เกมลิฟต์สู่โลกคู่ขนาน ตำนานการละเล่นอาถรรพ์จากดินแดนเกาหลี

เกมลิฟต์สู่โลกคู่ขนาน

เพื่อน ๆ อาจจะเคยได้ยินเรื่องเหนือธรรมชาติอย่าง ลิฟต์สู่ต่างโลก (Elevator to Another World) หรือ เกมลิฟต์ ที่ว่ากันว่ามันสามารถพาผู้เข้าร่วมเล่นเดินไปทางไปยังอีกโลกหนึ่งนั่นก็คือ “โลกคู่ขนาน” โดยการใช้ลิฟต์ธรรมดา ๆ ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปเป็นยานพาหนะ และกดลิฟต์ตามขั้นตอนเพียงเท่านี้ เกมสั้น ๆ เข้าใจง่าย ๆ แต่ลองแล้วไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เกมลิฟต์สู่โลกคู่ขนาน เกมอาถรรพ์ที่ไม่ควรลองเล่น “เกมลิฟต์” ดั้งเดิมเป็นตำนานของเกาหลีและญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่ยุค 90 แต่มาดังช่วงปี 2010 เชื่อว่าคนเล่นจะไปมิติอื่นได้ อุปกรณ์การเล่นก็ง่ายมาก มีผู้เล่น 1 คน กับลิฟต์ที่มีจำนวน 10 ชั้นขึ้นไป แต่เกมนี้นั้นมีกฎข้อสำคัญและอาจอันตรายถึงชีวิต วิธีการเล่นเกมลิฟต์ ผู้เล่นจะต้องเข้าลิฟต์ไปคนเดียว จากนั้นให้ปฏิบัติตามขั้นตอนตามนี้ ไปที่ชั้นล่างสุดของอาคาร เข้าไปในลิฟต์เพียง “ลำพัง” (บางแหล่งข้อมูลบอกว่าต้องเล่นหลังเที่ยงคืนหรือตอนตีสาม) กดปุ่มเลือกชั้นตามลำดับ ดังต่อไปนี้ เมื่อเธอเข้ามาในลิฟต์เรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ชั้นที่ 1 แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเล่นเกมลิฟต์สำเร็จและเดินทางมาสู่โลกคู่ขนานแล้ว ? การเดินทางกลับจากโลกคู่ขนานหลังเล่นเกมลิฟต์สำเร็จ สำหรับการเดินทางกลับมีอยู่ 2 แบบ […]

ความน่ากลัวของ “เหมรย” พิธีกรรมไสยศาสตร์ภาคใต้ ความสยองของคนไม่แก้บน

เหมรย

เหมรฺย ภาพยนตร์สยองขวัญของไทยที่เล่าเกี่ยวกับวัฒนธรรมพื้นถิ่นของคนภาคใต้ ผลงานของ ‘เอกชัย ศรีวิชัย’ ซึ่งได้นำพิธีและความเชื่อของการแก้บนมานำเสนออีกมุมมองความเชื่อที่มีอยู่จริง ทั้งขลัง ทั้งจริง ทั้งเฮี้ยน แต่จะรู้หรือไม่ว่า การเหมรยนั้นมีความสยองซ่อนอยู่ หากคุณไม่ไปแก้บน วัรรี้ทีมงาน Ghostsfolder จะมาเล่าให้อ่านค่ะ “เหมรย” คืออะไร ? “เหมรฺย” อ่านว่า “เหมย” หรือบางพื้นที่เรียกกันว่า “เหลยบน” เป็นพิธีกรรมไสยศาสตร์ภาคใต้ที่หมายถึง ข้อตกลงพันธสัญญาที่ได้ให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ติดสินบนกับสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งเร้นลับที่เคารพนับถือ หรือศรัทธาตามความเชื่อของคนในพื้นที่นั้นๆ ถ้าย้อนกลับไปก็คงลากยาวไปถึง ผีปู่ ย่า ตา ยาย ดวงวิญญาณต่าง ๆ ที่แต่ละบุคคลนั้นได้ยึดเหนี่ยวตามความเชื่อ ซึ่งขอเหล่านั้นส่วนมากก็ต้องแลกเปลี่ยนกับบางสิ่งบางอย่าง  เมื่อสมหวังแล้วก็ต้องแก้เหมรยซึ่งนิยมแก้ด้วยรำโนราห์ แต่ทีนี้หากใครไม่ไปแก้เหมรยก็จะเจอกับความสยองมากกว่าหลายเท่าตัว ประเภทของการเหมรฺย ตามข้อมูลนั้น “การเหมรฺย” จะมี 2 แบบด้วยกันคือ เหมรยปากกับเหมรยห่อ แบบเหมรฺยปากก็คือการบนด้วยวาจาหรือปากเปล่า ส่วนเหมรฺยห่อคือการบนบานด้วยวิธีนำเครื่องบูชาใส่ห่อกาบหมาก โดยจะนิยมถวายอาหาร สิ่งของ และการแสดงให้แก่เทพารักษ์ เช่น ขนมโค , รูปปั้นวัวควาย […]

