เนวาด้าทัน

เนวาด้าทัน ฆาตกรเด็กจากญี่ปุ่นที่ลงมือฆ่าเพื่อนตัวเอง จนกลายเป็นไอดอล

หัวข้อน่าสนใจ

เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักการถูกบูลลี่ (Bully) แต่รู้หรือไม่ว่า แค่คำพูดเพียงเล็ก ๆ น้อย ก็สามารถสร้างผลกระทบที่ใหญ่เกินแก้ไขได้เช่นกัน วันนี้เรา Ghostsfolder จะพามารู้จักกับคดีฆาตกรรมในประเทศญี่ปุ่น ที่มีฆาตกรเด็กและได้รับการขนามนานว่าเป็น “ฆาตกรที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์” เนวาด้าทันเด็กสาวที่ลงมือปาดอเพื่อนตัวเองจนกลายเป็นไอดอลทางสังคมอินเตอร์เน็ต

เนวาด้าทัน คือใคร ?

เนวาด้าทัน หรือ ‘นัทสึมิ ซึจิ’ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1992 ณ ตอนนั้น เธอมีอายุเพียง 11 และกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองซาเซโบะ จังหวัดนางาซากิ นัทสึมิเป็นเด็กที่มีหน้าตาน่ารัก มีความกระตือรือร้นสูง เป็นนักเรียนดีเด่นและฉลาดมาก จากการทดสอบไอคิว เธอมีไอคิวสูงถึง 140 เข้าขั้นอัจฉริยะเลบยทีเดียว เธอชอบเล่นกีฬาอย่างบาสเก็ตบอล ดูภาพยนต์ และท่องโลกอินเทอร์เน็ต

เนวาด้าทัน คือใคร ?
‘นัทสึมิ ซึจิ’ เกิดเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1992

เธอมีเพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งชื่อ ‘ซาโตมิ มิทาไร’ ชีวิตของเธอดูปกติดีทุกอย่าง แต่ภายหลังก็มีผู้สังเกตว่าเธอค่อนข้างมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และชอบเก็บตัว ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการดูภาพยนตร์ที่มีเนื้อหารุนแรง โดยภาพยนต์เรื่องที่เธอชอบเป็นพิเศษคือ “Battle Royale” เนื้อหาเกี่ยวกับคนกลุ่มหนึ่งได้ถูกนำไปปล่อยเกาะ ทุกคนจะถูกสวมใส่ปลอกคอที่จะระเบิดหลังจากเวลาผ่านไปชั่วระยะหนึ่ง มีวิธีเดียวที่จะหยุดระเบิดนั้นได้คือการฆ่ากันเอง ผู้ที่เหลือรอดเป็นคนสุดท้ายคือผู้ที่รอดตายเพียงหนึ่งเดียว

ภาพยนต์เรื่องที่เธอชอบเป็นพิเศษคือ "Battle Royale"
ภาพยนต์เรื่องที่เธอชอบเป็นพิเศษคือ “Battle Royale”

พฤติกรรมที่รุนแรงที่เกินควบคุม

ในปีนั้น นัทสึมิเธอถูกครอบครัวสั่งให้เลิกเล่นบาสเก็ตบอล และออกจากชมรมกีฬา เพราะผลการเรียนของเธอนั้นตกลงเล็กน้อยจากที่เคยเป็น ซึ่งสำหรับชาวญี่ปุ่นถือว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง นั่นทำให้เธอจึงเริ่มดูภาพยนต์มากขึ้น และระบายความเครียดด้วยการเล่นอินเทอร์เน็ตมากกว่าเดิม ใช้เวลาว่างในการเขียนนิยาย และไดอารี่ นอกจากนี้ยังพบว่าเธอชอบเข้าชมเว็บไซต์ที่มีเนื้อหารุนแรงสยองขวัญที่ถูกห้ามสำหรับเด็กมากมาย

