข้ามาจัดการเหยื่อทีละรายอย่างสยดสยอง การฆ่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นตำรับยอดฮิต โดยสร้างความสั่นสะเทือนวงการหนังสยองขวัญยุคคลาสิค ซึ่งได้กลายเป็นจุดเด่นของ หนังสยองขวัญยุคใหม่ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะเรื่องพฤติกรรมของตัวละครที่ต้องตายจริงหรือไม่จริง ในเรื่องนี้ต้องพบกันบ่อยคือเวลาวัยรุ่นมีอะไรกัน ถ้าไม่ก่อนก็หลังจะต้องตายกันแน่นอน หรือบางทีก็ฆ่าทั้งยังบนเตียงแบบนั้นเลย ถือว่าเป็นเรื่องจังหวะ ทำให้ผู้ชมสะดุดอารมณ์ไปเป็นอย่างอื่นได้แบบเร้าใจ แถมยังมีภาครีเมคมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ลดความน่ากลัวลงเท่าไหร่
PET SEMATARY (1989)
กลับจากป่าช้า
PET SEMATARY (1989) หนังสยองขวัญยุคคลาสิค สร้างจากวรรณกรรมขายดีของ Stephen King เล่าเรื่อง ป่าช้า ซึ่งถ้าใครนำสัตว์มาฝั่งแล้วภายในสามวันจะกลับฝื้นคืนชีพได้ ว่ากันว่ามีซาตานสิงสถิตย์อยู่ เริ่มจากครอบครัวหลุยส์ ครีด ย้ายบ้านมาอยู่ในชนบทแห่งหนึ่ง ที่ป่าหลังบ้านมีทางเดินไปสุสานฝังสัตว์ ครอบครัวเขามีด้วยกัน 4 คนคือพ่อแม่พี่สาวและน้องชาย มีสัตว์เลี้ยงคือแมว 1 ตัว เนื่องจากลูกสาวของเขารักแมวที่เลี้ยงมาก มีวันหนึ่งภรรยาและลูกทั้งสองต้องเดินทางไปต่างเมือง เขาต้องอยู่บ้านคนเดียว แต่โชคร้ายแมวที่ลูกสาวเขารักเสียชีวิต
คนข้างบ้านเลยเล่าว่าหากใครนำศพไปฝังเอาไว้จะฟื้นคืนชีพและกลับมาได้ เขาจึงนำแมวไปฝัง แต่เมื่อแมวกลับมาแล้วกลับไม่เหมือนเดิมมีความโหดร้ายคลุมข้างราวกับถูกปีศาจสิง จากนั้นลูกคนเล็กของเขาต้องประสบอุบัติเหตุรถชนเขาทำใจไม่ได้จึงนำศพลูกของเขาไปฝังในสุสานแห่งนั้น และแล้วโศกนาฏกรรมและความเสี่ยงจึงเกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา แต่จะต้องพบเจออะไรอีกบ้าง ลองไปหาคำตอบด้วยการปิดไฟแล้วเปิดหา หนังสยองขวัญ เรื่องนี้กันดูได้เลย
Candy Man (1992)
เคาะนรก 5 ครั้ง วิญญาณไม่เรียกกลับ
หนังสยองขวัญยุคคลาสิค Candy Man (1992) เริ่มจากตำนานเรื่องเล่าและความเชื่อ เกี่ยวกับปีศาจตัวหนึ่งซึ่งถ้าเราเอ่ยชื่อมัน 5 ครั้ง ตรงหน้ากระจก มันจะมาปรากฏตัวให้เห็นด้านหลังเรา และมันไม่ได้มามือเปล่าแต่มันยังพกเอามือตะขอคู่ใจ ที่พร้อมจะกระซวกไส้ใครก็ตามที่เรียกหามัน ซึ่งหนังสร้างจากงานเขียนของ Clive Barker มีความน่าสนใจพอตัว เกี่ยวกับตำนานความเชื่อและเรื่องราวของปิศาจที่เต็มไปด้วยความแค้น จากที่ฆ่าเฉพาะคนที่ต้องการ กลายเป็นว่าต้องฆ่าเพราะคำท้าทาย เพราะบางคนไม่เชื่อแถมดูถูกว่าไม่มีจริง
เรื่องราวเริ่มต้นที่ เฮเลน นักศึกษาสาวกำลังจะทำวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับตำนานพื้นบ้านและได้สดุดกับเรื่องราวหนึ่ง ซึ่งเธอคิดว่ามันน่าสนใจมาก ตำนานเกี่ยวกับชายมือตะขอที่เรียกกันว่า แคนดี้แมน โดยมีการเล่าขานกันมาว่าเป็นเรื่องราวเมื่อ 100 ปีก่อน เมื่อเฮเลนเริ่มติดตามเรื่องราวของแคนดี้แมน ชีวิตของเธอก็ค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย จนในที่สุดเธอก็ค้นพบความสะพรึงแบบไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เมื่อเธอพยายามเรียกแคนดี้แมนให้มาหาเธอ
The Blair Witch Project (1999)
สอดรู้ สอดเห็น สอดเป็น สอดตาย
