5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง 5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง

5 หนังฆาตกรรม ไทย ที่สร้างมาจากเรื่องจริง คดีฆาตกรรมจริง (Part 1)

หัวข้อน่าสนใจ

หนังฆาตกรรม ภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่มีเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจ อีกทั้งบางเรื่องยังเป็นเรื่องหลอนติดอันดับความน่ากลัวที่สุดในโลก และอย่างที่ทราบกันดีว่า ภาพยนตร์สยองขวัญเป็นเรื่องราวที่อ้างอิงมาจากเหตุการณ์ ซึ่งในวันนี้เราเลยจะมา แนะนำ 5 หนังแนวฆาตกรรม ที่สร้างมาจากคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย

หนังฆาตกรรม : บุญเพ็งหีบเหล็ก

บุญเพ็งหีบเหล็ก
บุญเพ็งหีบเหล็ก

บุญเพ็งหีบเหล็ก เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคดีฆาตกรรมจริงในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ และขึ้นว่าเป็นฆาตกรรายแรกของประเทศไทย ที่ทำการฆาตกรรมต่อเนื่องถึง 7 ศพ พร้อมอำพราง โดยการหั่นศพ เพื่อแยกเป็นชิ้น ๆ แล้วยัดเก็บเอาไว้ในหีบเหล็ก ก่อนจะนำไปถ่วงน้ำ มีเรื่องเล่าว่า ‘นายบุญเพ็ง’ เป็นหน้าตาดี สุภาพ อ่อนโยน และเรียนไสยเวทย์ จนกรทั่งสามารถตั้งสำนักหมอผี ดูดวง สะเดาะเคราะห์ รวมไปถึงการทำเสน่ห์ ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่ก็คือผู้หญิงที่มาดูดวง มีรายงานว่า นายบุญเพ็งมีรสนิยมทางเพศแบบซาดิส ทารุณ ชอบบีบคอขณะที่กำลังมีเซ็กส์ แต่สืบไปสืบมาแล้ว สาเหตุหลัก ๆ คือ ตั้งใจฆ่าเพื่อชิงทรัพย์

บุญเพ็งหีบเหล็ก
บุญเพ็ง หีบเหล็ก

หลังจากถูกจับในปี พ.ศ. 2474 นายบุญเพ็งเป็นฆาตกรคนสุดท้ายที่ถูกตัดสินประหารด้วยการบั่นคอ และเนื่องจากที่เขามีอาคมทางด้านไสยเวทย์ จึงมีเรื่องเล่ามากมายในวันประหารชีวิตของเขาว่า ในการบั่นคอครั้งแรกนั้นเพชรฆาตไม่สามารถบั่นคอบุญเพ็งได้ เพราะคอไม่ขาด ซึ่งมีคนเห็นว่าบุญเพ็งร่ายมนต์ ทำให้เพชรฆาตมองด้วยโกรธ เลยตะวาดว่า “อะไรอยู่ในปากมึง เอาออกมาให้หมด” นายบุญเพ็งเลยถมวัตถุสีดำขนาดเล็กออกมา ก่อนที่เพชรฆาตจะโยนทิ้ง และคอของนายบุญเพ็งก็ขาดในบทเพลงที่ 2 ว่ากันว่าบริเวณรอยสักของนายบุญเพ็งไม่สามารถเผาไหมได้

ศพของเขาก็ได้นำมาทำพิธีทางศาสนา ณ วัดฤาษี กรุงเทพฯ ปัจจุบันมีศาล เชื่อกันว่า ใต้ศาลยังเป็นที่ฝังหีบเหล็กทั้ง 7 ใบ อีกด้วย ซึ่งเรื่องราวของนายบุญเพ็งเลยได้นำมาสร้างเป็น หนังฆาตกรรม รวมถึง 3 ครั้ง คือ ในปี พ.ศ. 2510, 2523 และ 2558 โดยมีลักษณะเนื้อเรื่องที่คล้ายกับเรื่องจริง