Cyber bully ไม่ใช่เรื่องตลก

อย่างที่ทราบกันดีกว่า การ Cyber bully เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรตระหนักและใส่ใจกับปัญหาอย่างมาก เพราะเพียงจุดเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นขึ้นด้วยความสนุกก็สามารถกลายเป็นโศกนาฏกรรมได้เพียงชั่วพริบตา โดยในกรณีของเนวาด้าทัน เริ่มเหตุการณ์ขึ้นในวันที่ 27 พฤษภาคม 2004 เมื่อซาโตมิ เพื่อนของเธอเขียนคอมเมนท์ลงในเว็บบอร์ดของนัทสึมิ เป็นเชิงล้อเล่นว่า “หนัก” ซึ่งหมายถึงเธอนั้นอ้วนเกินไป เป็นเหตุให้นัทสึมิไม่พอใจและถือว่านั่นเป็นคำหยาบคาย อีกทั้งยังเป็นการดูหมิ่น ซึ่งเรื่องเล็ก ๆ นี้ ก่อให้เกิดการโต้เถียงกัน และได้เป็นจุดเริ่มต้นให้นัทสึมิคิดฆ่าซาโตมิขึ้นมา

‘ซาโตมิ มิทาไร’ เพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียน
‘ซาโตมิ มิทาไร’ เพื่อนสนิทร่วมชั้นเรียน

ทามไลน์สงครามประสาทระหว่างนัทสึมิและซาโตมิ

  • วันที่ 28 พฤษภาคม นัทสึมิได้เขียนในไดอารี่ถึงวิธีฆ่าที่ตนจะเลือกใช้สามแบบคือ ใช้มีดคัตเตอร์ ใช้ที่เจาะน้ำแข็ง หรือไม่ก็บีบคอ พร้อมเขียนว่า “ฉันอยากจะฆ่ามันวันนี้แหละ แต่ทำไม่ได้”
  • วันที่ 29 พฤษภาคม นัทสึมิ เธอพยายามยื่นข้อเสนอให้ซาโตมิ เขียนคำขอโทษตน แต่ซาโตมิไม่ยอม กลับตอบเธอว่า “อวดเก่ง” แม้นัทสึมิจะทำการลบคอมเมนท์ทิ้ง แต่ซาโตมิก็เขียนขึ้นมาใหม่อีกหลายครั้ง จนในที่สุดนัทสึมิก็ตอบโต้ด้วยคำว่า “แกหายไปจากโลกนี้ซะเถอะ!”
  • วันที่ 31 พฤษภาคม นัทสึมิ เขียนไดอารี่ว่า “วันพรุ่งนี้ ฉันตัดสินใจจะฆ่ามันด้วยมีดคัตเตอร์”
  • วันที่ 1 มิถุนายน นัทสึมิก็มาเรียนตามปกติ เธอได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกับเพื่อน ๆ และครูในโรงเรียน ตัวเธอเองสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม สกรีนคำว่า “NEVADA” ยืนถ่ายรูปใกล้กับซาโตมิด้วยท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งคู่

ตอนพักกลางวัน นัทสึมิได้เรียกซาโตมิเข้าไปในห้องเรียนว่างเปล่าห้องหนึ่งที่ชั้นสาม สั่งให้นั่งเก้าอี้ ปิดม่าน จากนั้นก็พูดกับซาโตมิว่า “ฉันจะฆ่าเธอ” แต่ซาโตมิก็ไม่หนี ด้วยไม่คิดว่านัทสึมิจะกล้าทำจริง ๆ แต่เธอกลับดึงแว่นตาออกจากหน้าของเพื่อนแล้วใช้มือข้างหนึ่งปิดตาซาโตมิไว้ ก่อนที่จะใช้มีดคัตเตอร์เชือดคอเป็นรอยยาว 10 เซนติเมตร ลึกถึง 10 เซนติเมตร ตัดหลอดลมขาด จากนั้นก็กรีดที่หลังมือของซาโตมิลึกจนเห็นกระดูก ซาโตมิทรุดลงหมดสติทันที เพราะเสียเลือดมาก

เธอเองสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม สกรีนคำว่า "NEVADA"
เธอเองสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้ม สกรีนคำว่า “NEVADA”

