การที่ฆาตกรคนหนึ่งจะยกตัวเองให้กลายมาเป็น ฆาตกรต่อเนื่อง นั้นจะต้องมีจิตใจโหดเหี้ยม อำมหิตเกินกว่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะลงมือกระทำได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก มีการจำเพาะเจาะจงว่าฆาตกรรายนั้นได้สังหารเหยื่อมาแล้วอย่างน้อย 3 ราย ซึ่งทางนักจิตวิทยาได้สันนิษฐานหลักการนี้ว่า จะต้องเป็นพวกไม่มีพัฒนาการทางอารมณ์ ทำให้กลายเป็นพวกแปลกแยกและถูกปฏิเสธจากสังคมภายนอก เป็นผลทำให้บุคคลเหล่านี้ สามารถก่อคดีได้โดยไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เพราะฆาตกรประเภทนี้จะฆ่าเพื่อสนองตัณหาและอารมณ์ตัวเอง ไม่ใช่การฆ่าจากเหตุบังเอิญ หรือบันดาลโทสะ
ในวัติศาสตร์มีผู้ต้องหาได้ชื่อว่าเป็น ฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีความโหดเหี้ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ และน่าตกใจก็คือหนึ่งในรายชื่อที่เรานั้นหยิบยกมานี้มีนักโทษเพศหญิงอยู่ด้วย เพราะไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้นจะเป็นได้ และด้วยความวิปลาสของฆาตรกรต่อเนื่องขยายผลกว้างขึ้นไปมีหลายอุปสงค์เพิ่มเข้ามาทั้งความชอบในรสชาติเนื้อมนุษย์, ความประสงค์ต่อเงินและทรัพย์สิน ซึ่งมักจบลงด้วยการปลิดชีวิตเหยื่อ ดังนั้นไปดูกันว่ามีใครบ้างถึงขั้นถูกเรียกว่า ฆาตกรต่อเนื่อง สุดโหดเหี้ยมและอำมหิตที่สุดในประวัติศาสตร์
1. Luis Garavito ฉายา สัตว์ร้าย

ฆาตกรต่อเนื่องนามว่า ลุยส์ การาวิโต ขึ้นชื่อว่าเป็นบุคคลอันตรายถึงกับได้ฉายานามว่า “The Beast” แปลว่า สัตว์ร้าย เพื่อนบางคนเรียกเขาว่า Tribilín เป็นชื่อเรียกของ”กูฟี่” ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนของดิสนีย์ในภาษาโคลัมเบียน ลุยส์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1957 รู้จักกันในฐานะ ฆาตกรโหด และโจรหื่นชอบข่มขืนเหยื่ออย่างทารุณ และสังหารเหยื่อมามากกว่า 138 ราย แต่น่ากลัวไปกว่านั้นคือเหยื่อของเขาทั้งหมดนั้นเป็นเด็กและเยาวชน อายุตั้งแต่ 6 – 16 ปี เรียกได้ว่าเลวแสนเลวเลยล่ะ ด้วยวีรกรรมสุดโหด ทำให้ลุยส์ต้องโดนจองจำในเรือนจำพิเศษมีกระบวนการรักษาความปลอดภัยอย่างสูง ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้คนในประเทศโคลัมเบีย มิหนำซ้ำยังถูกขังแยกจากนักโทษคนอื่น ๆ ด้วย ลุยส์จะพ้นโทษในปี 2021 ที่ผ่านมา เลยทำให้มีเสียงคัดค้านจำนวนมาก และอาจจะปรับแก้ไขกฏหมายเดิมของโคลัมเบีย เคยกำหนดไว้ว่าโทษจำคุกสูงสุดคือ 40 ปี ให้กลายเป็น 60 ปี เพื่อต่ออายุการจองจำของลุยส์ต่อไป
ช่วงปีที่ทำการฆาตกรรม : 1992 – 1997
พื้นที่ก่อเหตุ : โคลัมเบีย
จำนวนเหยื่อ : อ้างว่าฆาตกรรมไปแล้ว 300 ราย ได้รับการยืนยัน 138 ราย
ถูกจับกุมเมื่อ : 22 เมษายน 1999
ต้องโทษฆาตกรต่อเนื่อง : จำคุก 1,853 ปี แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษเหลือแค่ 22 ปี
2. Javed Iqbal Umayr (จาเว็ด อิกบัล)

