8 โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นจริงระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์

ฮอลลีวู้ด ดินแดนแห่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลก ถือได้ว่าเป็นผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ภาพยนตร์นับร้อยนับพัน และหลากหลายแนว แต่เบื้องหลังการแสดง และภาพสมจริงที่สวยงามตระการตานั้น กลับเต็มไปด้วยอันตรายต่างๆมากมาย ทั้งนักแสดง สตันท์แมน ตลอดจนทีมงานเบื้องหลังทุกคน ต่างก็ต้องเสี่ยงชีวิตในการถ่ายทำหนังหลายๆฉาก วันนี้เราจะพาทุกคนมาย้อนรอย 8 โศกนาฏกรรม สุดช็อกกลางกองถ่ายฮอลลีวู้ด

ปืนลั่นกลางกองถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Rust (2021)

ฮอลลีวู้ดได้สูญเสีย ฮาไลนา ฮัชชิน ผู้กำกับภาพชื่อดังวัย 42 ปี หลังจาก อเล็กซ์ บัลด์วิน นักแสดงที่เป็นทั้งแสดงนำและร่วมตำแหน่งอำนวยการสร้างหนังเรื่อง “Rust” ในกองถ่ายในรัฐนิวเม็กซิโก อเล็กซ์ไม่รู้ว่ามีกระสุนจริงบรรจุอยู่ในกระบอก และทำการยิงโดยไม่ตั้งใจ  ซึ่งนอกจาก ฮัชชิน แล้ว ยังมีผู้กำกับ โจเอล ซาเซา วัย 48 ปี ที่โดนกระสุนด้วย ทั้งสองคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเฮลิคอปเตอร์ แต่ ฮัชชิน ที่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวทำให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจแก่วงการฮอลลีวู้ดเป็นอย่างมาก

โศกนาฏกรรม สตั๊นแมนจากเรื่อง Deadpool 2 (2017)

แฟรนไชร์ของ Deadpool โดยเรื่องเกิดขึ้นระหว่างการถ่ายทำภาคที่สอง เหตุการณ์ที่นำไปสู่ โศกนาฏกรรม เมื่อ จอย “เอสเจ” แฮร์ริส สตั๊นท์แมนสาวชาวแอฟริกัน-อเมริกัน สตั๊นท์แมนที่เชี่ยวชาญในการแข่งรถ ผ่านชั่วโมงการฝึกมามากกว่า 1,500 ชั่วโมง และพึ่งจะมาเป็นสตั๊นท์ในภาพยนตร์ครั้งแรก เธอประสบอุบัติเหตุขี่รถมอเตอร์ไซค์พุ่งชนกระจกหน้าต่าง Shaw Tower ที่แวนคูเวอร์เสียชีวิต ทั้งที่ตั้งใจซ้อมฉากนี้เป็นเวลาถึงสองวันเต็มๆ และทดลองแสดงอย่างน้อย 5 ครั้ง ก่อนที่ถ่ายทำจริง แหล่งข่าวระบุว่า จอยไม่ได้สวมหมวกกันน็อคและสูญเสียการควบคุมรถ

The Crow (1993) 

นักแสดงหนุ่มทายาทนักแสดง บรูซ ลี กังฟูชื่อดัง แบรนดอน ลี ที่กำลังรุ่งในอาชีพการแสดง เสียชีวิตขณะรับบท “เอริค เดรเวน” มันเป็นฉากที่เขาต้องถูกอันธพาลที่กำลังข่มขืนแฟนสาวในอะพาร์ตเมนต์ฆ่าตาย โดยในฉากจะใช้ปืนที่ถูกห่อด้วยถุงกระดาษและมีกระสุนดัมมี่ (Dummy) ที่ค้างจากการถ่ายทำฉากก่อนหน้านี้ และได้ติดระเบิดขนาดเล็กไว้ในถุงที่จะถูกจุดระเบิดเพื่อให้ดูสมจริงมากขึ้น แต่ปรากฎว่า เศษกระสุนดัมมี่ได้ถูกแรงระเบิดไปโดยบริเวณท้องของแบรนดอน แพทย์ได้ใช้เวลาผ่าตัดนานถึง 6 ชั่วโมง แต่แล้ว แบรนดอน ก็ได้จากโลกนี้ก่อนเวลาอันควรขณะมีวัยเพียง 28 ปีเท่านั้น

มือลั่น เพราะเบื่อกับการนั่งรอเข้าฉากในเรื่อง Cover Up (1984)