หนังฆาตกรรม : ซีอุย

ซีอุย
ซีอุย

ภาพยนตร์แนวอาชญากรรม ซีอุย จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หนุ่มชาวจีนที่มากินหัวใจเด็กสด ๆ ซึ่งอ้างอิงมาจากเรื่องราวจริง ๆ ของ ‘นายลีอุย แซ่อึ้ง’ ชาวจีนที่ได้อพยพเข้ามาเมืองไทย และเข้ามาเป็นแรงงานรับจ้าง ณ จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ มีนิสัยพูดน้อย ชอบเก็บตัว ไม่มีประวัติอาชญกากรรม ก่อนจะย้ายไปยังจังหวัดระยอง และได้ก่อคดีฆาตกรรมเด็กผู้ชายจริง ๆ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับมีคดีฆ่าเด็กโหดอีกหลายรายในภาคกลาง ทำให้ซีอุยตกเป็นจำเลย แพะรับบาปในคดีฆาตกรรมเพิ่มอีก 6 คดี

จากเรื่องราวของเขา จึงถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ มีทั้งหมด 4 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นที่ 1 และ 2 เป็นละครในปี พ.ศ. 2527 เวอร์ชั่นที่ 3 ทำเป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ.2534 และเวอร์ชั่นสุดท้าย เป็นภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2547

สามารถอ่านเรื่องราวของ ซีอุย เพิ่มเติมได้ที่ : ย้อนรอยตำนาน “ ซีอุย ” ฆาตกรกินตับเด็ก ที่สื่อสร้างภาพจำ “มนุษย์กินคน”

นวลฉวี

นวลฉวี
สะพานนนทบุรี

นวลฉวี เป็น หนังฆาตกรรม ที่สร้างมาจากเหตุการณ์สังหาร ‘นางนวลฉวี เพชรรุ่ง’ พยาบาลแห่งโรงพยาบาลยาสูบ ภรรยาของ  ‘อธิป สุญาณเศรษฐกร’ นายแพทย์ประจำโรงพยาบาลโรงพยาบาลรถไฟ แต่อธิปไม่ต้องการผูกพันด้วย และมีผู้หญิงอื่น จึงหลอกหลวง ทำร้าย และที่สุดก็ได้ว่าจ้างกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง เพื่อไปฆ่าและโยนศพทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสะพานนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2502

นวลฉวี
นวลฉวี

เรื่องราวของเธอหลายเปนข่าวใหญ่ และได้ถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ สะครโทรทัศน์ โดยในฉบับหนังในปี พ.ศ. 2528 และในปี พ.ศ. 2546 ก็นำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ โดยใช้ชื่อว่า “ปมรักนวลฉวี”

คืนบาป พรหมพิราม

คืนบาปพรหมพิราม
คืนบาปพรหมพิราม

คืนบาปพรหมพิราม เป็น หนังฆาตกรรม ในแนวสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญ ที่บอกเล่าเรื่องราวสะเทือนใจซึ่งนำไปสู่มรณกรรมของ “สำเนียน” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายเชิงอาชญวิทยา ของนที สีทันดร (สันติ เศวตวิมล) ซึ่งมีเค้าโครงจากคดีข่มขืนแล้วฆ่าที่อำเภอพรหมพิรามเมื่อ พ.ศ. 2520 เป็นคดีฆาตกรรมที่สะท้อนจุดต่ำตมของมนุษย์ ด้านมืดของสังคมไทย และคดีนี้ก็ถือเป็นที่สุดเรื่องความโหดในประวัติศาสตร์ไทย

คืนบาปพรหมพิราม
คืนบาป พรหมพิราม

เรื่องราวของเธอเริ่มต้นจาก แม่สามี ที่เกลียดเธอมาก ๆ จึงวางแผนส่งลูกชายไปทำงานต่างจังหวัด หวังแยกคู่รัก สามีส่งจดหมายติดต่อมาหาพร้อมส่งที่อยู่มาให้ หวังให้เธอมาหาเพื่อมากินอยู่ด้วยกัน เธอจึงตัดสินใจไปตามหาสามี แต่แม่ของสามีมารู้เสียก่อน เลยคิดอุบายจ้างคนขับรถบรรทุก เพื่อรับตัวเธอไปส่ง แต่ที่จริงแล้วแม่สามีของเธอ ตั้งใจวานจ้างผู้ชายคนนี้มาเพื่อที่จะจ่ายเงินด้วยการให้ข่มขืนเธอ