10 สถานที่ลึกลับทั่วโลกที่หาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดขึ้นอย่างไร

สถานที่ลึกลับทั่วโลก

สถานที่ลึกลับ ไม่อาจกล่าวได้ว่าเป็นพื้นที่ที่ถูกสร้างขึ้นแบบปกติ แต่เป็นพื้นที่ที่เกิดขึ้นมาด้วยความพิศวง หาคำตอบไม่ได้ และยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้ โดยทั่วโลกแล้วส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่โบราณหรือไม่ก็เป็นปรากฎการณ์แลปก ๆ ที่ชวนสงสัยถึงการมีอยู่และวิธีการสร้าง แต่ละมีที่ไหนบ้าง ตามไปดูกันเลย ภาพวาดฝาผนัง ถ้ำ Lascaux ประเทศฝรั่งเศส สถานที่ลึกลับแรก ขอเปิดที่ Lascaux กับภาพวาดปริศนาบนฝาผนังถ้ำที่ดูแล้วแปลกชอบกล ซึ่งนักโบราณคดีจากทั่วโลกต่างก็ชอบที่จะเข้ามาเยี่ยมชมถ้ำแห่งนี้และสำรวจระบบถ้ำที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีภาพวาดให้เราเห็นนั้น ย้อนหลังไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ บางภาพวาดมีอายุประมาณ 17,300 ปีและยังคงดูโดดเด่นเสมอ ทำให้ถ้ำถูกปิดไม่ให้สาธารณชนเข้าชม เนื่องจากเกรงว่างานศิลปะโบราณจะเป็นอันตราย แท่นยกพื้นทรงขั้นบันไดใต้ทะเลแห่งโยนากุนิ สถานที่ลึกลับของประเทศญี่ปุ่น ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นก็มีเรื่องลึกลับมากมายไม่ต่างกับประเทศแทบอเมริกาเหนือ และที่น่าสนใจคือพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ใต้ท้องทะเล กับแท่นยกพื้นขั้นบันไดที่เรียกกันว่ายานากุนิ อีกทั้งยังเหมือนแท่นยกพื้นที่มีเหลี่ยมมีมุมและการเล่นระดับชั้นปรากฏให้เห็นอย่างกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาแบบจงใจ ปัจจุบันเองเลยยังไม่มีนักวิชาการคนไหนทราบเหตุผลอย่างชัดเจน บางคนก็เสนอว่ามันอาจจะเป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นมาเองตามธรรมชาติ แต่ภายหลังได้ก็มีการค้นพบ “หลุมเสา” และเครื่องไม้เครื่องมือสำหรับใช้สกัดหินปรากฏอยู่ใต้น้ำด้วย ทางด้านนักโบราณคดีส่วนหนึ่งที่ดำลงไปสำรวจก็ระบุว่าแท่นยกพื้นใต้น้ำนี้น่าจะมีอายุราว 12,000 ปี ซึ่งมีการประมาณการณ์ไว้ว่าก็เก่าแก่กว่าอารยธรรมอย่างอียิปต์โบราณหรือเมโสโปเตเมียเสียอีก เกาะเซนติเนลเหนือ ประเทศอินเดีย ถ้าพูดถึงสถานที่ลึกลับต้องไม่ขาดที่นี่กับเกาะเซนติเนลเหนือ ประเทศอินเดีย แหล่งชุมชนของคนเผ่ามนุษย์กินคนอย่างที่เป็นข่าวลือ หนึ่งในเกาะต้องห้ามของโลก โดยผู้คนในเผ่านี้ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่ให้ใครบุกรุกหรือย่างกรายเข้าไป บางครั้งคนเผ่าในเกาะจะมีนิสัยก้าวร้าวและรุนแรงเพื่อปกป้องความเป็นวัฒนธรรมของของเขา นอกจากนี้เกาะเซนติเนลเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของเขามาเป็นเวลากว่า 50,000 ปีแล้ว ทำให้รัฐบาลอินเดียประกาศสั่งห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวที่นั่น […]

