คุณเกิดทันกระสือยายสายมั๊ยล่ะ? แน่นอนว่าเราเป็นคนหนึ่งค่ะที่เกิดไม่ทัน แต่ดูทัน! เพราะตำนานของผีกระสือนั้นมันน่ากลัว เป็นผีที่ลอยได้ไม่พอ ยังมีแต่เครื่องในอีก ยิ่งดูเวอร์ชั่นแรก ๆ ยิ่งทำให้เราขวัญผวากว่าเดิม ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยเห็นแบบเต็ม ๆ ตา แต่เราก็แอบเชื่อไปแล้วว่ามีอยู่จริง ทั้งคำบอกเล่าของคนเถ้าคนแก่ แถมยังมีตำนานเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากมารุ่นสู่รุ่นอีก แทบจะทุกที่เลยที่มีกระสือ นั่นแปลว่ากระสือนั้นมีจริงน่ะสิ ถ้าอยากรู้ ต้องไปหาคำตอบกันค่ะ
ตำนานกระสือ ต้นกำเนิดแห่งความหวาดกลัว
ผู้เฒ่าผู้แก่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ผีกระสือ” ไว้ว่า ผีตัวนี้มีมาตั้งแต่โบราณ เป็นผีผู้หญิงที่ยามปกติใช้ชีวิตปะปนกับผู้อื่นในสังคม เกลียดกลัวแสงแดด แต่ตกดึกจะถอดหัวกับไส้ออกจากร่างไปหากิน โดยปรากฏเป็นแสงไฟสีเขียว ๆ ที่ล่องลอยจากฟากฟ้ายามค่ำคืน ของที่ผีพวกนี้ชอบกินคือของเน่าเสียหรือสิ่งปฎิกูลต่าง ๆ และมีอีกอย่างที่กระสือชอบกินเป็นพิเศษคือ “รกเด็ก”
สมัยโบราณเมื่อบ้านใดมีหญิงตั้งครรภ์ ชาวบ้านมักจะเชื่อกันว่ากระสือจะต้องไปที่บ้านหลังนั้นเพื่อกินรกเด็กอย่างแน่นอน จึงมักนำปลายไม้ไผ่แหลม ๆ หรือสิ่งของมีคมต่าง ๆ มาล้อมไว้รอบ ๆ บ้าน เพราะเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่กระสือกลัวและเกลียดมากที่สุดคือ เพราะเมื่อใดที่กระสือนั้นเข้าไปใกล้สิ่งของแหลม ๆ เหล่านั้น ไส้อันระโยงระยางของมันจะไปเกี่ยวกับไม้ และเป็นการยากที่จะออกได้
ความเชื่อเกี่ยวกับกระสือ
กระสือเป็นผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่าสิงสู่อยู่ในตัวของคนเพศหญิงซึ่งโดยมากมักเป็นยายแก่ ชอบรับประทานของสดคาว มักออกหากินเวลากลางคืนและไปแต่หัวกับตับไตไส้พุง ส่วนร่างกายคงทิ้งไว้ที่บ้าน เวลาไปจะเห็นเป็นดวงไฟดวงโตมีแสงสีแดง แต่ส่วนมากจะเป็นแสงสีเขียวเรืองวาบ ๆ โดยจะเริ่มออกหากินตั้งแต่เวลาหัวค่ำไปจนถึงทั้งคืน และจะกลับเข้าร่างเวลาใกล้รุ่งสาง เวลากลางวันจะมีลักษณะร่างกายเหมือนคนทั่วไป แต่มีพฤติกรรมหรืออาการแบบแปลก ๆ ผิดปกติ เช่น ไม่ชอบสบตาคน เงียบ ๆ ไม่พูดไม่จากับใคร ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว บ้างก็ไม่ชอบแสงสว่างก็มี
กระสือชอบกินของสกปรก ของคาว ของเหม็นเน่า เวลากินก็ต้องแปลงร่างเป็นภูตก่อน มีรูปร่างคล้าย ๆ คน ผอม ๆ ดำ ๆ น่าเกลียด ไม่นุ่งผ้า แต่คนจะมองเห็นแค่ดวง แต่ตัวก็จะแปลงพรึบขึ้นมาเลย มันจะกึ่งหยาบ กึ่งละเอียด แล้วก็กินของเน่าสกปรกด้วยความเอร็ดอร่อย เพราะวิบากกรรมบังคับ กินเสร็จแล้วจะมาเช็ดปากกับเสื้อผ้าที่ชาวบ้านตากทิ้งไว้ค้างคืน แล้วทิ้งร่องรอยสกปรกไว้ มีความเชื่อว่าถ้าเอาผ้าที่ผีกระสือเช็ดปากไปฟาดที่บันไดจะทำให้คนที่เป็นกระสือเกิดปากบวมบ้าง หรือเอาผ้าไปต้มให้ปวดแสบปวดร้อน
กระสือยายสายเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ทำไมต้องยายสาย