เธอรอประมาณ 15 นาที จนคิดว่าเพื่อนตายสนิทแล้วจึงออกจากที่เกิดเหตุ เธอเดินเข้าชั้นเรียนตามปกติด้วยเสื้อผ้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเลือด สร้างความตกใจให้แก่ครูและเพื่อนเป็นอย่างมาก ครูประจำชั้น รีบแจ้งตำรวจทันที หลายคนพยายามถ่ายรูปเธอ และเธอก็หันมายิ้มหวานให้กล้อง ส่วนร่างของซาโตมิถูกพบโดยครู ตรวจพบว่าเธอยังหายใจอยู่จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลแต่สายเกินไปเสียแล้ว เธอเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน เมื่อตำรวจมาถึงและควบคุมตัวนัทสึมิ เด็กหญิงก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วพูดว่า “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” เธอฟูมฟายอยู่ในสถานีตำรวจทั้งคืนและไม่ยอมกินอะไร

คำรับสารภาพของนัทสึมิ กำเนิดเนวาด้าทัน

หลังจากที่เธอสงบลงก็ได้ให้ปากคำว่า เธอฆ่าผู้ตายเพราะผู้ตายเขียนข้อความใส่ร้าย ด่าทอเธอในอินเทอร์เน็ต “เธอเขียนเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับฉันหลายครั้ง ฉันไม่ชอบ จึงเรียกเธอมาและลงมือเชือดคอ ฉันยังประหลาดใจว่าทำไมฉันจึงทำสิ่งนั้น และฉันอยากขอโทษ” นี่คือคำสารภาพของเธอ

นัทสึมิถูกส่งตัวให้จิตแพทย์และนักจิตวิทยาเด็กเพื่อตรวจสอบอาการทางจิต เพราะหลายคนเชื่อว่าเธอน่าจะป่วยเป็นโรคแยกตัวจากสังคม เพราะเธอไม่ชอบสุงสิงพูดคุยกับใคร แต่ผลการตรวจพบว่าเธอมีสุขภาพจิตสมบูรณ์ดี ไม่มีความผิดปกติใด ๆ ศาลจึงตัดสินให้เธอมีความผิดจริงในข้อหาก่อคดีฆาตกรรม

ตัวตนของ ‘เนวาด้าทัน’ ได้เกิดขึ้น

จากรายงานล่าสุดเกี่ยวกับนัทสึมิระบุว่า เธอยังคงถูกคุมขังอยู่ในโรงเรียนดัดสันดาน ณ เมืองโตชิกิ แต่เรื่องราวนี้จบลงไม่ได้ง่าย ๆ เพราะมีใครบางคนได้โพสต์ภาพถ่ายใบหน้าของเด็กหญิงลงบนเว็บไซต์ชื่อดังของญี่ปุ่น โดยไม่มีการเซ็นเซอร์

ตัวตนของ ‘เนวาด้าทัน’ ได้เกิดขึ้น
ตัวตนของ ‘เนวาด้าทัน’ ได้เกิดขึ้น

แต่แทนที่สังคมจะออกมาประณามเด็กหญิงฆาตกรในด้านลบ กลับกลายเป็นกระแสในทางบวก มีผู้คนจำนวนมากพากันขนานนามเธอว่า “ฆาตกรที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์” พร้อมตั้งชื่อเล่นให้เธอว่า “เนวาด้าทัน” (NEVADA คือตัวอักษรที่สกรีนบนเสื้อของเธอวันที่ทำฆาตกรรม) หลังจากนั้นก็มีการ์ตูน ตุ๊กตา คอสเพลย์ เกมคอมพิวเตอร์ มาสคอต และอื่น ๆ อีกมายมายของเธอออกมา พวกนักร้องถึงกับเอามาตั้งเป็นชื่อวงดนตรีอยู่ระยะหนึ่ง ราวกับเธอได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น และยังคงมีแฟนอาร์ตของเธอเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

โดยปัจจุบันหลังจากที่เธอได้พ้นโทษ และได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกห้องขัง เธออาจจะเปลี่ยนชื่อและเปลี่ยนตัวตนเพื่อใช้ชีวิตใหม่ เนื่องจาก รูปภาพที่เธอเป็นฆาตกรนั้นไม่ได้มีการเซนเซอร์หรือปกปิดใบหน้าเอาไว้ ซึ่งทำให้ล่าสุดเราก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธอ ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน ทำอะไร และอยู่กับใคร