คืนบาปพรหมพิราม
คืนบาป พรหมพิราม

และหลังจากนั้นเธอก็โดนผู้ชายหลายคนกระทำชำเราเธอนับไม่ถ้วน และช่วยกันหิ้วศพของเธอไปวางที่รางรถไฟ เพื่อที่จะให้รถไฟแล่นมาทับร่าง โดยจงใจให้ตำแหน่งของอวัยวะเพศตรงกับรางรถไฟให้ทำลายหลักฐาน ก่อนจะนำหัวของเธอไปฝังและสะกิดวิญญาณเอาไว้

คืนบาปพรหมพิราม
คืนบาป พรหมพิราม

ตำรวจได้สรุปว่าเป็นอุบัติเหตุเพราะไม่มีญาติมารอรับหรือร้องทุกข์ รวมไปถึงชาวบ้านก็ช่วยกันปกปิดเรื่องราวเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดก็รื้อคดีมาสอบสวนใหม่ จนสามารถจับกุมผู้ร้ายได้เกือบทั้งหมด ถืออว่าเป็นคดีโทรมหญิงที่มีผู้ต้องหามากที่สุดในไทย โดยมีผู้ต้องหาอายุน้อยที่สุดคือ อายุ 9 ปี และอายุมากที่สุด 65 ปี

หนังฆาตกรรม : เชอรี่ แอน

เชอรี่ แอน
เชอรี่ แอน

ภาพยนตร์ เชอรี่ แอน บอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่น ‘เชอรี่แอน ดันแคน’ วัย 16 ปี  ที่หายตัวไปในระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังเลิกเรียน ‘นายวินัย ชัยพานิช’ หรือ ‘เสี่ยแจ็ค’ ผู้ซึ่งรับอุปการะเลี้ยงดูเธอ ได้ไปแจ้งความการหายตัวไว้ที่ สน.พระโขนง แต่หลังจากนั้น ก็มีคนพบศพเธอเสียชีวิตอยู่ในป่าชายเลนจังหวัดสมุทรปราการ ตำรวจได้เข้าจับกุมนายวินัย และลูกน้องอีก 4 คน ในข้อหาจ้างฆ่าและร่วมกันฆ่า ซึ่งเป็นแพะรับบาป

เมื่อนางไพลิน พี่สาวของนายวินัยได้ทราบข่าว จึงว่าจ้างสำนักงานทนายเข้ามาแก้คดี ‘เพ็ญนภา ธรรมรุ่งโรจน์’ ทนายสาวจึงเข้ามารับผิดชอบในคดีนี้ ในระหว่างการถูกคุมขัง ผู้ต้องหาก็ถูกฟ้องร้องด้วยหลักฐานปลอม พยานเท็จ จากการปรุงแต่งของตำรวจชั่ว ที่ถูกผู้มีอิทธิพลสั่ง จนถูกศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตและส่งตัวไปขัง ณ เรือนจำบางขวาง พวกเขาต้องกลายเป็นแพะรับบาปที่ถูกประณามจากสังคมและต้องโทษประหารชีวิต

เชอรี่ แอน
เชอรี่ แอน

และเมื่อมีการสืบค้นเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมนี้อีกครั้ง ถึงได้ทราบต้นสายปลายเหตุว่า มีการจ้างฆ่าจากมือฆ่าถึง 2 คน ซึ่งไม่เกี่ยวกับข้องกับเสี่ยแจ็คและลูกน้องทั้ง 4 คนเลย ว่ากันว่า นักฆ่า 2 คนนี้ ถูกจ้างวานมาจากผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง แต่ก็ไม่สามารถสืบหาได้ และแพะทั้ง 4 ก็ได้เสียชีวิตลงไปอย่างไม่ได้รับความยุติธรรม

และนี่ก็คือ 5 หนังฆาตกรรม ยุคคลาสสิคที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริง ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ชาว Ghostsfolder ซึ่งขอบอกเลยว่า แต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง แถมยังเป็นคดีฆาตกรรมที่ทั้งโหด และหดหู่อย่างมากอีกด้วย