เราจะพาคุณย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในวงการบันเทิงของเราเริ่มมีวัฒนธรรมการแสดงและละคร ได้มีการนำเสนอละครแนวผีสางนางไม้อยู่หลากหลายรูป ทั้งปอบหยิบ แม่นาค กระสือ ส่วนใหญ่แล้ว ต้นกำเนินออริจินัลของวงการนั้นก็เริ่มตั้งแต่ยุคนั้นเลย โดยเฉพาะละครผีที่มีภาคต่อหลายภาค รีเมคแล้วรีเมคอีก คนก็ดูอยู่ตลอดก็เป็นพวกหนังผีไทยเนี่ยแหละ เมื่อประมานปี 2537 กระสือยายสาย ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้เหล่าลูกเล็กเด็กแดงหวาดกลัวกันไปทั่ว เพราะความสมจริงของละครมันค่อนข้างเทียบกับชีวิตจริงได้ ยิ่งพื้นที่ชนบทในสมัยก่อนเป็นที่รกร้าง มีป่าเป็นส่วนมาก แถมยังมีบรรยากาศที่มืดและวังเง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนที่ดูกระสือยายสายตอนนั้นจะอิน
หากแต่การนำเรื่องกระสือมาสร้างบันเทิงแก่ผู้ชมก็เป็นเรื่องทางเลือกของวงการบันเทิง เพราะใคร ๆ ก็ชอบเรื่องผี อย่างไรก็ตาม ตามความเชื่อของคนสมัยก่อน นั้นเชื่อว่ากระสือมีจริง ทั้งเห็นแสงไฟลอยได้ มีรอยเลือดตามเสื้อที่ตากเอาไว้ ไก่ในบ้านตายโดนควักไส้ ล้วนแต่เป็นเรื่องจริงทั้งนั้น แต่กระสือนั้นจะมีจริงรึไม่ ยังไม่มีใครหาสาเหตุได้
ความจริงของผีกระสือ ถอดหัวแล้วอยู่ได้อย่างไร
เป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะถอดหัวแล้วมีชีวิตอยู่ แถมยังลอยได้อีก หากมองว่ามันคือเรื่องเหนือธรรมชาติก็คงใช่ หรือมองให้เป็นเรื่องเหนือมนุษย์ก็คงใช่อีก เพราะเรา ๆ สามัญชนธรรมดา ไม่สามารถเอาหัวออกจากร่างได้แล้วต่อกลับเหมือนเดิมได้หรอก กระสือนั้นจะมีส่วนหัวและส่วนลำตัวด้านในติดกันออกมาเป็นยวง ยาวตั้งแต่ช่วงลำคอไปจนถึงเครื่องในทั้งตับ ปอด หัวใจ และลำไส้ แค่คิดก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้วมั๊ยล่ะ
อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นความเชื่อของคนสมัยก่อนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ถ้าจะให้พูดกันตามหลักปัจจุบัน ฉบับวิทยาศาตร์ที่มีข้อมูลยืนยันแล้วล่ะก็ มันก็คงจะท้าทายไปเสียหน่อย เพราะทางกายวิภาคนั้น หากมีการถอดหัวออกมาจริง ๆ อวัยวะภายในจะไม่ได้ลากติดกันออกมาแบบที่นวนิยายและการ์ตูนบรรยายไว้ ด้วยกายวิภาคของร่างกายมนุษย์นั้น ประกอบด้วยระบบภายในทั้งสิ้น 10 ระบบ ตั้งแต่ระบบห่อหุ้มร่างกาย ระบบหัวใจหลอดเลือด ระบบย่อยอาหาร ระบบทางเดินอาหาร และอีกมากมาย ที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ เส้นเลืด และอวัยวะต่าง ๆ รวมกันเป็นองค์ประกอบของร่างกาย
แล้วถ้ากระสือมีจริง จะหายใจได้อย่างไร ในเมื่อระบบหายใจคือระบบที่สำคัญที่สุดของร่างกาย และทำงานสอดคล้องกับหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นถ้าจะมีจริง รูปร่างของมันก็จะต้องมีเส้นเลือดห้อยระโยงระยางเต็มไปหมดด้วยเช่นเดียวกัน แล้วเรื่องของเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มร่างกายล่ะ ถ้าไม่มีแล้วพวกเส้นเลือดต่าง ๆ จะอยู่อย่างไร เพราะอวัยวะบางส่วนต้องมีจำพวกกล้ามเนื้อคอยพยุงเอาไว้ ฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่กระสือจะสามารถมีชีวิตแบบนั้นได้จริง ๆ ถ้ามันจะถอดอะไรออกมาได้แบบนั้นคงต้องเป็นดวงวิญญาณแล้วแหละ!
ติดตามอ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่Ghosts Folder – สารคดี – แฟ้มลับเรื่องสยองขวัญที่คุณอาจไม่เคยรู้
- รวม 5 เรื่องหลอน จาก หนังสือเรียน ยุค 90 มานะ มานี ปิติ ชูใจ - December 6, 2024
- เปิดเรื่องหลอน “ตุ๊กตาผีสิง” วิญญาณเจ้าสาวเกลียดผู้ชาย โจมตีไปแล้ว 17 คน - November 29, 2024
- รู้จัก 4 นักไสยเวทย์ ระดับพิเศษ ใน มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujustu Kaisen) *สปอยล์ มีตัวละครตาย* - November 26, 2024