The Blair Witch Project (1999) หนังสยองขวัญยุคคลาสิคที่สร้างจากเรื่องจริงโดยย้อนไปใน เดือนตุลาคม ปี 1994 นักศึกษาวิชาภาพยนตร์ 3 คนหายตัวเข้าไปในป่าเบอร์กิทส์วิลล์ รัฐแมรี่แลนด์ ขณะถ่ายทำสารคดี อีกปีต่อมามีผู้ค้นพบฟิล์มของพวกเขา การรวมตัวกันถ่ายทำสารคดีในป่าของรัฐแมรี่แลนด์ เกี่ยวกับเรื่องตำนานพื้นเมือง แม่มดแบลล์ ว่ากันว่า เคยมีเด็กหายตัวไปในป่าเพราะถูกแม่มดแบลล์จับตัวไป พวกเขาทั้งสามตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าลึกโดยฮีเธอร์นำทางโดยการใช้เพียงแผนที่และเข็มทิศเท่านั้น แล้วพวกเขาจะต้องไปเจอกับเรื่องราวสุดแปลกเกินจะรับมือ
ระดับความน่ากลัวให้ คะแนนเต็มสิบ เพราะเป็นภาพยนตร์แนว Found Footage ถือกล้องกันเอาเอง ทำให้องค์ประกอบของภาพดูสมจริง เหมือนเราได้เข้าไปในเหตุการณ์ ทั้งเสียงเอฟเฟคก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ถึงกับหลอนค้างกันเลยทีเดียว เส้นเรื่องก็ถอดจากหลักฐานในกล้องวิดิโอของจริง ทำให้มีความเรียล ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าในตอนจบแล้วเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าใครที่ดูก็คงเดากันเป็นเสียงเดียวกันอยู่ดี
Jeepers creepers (2001)
อสูรนรกใต้โลก
Jeepers creepers (2001) เริ่มต้นเรื่องราวจากการเดินทางของสองพี่น้องซึ่งได้ขับรถผ่านโบสถ์เก่าแก่แห่งหนึ่ง โดยสังเกตเห็นว่ามีชายปริศนากำลังทิ้งสิ่งของขนาดใหญ่ มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ลงในท่อข้างโบสถ์ แต่ก่อนจะได้ทันตั้งตัว ชายคนนั้นก็หันมาเห็นและไล่ตามพวกเขาและหายไปท่ามกลางความชุลมุน เมื่อคิดว่าปลอดภัยดีแล้ว พวกเขาจึงตัดสินใจจะเข้าไปสำรวจในท่อข้างโบสถ์ แล้วพบว่าในนั้นเต็มไปด้วยซากศพมากมายของมนุษย์ พร้อมกับต้องเผชิญหน้ากับการตามล่าอย่างสุดโหดเหนือธรรมชาติที่มาพร้อมกับเสียงเพลง “Jeepers Creepers…”
ถึงแม้ตัวหนังเองก็ไม่ได้น่ากลัวจนทำให้ถึงกับต้องร้องกรี๊ด! ออกมาในขณะที่กำลังรับชมอยู่ และการตัดสินใจโง่ๆของตัวละครในเรื่องหลายจุดก็พาลทำให้รู้สึกหงุดหงิดแต่ก็ยังพออยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ เพราะที่จริงแล้วในทุกเรื่องตัวละครดำเนินเรื่องมักที่จะอยากรู้อยากเห็นจนเกินพอดีและนำพาไปสู่หายนะเพื่อให้เรื่องราวสามารถดำเนินต่อไปได้ เหมาะกับแฟนหนังสยองขวัญเป็นอย่างมาก ดูจบแล้วก็ยังสามารถเปิดดูซ้ำได้อีก เพราะมันมีเรื่องราวและตำนานซ่อนอยู่เบื้องหลังความหลอนมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 7 หนังสยองขวัญยุคคลาสิค ฆ่าโหด ไม่เลือกเหยื่อ ที่เราชาว Ghostsfolder มาฝาก แค่ภาพประกอบยังน่ากลัวขนาดนี้ แล้วในตัวหนังจะขนาดไหน เพื่อน ๆ ที่กำลังเบื่อหรือยังมองหากิจกรรมแก้เบื่อในช่วงวันหยุด ต้องลองดูหนังคลาสิคที่เราแนะนำได้เลย เหมาะกับคอหนังสยองวัญและพวกที่ชอบท้าทายขีดจำกัดของตัวเองอย่างมาก ถึงแม้ว่าบางเรื่องจะไม่ใช่เรื่องผี แต่ก็ยังคงความหลอนไว้ในคราบเหตุการณ์ฆาตรกรรม หรือแม้แต่ศพเน่าเฟะ ทำให้ติดตากันจนลืมไม่ลงแน่นอน
- 7 การทดลองกับมนุษย์ การทดลองสุดสยองที่เคยเกิดขึ้นบนโลกของเรา - October 11, 2024
- 9 ตำนานเมืองวันฮาโลวีน ความน่ากลัวของเทศกาลแห่งความสุข - October 8, 2024
- 10 ช่องยูทูปสุดหลอน น่าดูที่สุด เน้นบรรยากาศและเสียงหลอน ต้องดูตอนกลางคืน! - October 8, 2024