เป็นเหตุการณ์ในกองถ่ายซีรีส์เรื่อง Cover Up ที่กำลังถ่ายทำตอนที่ 7 ที่มีชื่อว่า “Golden Opportunity” ด้วยความล่าช้าของกองถ่ายทำให้นักแสดงหนุ่ม จอน เอริก-เฮกซัม เกิดอาการเบื่อขณะรอเข้าฉากจึงหยิบปืนพก .44 Magnum ที่อยู่ในฉากมาเล่น Russian Roulette เขาเอาปืนจ่อที่ขมับข้างขวาและเหนี่ยวไกโดยไม่รับรู้ถึงอันตราย ถึงแม้มันจะไม่มีกระสุนแต่ก็การใช้กระดาษหรือแผ่นใยที่อัดอยู่ในตลับลูกปืนแทนกระสุนเมื่อถูกยิงขับเคลื่อนจากกระบอกปืนอย่างแรงและอยู่ห่างจากร่างกายในระยะไม่กี่ฟุต โดยเฉพาะตรงตาหรือขมับ มันรุนแรงพอที่จะทำให้กระโหลกศีรษะแตก แม้จะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล Beverly Hills Medical Center และเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินแต่เขาเสียชีวิตหลังจากนั้น 5 วัน ด้วยวัยเพียง 26 ปี

โศกนาฏกรรม The Twilight Zone: The Movie (1982)

นักแสดง วิค มอร์โร่ว์ กับเด็ก 2 คน ไมก้า ดินห์ เล่อ (7 ขวบ) กับ เรนี ชิน อี้ เฉิน (6 ขวบ) พวกเขาเสียชีวิตในระหว่างการถ่ายทำฉากสมมติ ที่ มอร์โร่ว จะต้องกลับไปเวียดนามเพื่อช่วยคุ้มครองเด็กเวียดนาม 2 คน ตอนที่พวกเขาได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่มีอดีตทหารผ่านสงครามเวียดนาม ดอร์ซีย์ วิงโก เป็นคนขับ เกิดเหตุขัดข้องไม่คาดฝันที่ทำให้ใบพัดส่วนหางไม่ทำงาน นั่นเป็นเหตุให้เฮลิคอปเตอร์ตก เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้มอร์โร่ว์กับไมก้าถูกใบพัดตัดศีรษะขาด ส่วนเรนีถูกเฮลิคอปเตอร์ทับ เรื่องนี้มีการฟ้องร้องทางกฎหมายยาวนานกว่า 10 ปี นำไปสู่การการเปลี่ยนแปลงด้านกฎเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับความปลอดภัย

โศกนาฏกรรม รางรถไฟมรณะ กลางกองถ่ายภาพยนตร์ชีวประวัติ “Midnight Rider”

เมื่อกองถ่ายภาพยนต์แนวดราม่าเรื่อง “Midnight Rider” กำลังตั้งกล้องถ่ายทำกันอยู่บนรางรถไฟในรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ดีๆ รถไฟก็วิ่งมา ทำให้ต้องรีบเก็บข้าวของกันพัลวันแล้ววิ่งหนีไปทางสะพานข้างๆอย่างอุตลุด มันเป็นการถ่ายทำที่สถานที่ซึ่งถูกปฏิเสธไม่ให้ถ่ายทำไปถึงสองครั้งเพราะรางรถไฟแห่งนี้ยังมีการเปิดใช้งานอยู่เป็นประจำ

แต่สุดท้ายด้วยความดื้อรั้นมันกลับกลายเป็นเหตุการณ์น่าเศร้าเมื่อระหว่างการถ่ายทำโดยพลการมีรถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วสูงทำให้ทีมงานและนักแสดงต้องรีบเก็บของวิ่งหนีแต่ก็มีชิ้นส่วนของอุปกรณ์บางอย่างไปติดอยู่ในรางรถไฟทำให้ร่างของ “ซาร่าห์ โจนส์” ตากล้องสาววัย 27 ปี ถูกเหวี่ยงไปตรงทางที่รถไฟกำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงและชนเสียชีวิตอย่างอนาถทันที นอกจากนี้ยังมีทีมงานอีก 8 คนที่ได้รับบาดเจ็บ

คลิปวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปเปิดภายในศาล ซึ่งหลังจากพิจารณาคดีแล้ว “แรนดัลล์ มิลเลอร์” ผู้กำกับก็ต้องโทษจำคุก 2 ปี และคุมประพฤติอีก 8 ปี ส่วน “ฮิลลารี ชวาร์ทซ์” ผู้ช่วยผู้กำกับจะถูกคุมประพฤติ 10 ปี เช่นเดียวกับ “เจย์ เซดริช” ผู้บริหารด้านการผลิตทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าทีมงานถือวิสาสะไปถ่ายทำภาพยนตร์บนรางรถไฟโดยไม่ได้รับอนุญาต

ทีมงานเสียชีวิตกลางกองถ่ายหนัง Resident Evil: The Final Chapter

มีข่าวหลุดออกมาว่า Resident Evil: The Final Chapter “โอลิเวีย แจ็คสัน” สตันท์แมนหญิงที่ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้และยังมีรายงานเพิ่มเติมออกมาอีกว่าทีมงานวัย 34 ปีที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนอาการสาหัสนั้นเสียชีวิตแล้วในเวลาต่อมา หลังจากที่ “ริคาร์โด คอร์นิเลียส” ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2558 เมื่อกองถ่ายใช้ฉากขนาดใหญ่ในการถ่ายทำ อุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันจึงเกิดขึ้นเมื่อฉากขนาดใหญ่ดังกล่าวเกิดถล่มแล้วทับลงมายังร่างของริคาร์โด