เป็นคดีร้ายแรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปากีสถาน ฆาตกรต่อเนื่องรายแรกในประเทศปากีสถาน ก่อเหตุได้อย่างน่าสะพรึงเอาอย่างมาก จากการให้การของอิกบัลเขายอมรับว่าเขาฆ่าเด็กชายไปถึง 100 ราย ซึ่งเป็นจำนาวนเยอะมาก แต่น่าตกใจไปยิ่งกว่านั้นคือเขาไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง แต่เขาสารภาพผิดต่อคดีฆาตกรรมทั้งหมดของเขาผ่านจดหมายที่ส่งให้ตำรวจและหนังสือพิมพ์ ในจดหมายนั้นเขาได้บรรยายอย่างละเอียดถึงวิธีการฆ่าเด็ก ๆ ทั้ง 100 รายด้วยการรัดคอ จากนั้นก็หั่นศพเป็นชิ้น ๆ แล้วใส่ลงอ่างอาบน้ำ ทำลายศพด้วยกรดรุนแรง และเด็กที่เขาฆ่านั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นเด็กกำพร้า หรือหนีออกจากบ้านมาเป็นเด็กเร่ร่อน ในคืนวันที่ 8 ตุลาคม 2001 อิกบัลตัดสินใจจบชีวิตด้วยการแขวนคอตายในคุก วัยรุ่นผู้ร่วมก่อเหตุอีกหนึ่งรายแขวนคอตายในคืนเดียวกัน ขณะนั้นอิกบัลอายุ 45 ปี
ช่วงปีที่ทำการฆาตกรรม : 1985 – 1990
พื้นที่ก่อเหตุ : ปากีสถาน
จำนวนเหยื่อ : 100 ราย
ถูกจับกุมเมื่อ : 30 ธันวาคม 1999
ต้องโทษฆาตกรต่อเนื่อง : ศาลตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ แต่อิกบัลแขวนคอตัวเองตายในคุกเสียก่อน
3.samuel little (ซามูเอล ลิตเทิล)

ซามูเอล ลิตเทิล ได้รับตำแหน่งฆาตกรต่อเนื่องสังหารเหยื่อมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฆาตกรรม เกิดบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา และถูกจับกุมได้ในสถานสงเคราะห์คนไร้บ้านในรัฐเคนตักกี้ ข้อหาเสพสารเสพติด และน่าตกใจคือ DNA เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหญิงถึง 3 ราย และในเวลาไม่กี่เดือน FBI สืบพบว่า DNA ของซามูเอล เกี่ยวโยงกับคดีฆาตกรรมหญิงสาวอีกมากกว่า 12 ราย จนทำให้เขาจนมุมรับสารภาพ ว่าเขาสังหารหญิงสาวไปมากถึง 93 ราย ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970s มาจนถึงปี 2005 เป็นระยะเวลาถึง 35 ปี ซึ่งในปัจจุบัน ซามูเอล ลิตเทิล วัย 79 ปี ยังถูกจองจำอยู่ในทัณฑสถานแคลิฟอร์เนีย
ช่วงปีที่ทำการฆาตกรรม : 1970s – 2005
พื้นที่ก่อเหตุ : 19 รัฐ ใน สหรัฐอเมริกา
จำนวนเหยื่อ : อ้างว่าสังหารไปแล้ว 93 ราย ได้รับการยืนยัน 50 ราย
ถูกจับกุมเมื่อ : 5 กันยายน 2012
ต้องโทษฆาตกรต่อเนื่อง : จำคุกตลอดชีวิต 3 ชาติ ไม่มีภาคทัณฑ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
4. Mikhail Popkov (มิคาฮิล พอปคอฟ) กับฉายา มนุษย์หมาป่า