ผีกะ ความเชื่อพื้นบ้านสยองขวัญของชาวล้านนาในอดีต

ตำนานผีกะ

เชื่อว่าต่อให้ยุคสมัยเปลี่ยนไปแค่ไหน เทคโนโลยก้าวไกลหรือทันสมัยมากเท่าไหร่ แต่ความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับยังคงปะปนอยู่ในสังคมอย่างแนบเนียน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับผี วันนี้ชาว Ghostsfolder จะมาเล่าตำนานและความเชื่อของ “ผีกะ” ผีจากละครเรื่อง ‘วิญญาณแพศยา’ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกโซเชี่ยล จะมีเรื่องราวและความน่ากลัวอย่างไร ตามมาอ่านบทความนี้ได้เลยค่ะ ทำความรู้จักกับ ‘ผีกะ’ ผีกะ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผีกะคน เป็นผีพื้นบ้านทางภาคเหนือ มีลักษณะคล้ายกับผีปอบ ในแง่ของการเข้าสิงคน ราวกับว่าคนที่ผีสิงติดโรคระบาดที่ทำให้คนที่ผีสิงนั้นเป็นอันตรายต่อผู้อื่น และชอบกินของสดของคาว เหตุผลที่เรียกว่าผีกะก็เพราะว่าเป็นผีที่มักเข้าสิงคนเพื่อเรียกร้องจะกินอาหาร โดยเฉพาะพวกอาหารเนื้อสัตว์ดิบ เมื่อคนนำมาให้กินจะกินปริมาณมากอย่างที่คนทั่วไปไม่กินกันและกินอย่างตะกละตะกราม ซึ่งได้กลายมาเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง การเลี้ยงผีกะ ความเชื่อของการเลี้ยงผีของชาวล้านนา ก่อนอื่นต้องบอกว่าผีกะเป็นความเชื่อที่สอดคล้องกับความงามของหญิงสาว ซึ่งในอดีตเชื่อกันว่าผีตนนี้มีพลานุภาพอย่างมาก หากใครเลี้ยงไว้จะนำคุณประโยชน์มาให้โดยเฉพาะในเรื่องของความงาม ตามความเชื่อ จะถูกเลี้ยงไว้โดยมีหม้อดินเป็นภาชนะ  ส่วนใหญ่คนที่นิยมเลี้ยงผีกะนั้นจะเป็นคนที่มีวิชาอาคม จะถูกสะกดเลี้ยงไว้ในหม้อดินโดยมีผ้ายันต์สีขาวปิดปากหม้อไว้ ในเรื่องของการเลี้ยงผีตนนี้ คนเลี้ยงจะนำหม้อผีกะวางไว้บนเพดานบ้าน และเซ่นด้วยไข่ดิบวันละฟอง ผู้คนที่เลี้ยงไว้เป็นผีประจำตระกูล มันก็จะเฝ้าดูแลรักษาทรัพย์สมบัติให้เป็นอย่างดี ฉะนั้นต้องจัดอาหารเลี้ยงให้ดีอย่าให้อดอยาก เพราะถ้าหากว่าเจ้าของเลี้ยงไม่ดีแล้วล่ะก็ มันจะออกหากินสิงสู่ชาวบ้าน เพื่อให้เจ้าของอับอายขายหน้า บ้านที่มีลูกสาวที่ต้นตระกูลเลี้ยงผีต้นนี้ ลูกสาวบ้านนั้นจะถูกเรียกว่า “สาวผีกะ” ซึ่งพวกโรคจิต คิดไม่ดีไม่กล้าแตะต้องเพราะลูกสาวบ้านนั้นอย่างแน่นอน เพราะมันจะคอยคุ้มครอง อีกทั้งยังจะทำให้ลูกสาวบ้านนั้นดูสวยขึ้น เพราะเกรงว่าลูกสาวบ้านนั้นจะไม่มีคู่โดยเฉพาะยามค่ำคืน ทำไมผีกะต้องเลียหน้า ? ในอดีตผีกะนั้นเป็นที่นิยมในหมู่นักแสดงลิเก […]