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า “ริคาร์โดและทีมงานคนอื่นๆนั้นกำลังหมุนฉากด้วยเครื่องยนต์ แต่แล้วฉากดังกล่าวเกิดหลุดและตกลงมาใส่เขา” เขาถูกนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ครอบครัวของริคาร์โดรีบตามมายังโรงพยาบาลเมื่อทราบข่าว โดยเฉพาะชาฟีฟา ภรรยาของเขา เธอแทบใจสลาย เนื่องจากเธอเพิ่งแต่งงานกับเขาได้ไม่ถึงหนึ่งปีและกำลังจะมีลูกน้อยกับเขา ก่อนจะมาพบว่าสามีของตนเสียชีวิตแล้ว 

เหตุอันน่าสลดใจนี้กลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับกองถ่ายหนังเรื่อง Resident Evil: The Final Chapter และได้แต่หวังว่ากองถ่ายหนังเรื่องอื่นๆจะไม่มีเหตุการณ์น่าเศร้าใจแบบนี้เกิดขึ้นอีก 

ภาพยนตร์เกี่ยวกับทหาร ของ Discovery Channel (2013)

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปี 2013 เป็นการถ่ายทำในตอนกลางคืนเวลา 3:30 น. ที่วาเลนเซีย แคลิฟอร์เนีย ดาร์เร็น ริดสตอร์ม วัย 45 ปี ทำหน้าที่ช่างภาพ, ไมเคิล โดนาเทลลี วัย 45 ปีทีมงานถ่ายทำ และเดวิด กิบส์ วัย 59 ปี นักบินเฮลิคอปเตอร์ ทั้ง 3 คนอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ 206B Jetranger ระหว่างบันทึกภาพจากมุมทางอากาศ ทั้งสามเสียชีวิตทันทีหลังเฮลิคอปเตอร์เสียการควบคุมและตกลงกระแทกพื้นข้างล่าง มีข้อสันนิษฐานที่ดูเป็นไปได้มากสุดของเหตุการณ์ว่ามาจากหลักฐานสำคัญที่พบว่ามีการถ่ายทำด้วยกล้อง GoPro และใช้แผงไฟ LED ช่วยส่องสว่าง โดยเฉพาะในคืนเกิดเหตุนั้น เป็นคืนเดือนมืด และเป็นการบินในระดับต่ำ อุปกรณ์จำเป็นที่สุดของนักบินในสถานการณ์นั้นคือใช้ แว่นช่วยมองภาพในที่มืด (Night Vision Goggle) ในการบังคับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งแว่น Night Vision นี้ไวต่อแสงสว่างมาก ต้องระวังเด็ดขาดไม่ให้มีแสงสว่างภายนอกเข้าไปรบกวน โดยเฉพาะแสงจากหลอด LED ที่สว่างมาก ๆ

ขณะที่ถ่ายทำนั้น นักแสดงเบื้องล่างจะอยู่ด้านซ้ายของเฮลิคอปเตอร์ ช่างภาพและทีมงานก็จะอยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ทำให้นักบินต้องระแวดระวังและกะระยะห่างของเครื่องกับพื้นล่างทางด้านซ้าย น่าจะเป็นจังหวะที่นักบินให้ไปมองทางด้านซ้ายของตัวเครื่อง ก็ปะทะเข้ากับแสงสว่างของหลอด LED ที่สว่างจ้าซึ่งทีมงานใช้ในการถ่ายทำ ส่งผลให้เสียการควบคุมเครื่องอย่างกะทันหัน การสูญเสียครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดในการถ่ายทำภาพยนตร์ นับตั้งแต่เหตุการณ์จากกองถ่าย Twilight Zone

ขอขอบคุณข้อมูลจากช่อง สัมภเวศิลป์ และ Q-VOB และนี่ก็คือ 8 อันดับ โศกนาฎกรรม ที่เกิดขึ้นจริงระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์ ที่เราได้นำมาฝากเพื่อน ๆ ชาว Ghostsfolder เป็นอย่างไรกันบ้าง ซึ่งขอบอกได้เลยว่าเหตุการณ์สุดช็อคที่เกิดกลางกองถ่ายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงทั้งนักแสดงและเหล่าทีมงาน ถือว่าเป็นคอนเทนต์ที่หลายคนชื่นชอบ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นจริง มันเลยได้สร้างความอยากรู้อยากเห็นและประสบการณ์ที่น่าสนใจ ถ้าใครชอบคอนเทนต์แนวนี้อีก เดี๋ยวเจอกันในบทความหน้าค่ะ