มนุษย์หมาป่า และฉายา “จอมบ้าเลือดแห่งอังการ์สค์” ประวัติของมิคาฮิลทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอึ้งเพราะอาชีพของเขานั้นคือตำรวจ มีภรรยาและลูกสาว วิธีการออกล่าเหยื่อของมิคาฮิลคือจะขับรถออกหาเหยื่อในชุดตำรวจและรถตำรวจ เหยื่อของเขาจะอายุตั้งแต่ 16 ไปจนถึง 40 ปี โดยมุ่งเป้าไปที่เหยื่อทำอาชีพโสเภณี และหญิงวัยรุ่นที่เมามายไม่ได้สติมิคาฮิลจะเสนอความช่วยเหลือด้วยการเชื้อเชิญเหยื่อขึ้นรถ และอาสาจะไปส่งยังบ้านพัก แต่ถ้าใครหลงกลก็จะตกเป็นเหยื่อสังหารและข่มขืนของมิคาฮิล อาวุธที่มิคาฮิลใช้จะหลากหลายมาก ทั้งมีด, ไม้เบสบอล, ขวาน แม้กระทั่งไขควง เขาจะใช้วิธีทรมานเหยื่อให้ไม่สามารถหนีได้ ด้วยวิธีการสุดโหดเหี้ยม ทำให้เขาได้ฉายาว่า มนุษย์หมาป่านั่นเอง เหตุจูงใจทำให้มิคาฮิลกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องมาจากเหตุจับได้ว่าภรรยานอกใจ แต่ไม่มีในรายงานว่าภรรยาและชู้โดนสังหารหรือไม่
ช่วงปีที่ทำการฆาตกรรม : 1992 – 2012
พื้นที่ก่อเหตุ : อังการ์สค์, วลาดิวอสตอก, เออคุตสค์ ประเทศรัสเซีย
จำนวนเหยื่อ : อ้างว่าสังหารไป 84 ราย ได้รับการยืนยัน 78 ราย
ถูกจับกุมเมื่อ : จำคุกตลอดชีวิต 2 รอบ
ต้องโทษฆาตกรต่อเนื่อง : ปี 2012
5. Chisako Kakehi (ชิซาโกะ คาเคฮี) ฉายา แม่ม่ายดำแห่งเกียวโต

ชิซาโกะ คาเคฮี ปัจจุบันวัย 72 ปี มีความผิดในฐาน ฆาตกรรมชายอย่างน้อย 7 ราย ในระหว่างปี 1994 – 2013 ซึ่งชายทั้ง 7 รายนี้ต่างเป็นคู่เดตของหญิงสาวคนนี้ตลอดในช่วงเวลาดังกล่าว แม้จะผ่านกระบวนการพิพากษามาแล้ว ชิซาโกะก็ยังยืนกรานว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ เหตุที่เธอต้องตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้เป็นเพราะชะตากรรมอัน“เคราะห์ร้าย” ของเธอเอง ทางกระบวนการยุติธรรม ยืนยันผลการสืบสวนคดีว่าเขาเป็นฆาตกร ใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต กระทำการฆาตกรรมด้วยความเลือดเย็นและดำเนินการไปอย่างมีขั้นตอนการวางแผน และเหยื่อทั้งหมดถูกลงมือนั้นเพื่อหวังผลจากเงินประกันชีวิตมากถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และแรงจูงใจในการสังหารนั้นมาจากความเกลียดชังต่อสามีที่ฝังลึกอยู่ภายในจิตใจ แต่ ชิซาโกะ กลับให้การกลับคำถึง 2 ครั้งด้วยกัน แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากไปขัดกับหลักฐาน เพราะตำรวจค้นเจอถุงใส่ยาไซยาไนด์เล็ก ๆ ที่เธอซุกซ่อนไว้ในกระถางต้นไม้จึงทำให้ไม่สามารถรอดไปจากการกระทำอันโหดร้ายของตัวเองไปได้ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้ประหารชีวิตทันที
ช่วงปีที่ทำการฆาตกรรม : 1994 – 2013
พื้นที่ก่อเหตุ : ญี่ปุ่น
จำนวนเหยื่อ : 3 – 10 ราย
ถูกจับกุมเมื่อ : 2014
ต้องโทษฆาตกรต่อเนื่อง : ประหารชีวิต
พบกับความหลอนสุดสยองได้ที่ทาง ghostsfolder