รวมเด็ด 5 ตำนานสยองขวัญ ทั่วทวีปเอเชีย

ตำนานสยองขวัญ

ตำนานสยองขวัญที่เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ต้องยกให้ทวีปเอเชีย แหล่งกำเนิดเรื่องราวอันน่าสระพรึงกลัวที่ส่งต่อจิตวิญญาณแความน่ากลัวแผ่ไปทั่วทุกมุมโลก แต่จะรู้หรือไม่ว่า เรื่องราวและตำนานสุดสยองขวัญในทวีปเอเชียของเรานั้น มีเรื่องอะไรน่ากลัวและมีเรื่องไหนดังที่สุดจนเป็นที่กล่าวขานไม่มีหมด วันนี้เราจะพามารู้จักกับเหล่าตำนาน 5 เรื่องเล่าที่ขึ้นชื่อว่าหลอนและน่ากลัวที่สุดในทวีปเอเชียมาฝากค่ะ “จางซาน-บอม” เสือสมิงแห่งหุบเขาจางซาน ตำนานสยองขวัญของสัตว์ประหลาดตนนี้ เริ่มจากช่วงประมาณต้นปี ค.ศ. 2010 ได้มีชาวเน็ตหลายคนได้พูดถึงสัตว์ลึกลับ โดยที่แต่ละคนสามารถอธิบายถึงลักษณะของมันได้อย่างใกล้เคียงกัน จนกระทั่งเริ่มมีการตั้งชื่อว่า “จางซาน-บอม” ให้กับสัตว์ประหลาดตนนี้ ซึ่งมีความหมายว่า “เสือแห่งจางซาน” ก่อนที่ตำนานของมันจะเริ่มเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล มันเริ่มจากชายคนหนึ่งซึ่งได้เล่าเอาไว้ว่า เมื่อ 10 ปีก่อน สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นอาศัยอยู่ในเมืองปูซานบริเวณใกล้ป่าในหุบเขาจางซาน วันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินป่ากับคุณพ่อในช่วงฤดูร้อนตามปกติเหมือนทุกครั้ง ๆ แต่จู่ ๆ หางตาของเขาได้ไปพบเห็นใครบางคนหลบอยู่หลังก้อนหิน สิ่งที่เห็นคือใครสักคนที่ดูเหมือนสวมชุดขนสัตว์ ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นได้ในช่วงฤดูร้อน ต่อมาใครคนนั้น ก็ได้เดินออกมาจากหลังก้อนหิน ก่อนจะก้มคลาน 4 ขา ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง ในตอนนั้นเขาจำได้แค่ว่าเขากรีดร้องลั่นด้วยความกลัว แล้ววิ่งหนีไม่คิดชีวิต จากนั้นรู้ตัวอีกที ภาพที่เห็นก็คือพ่อของเขาได้วิ่งเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าสัตว์ตนนั้นก็หายตัวไป และไม่ได้พบเห็นมันอีกเลย ซึ่งมันยังคงฝังใจตลอดมา หลังจากที่ “จางซาน-บอม” เป็นที่พูดถึงมากมาย ทำให้หลายคนเชื่อว่าเดิมทีมันอาจจะเป็นเสือตัวหนึ่งที่ได้กินมนุษย์เข้าไปมากมาย จนวิญญาณทั้งหลายถูกกักขังไว้ภายในตัวมัน ทำให้กลายเป็นสัตว์ร้ายที่มีพลังอำนาจมากมาย […]

ตำนาน เรื่องผีม้าบ้อง ใครไม่เคยมี ‘Sex’ ระวังถูกผีหลอก

ผีม้าบ้อง

ผีม้าบ้อง ผีตามคติความเชื่อของชาวล้านนา จำพวกผีจะกละหรือผีป่า (ทางใต้เรียกผีล้วง) และมีเรื่องเล่าด้วยกันหลายสำนวนที่มาพร้อมกับ ‘เสียงเท้าของฝูงสัตว์ในตอนกลางคืน’ จะมีเรื่องราวเป็นอย่างไร และมีความเกี่ยวข้องกับผู้ที่ไม่เคยมี Sex อย่างที่เล่า ๆ กันรึไม่ ไปหาคำตอบกันในเรื่องราวนี้กันค่ะ ผีม้าบ้อง คืออะไร ทำไมถึงเรียกว่าม้าบ้อง ลักษณะต้องผีตนนี้ จะมีรูปร่างครึ่งบนเป็นมนุษย์ส่วนมากเป็นหญิงสาวสวย แต่ท่อนล่างเป็นม้ารูปร่างเป็นม้า โดยปกติจะไม่เห็นตัว แต่อาจจะได้ยินเสียงม้าหรือปรากฏบนรอยเท้าม้าตามพื้นดิน ม้าบ้องจะออกล่อลวงเหยื่อที่เป็นผู้ชาย โดยเฉพาะหนุ่มละอ่อนที่ไม่ประสีประสาในเรื่องทางเพศให้ตามเข้าไปถึงถิ่นที่อาศัยของมัน แล้วฆ่าทิ้งเสีย อีกทั้งยังชอบออกหากินเวลากลางคืน โดยออกขโมยกินไข่ไก่ ไข่เป็ดของชาวบ้าน บางทีก็ซากสัตว์ตามทุ่งนา เวลาหากินบางครั้งแปลงกายเป็นม้าขาว ม้าดำบ้าง ใครก็ตามที่พบเห็นจะถูกไล่ทำร้าย คืนไหนได้ยินเสียงม้าร้อง ม้าวิ่ง คนโบราณจะไม่ลงจากเรือนไปไหน เรื่องผีม้าบ้องถูกดัดแปลงทับถมกันมา แต่ความจริงแล้วเป็นแค่คนธรรมดา แต่ถูกวิญญาณม้าเข้าสิงในเวลากลางคืน โดยปกติคนที่ถูกสิงก็มีชีวิตเหมือนคนทั่วไป เมื่อออกหากินกลางคืนแปลงเป็นม้า ใกล้สว่างก็กลายร่างเป็นคนกลับไปนอนที่บ้าน และเชื่อว่าหากกลับบันไดบ้านจากด้านบนเป็นด้านล่าง คนที่เป็นผีจะขึ้นบ้านไม่ได้และจะต้องตายเมื่อฟ้าสาง เรื่องผีม้าบ้องกับประเพณีแอ่วอู้ของหนุ่มสาว เคยมีหนุ่ม 2 คน สมมุติว่าชื่ออ้ายแก้ว กับอ้ายคำ เป็นเพื่อนกัน เวลาไปแอ่วสาวที่ไหนก็ไปด้วยกัน จนกระทั่งมีช่วงหนึ่ง พอออกจากหมู่บ้านไปได้สักระยะจะถึงทางแยกเข้าป่าละเมาะรกร้าง อ้ายคำก็จะบอกว่าให้ล่วงหน้าไปก่อนเดี๋ยวจะตามไป หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์แบบเดิมเกิดซ้ำ ๆ […]